วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558

Oct 11 2015 : KRYON in ISRAEL : The Final 2015 Kryon Tour


KRYON in ISRAEL  :  The Final 2015 Kryon Tour

October 11 2015

It has happened before! :

Greetings, dear ones, I am Kryon of Magnetic Service. นี่เป็นการสื่อความครั้งสุดท้ายในประเทศอิสราเอล เป็นการจบการเดินทางสำหรับหลายคน เรานั่งอยู่ในเยรูซาเล็ม ที่ไม่ไกลจากที่นี่มากนักก็คือเบธเลเฮม
การสื่อความครั้งนี้จะแตกต่าง มันแตกต่างเพราะมันเป็นครั้งแรกที่เราพูดถึงบางอย่าง ทุกๆการสื่อความที่เราเคยมีมา เราไม่เคยพูดถึงดวงดาว และถึงเวลาแล้ว ที่รัก พวกคุณบางคนอาจไม่เคยได้ยินเรื่องราวนี้ พวกคุณบางคนอาจเคยได้ยินชื่อในเรื่องราวนี้ พวกคุณบางคนอาจไม่เห็นด้วยกับเรื่องราวนี้ แต่มันก็เป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่จะย้อนกลับไปในเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่นี่ และพูดถึงประวัติศาสตร์ก่อนมีโลก มันงดงาม
มนุษย์แสดงความนับถือต่อดวงดาวอย่างไร และตอนนี้เราจะถามคุณด้วยคำถามบางคำถามเกี่ยวกับดวงดาว แต่ตอนนี้เราอยากเปิดเผยเรื่องการเกิดของผู้รู้ของความรัก ว่ากันว่า บางคนบอกว่ามันเป็นตำนาน ว่าดวงดาวชี้ลงมาที่เมืองเบธเลเฮม และแสดงความนับถือแด่ผู้รู้ของความรัก และก็มีคำร่ำลือเช่นกันว่า มีคนที่ติดตามดวงดาวเหล่านี้ แล้วก็ชี้ตัวมันเองลงมารอบๆสถานที่เกิดของเขา จำนวนมากของเรื่องราวนี้เป็นตำนาน แต่ทั้งหมดเป็นการอุปมาและมีความหมายถึงบางอย่าง และมันก็ถูกต้อง
สามกษัตริย์มาที่นี่ พวกเขาเป็นพระราชาจริงๆหรือไม่ใช่ นี่เป็นข้อเท็จจริงที่ต้องโต้แย้งกัน พวกเขาถูกขนานนามว่าผู้รอบรู้ อะไรที่พวกเขารอบรู้ ทำไมต้องเป็นผู้รอบรู้สามคนที่ติดตามดวงดาวที่ดูเหมือนเคลื่อนที่ในท้องฟ้า แล้วก็มาที่นี่ ตอนนี้เราเปิดเผยความจริงที่พวกคุณส่วนใหญ่รู้อยู่แล้ว แต่หลายคนก็พบว่ามันขัดแย้งกัน ทั้งสามคนเป็นผู้รอบรู้ เป็นโหราจารย์ พวกเขาคาดหวังสิ่งนี้ มันอยู่ในท้องฟ้า พวกเขาเห็นมันในดวงดาว
ที่รัก ดวงดาวมีบทบาทในทุกๆสิ่ง ดวงดาวมีบทบาทในการสร้างของคนโบราณทั่วทั้งโลก ดวงดาวมักจะถูกมองว่าเป็นผู้ช่วยเหลือที่รอบรู้ แม้แต่ในคนที่มีระบบความเชื่อแบบอื่น นอกจากดวงดาวแล้วมันคืออะไร มันดึงดูดคุณให้มองขึ้นสู่ท้องฟ้า ที่คุณวาดรูปสิ่งต่างๆระหว่างดวงดาว แล้วเรียกพวกมันว่ากลุ่มดาว เราจะเล่าเรื่องให้คุณฟัง
เมื่อคุณมองท้องฟ้าในเวลากลางคืน พวกคุณจำนวนมากถามตัวเองว่า มีอะไรอยู่ข้างนอกนั่น เราอยากถามคำถามที่มีเหตุผล และเราอยากให้คุณพิจารณามันกับเราสักครู่ สิ่งนี้มีความสำคัญสำหรับเรื่องนี้ เมื่อคุณมองขึ้นไป คุณจะเห็นดวงดาวจำนวนน้อยที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า นั่นไม่ใช่จำนวนมาก ในแกแลกซี่ของคุณ มีดวงดาวนับพันล้านดวง และในตอนนี้เรากำลังพูดถึงแกแลกซี่ของคุณ
คุณคิดในหนทางที่โลกวิญญาณทำงานหรือเปล่า และหนทางที่สิ่งต่างๆทำงาน คุณอาจเรียกมันว่าการสุ่ม คุณคิดหรือเปล่าว่ามีสิ่งมีชีวิตอยู่ภายนอกนั้น คนที่พิจารณาสิ่งนี้ด้วยหลักทางคณิตศาสตร์บอกว่ามันต้องเป็นอย่างนั้น และเหตุผลของพวกเขาก็ไปในทำนองนี้ ถ้าหากมันเกิดขึ้นที่นี่โอกาสก็มีสูงมาก ที่มันจะเกิดขึ้นกับดวงดาวมากกว่าหนึ่งดวง อาจนับล้าน เราเคยบอกคุณว่าคุณไม่ได้มีอยู่โลกเดียวในแกแลกซี่นี้ ตอนนี้เราจะมาต่อเรื่องนี้
ที่รัก โลกนี้มีอายุรุ่นเดียวกันกับดาวดวงอื่นๆ นับล้านๆปี เพียงแต่มนุษย์เพิ่งเข้ามาเท่านั้นเอง คุณเป็นเด็กใหม่ ที่เพิ่งมาอยู่ที่นี่ในเวลาที่สั้นมากๆเมื่อเปรียบเทียบกับอายุของแกแลกซี่ ตอนนี้มาพิจารณาสิ่งนี้กันอีกครั้งกับเรา เป็นไปได้หรือไม่ที่มีดาวเคราะห์ดวงอื่น อารยะธรรมอื่นมาก่อนคุณ ที่ตอนนี้แก่กว่าคุณนับล้านปี มีปัญญา มีเทคโนโลยี และสิ่งอื่นๆที่คุณคิดไม่ถึง พวกเขาอาจมีความสามารถแบบหลากมิติ มันอาจเป็นการยืดในทางวิทยาศาสตร์ เพื่อพิจารณาสิ่งนี้ แล้วพูดว่าความเป็นไปได้ดูดี
ในฐานะบุคคลทางวิญญาณ คุณต้องถามตัวเองว่า พวกเขามีประการณ์ของพระเจ้าหนึ่งเดียวหรือเปล่า เป็นไปได้หรือไม่ที่พระเจ้าของอิสราเอล พระเจ้าของโลก โลกของพระเจ้าหนึ่งเดียว ก็เป็นพระเจ้าองค์เดียวกับกับการสร้างสรรค์ในทุกที่ และสามารถเห็นได้โดยดาวดวงอื่น คุณจะตามเหตุผลนี่มาหรือเปล่า คุณไม่ได้มีอยู่ดวงเดียว คุณยังอ่อน
เป็นไปได้หรือไม่ที่มีประวัติศาสตร์โบราณ ที่ย้อนกลับไปได้ก่อนที่มนุษย์จะมาที่นี่ ที่เกี่ยวกับพระเจ้าหนึ่งเดียว แหล่งกำเนิดแห่งศูนย์กลาง และความรัก เป็นไปได้หรือเปล่าที่ความรักของพระเจ้าดำรงอยู่มาก่อนสิ่งใดๆในโลกนี้ คำสอนตามปะเพณีบอกว่า พระเจ้าสร้างโลก สร้างสวรรค์  และสำเร็จใน 7 วัน และ 7 วันที่เหลือก็ยังคงมีการฉลองอยู่ที่นี่ มันอาจเป็นการอุปมา แต่มันก็ได้รับความนับถือ
เป็นไปได้หรือเปล่าที่ เรื่องนี้ก็มีอยู่กับคนอื่น คนอื่นที่คุณไม่เคยพบ ก่อนเวลาของคุณ และคำตอบที่เราจะให้แก่คุณก็คือ ใช่ เรื่องราวการสร้างสรรค์บนโลกนี้เป็นที่รู้จักกันดี มันถูกเขียนขึ้นและเป็นที่รับรู้แม้แต่ที่นี่ เนื่องจากมันเกี่ยวข้องกับเรื่องอดัมกับอีฟ และเราจะเคยบอกคุณว่าเรื่องราวนี้เป็นการอุปมา ของการมาถึงของชาวพลิเอเดี้ยน ผู้นำเมล็ดพันธ์ของพระเจ้าหนึ่งเดียวมาสู่คุณ สิ่งนี้มีความขัดแย้งกันอย่างสุดขั้ว แต่นี่ก็เป็นหนทางของมัน
มีระบบในแกแลกซี่ ที่ดาวเคราะห์ดวงหนึ่งไปหว่านเมล็ดพันธ์ให้กับดาวเคราะห์ดวงอื่น ทีละดวง ด้วยการเปลี่ยนแปลง DNA ของความศักดิ์สิทธิ์จริงๆ วิทยาศาสตร์เริ่มมามองสิ่งนี้ ไม่ใช่ในทางวิญญาณ แต่ในทางวิทยาศาสตร์ ประหลาดไหมที่โครโมโซมสองอันของคุณหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ทำให้คุณมีโครโมโซม 23 คู่ แทนที่จะมี 24 คู่ ที่สัตว์ทั้งหมดมีมาก่อนคุณ
เกิดอะไรขึ้น แม้แต่นักวิทยาศาสตร์ก็พูดว่าเกิดอะไรขึ้น นักวิทยาศาสตร์จะบอกคุณว่า มันจะต้องมีการเชื่อมโยงที่หายไป เพื่อให้คุณมีการวิวัฒนาการได้อย่างถูกต้องจากสิ่งที่อยู่บนโลกนี้ ที่รัก การเชื่อมโยงที่หายไปก็คือการมาเยือนของชาวพลิเอเดี้ยน นี่คือเรื่องราวการสร้างสรรค์ในสวนอีเดน ที่แสดงออกถึงโลกและความงดงามทั้งหมดของมัน ในสวนอีเดน
มนุษย์ได้รับทางเลือก ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงใน DNA ที่ทำให้พวกเขามีความแตกต่างระหว่างความมืดและแสงสว่าง เป็นครั้งแรกที่พวกเขามีแหล่งกำเนิดแห่งการสร้างสรรค์ในวิญญาณของพวกเขาเอง พวกเขาอาจเคยมีวิญญาณมาก่อน แต่ไม่เหมือนอย่างนี้ มันเป็นการเริ่มต้นของการรู้และทางเลือกเสรีของโลก ชาวพลิเอเดี้ยนคือพ่อแม่ทางวิญญาณของคุณ และเราเคยให้ข้อมูลนี้แก่คุณมาก่อน แต่เราไม่ได้ทำที่นี่ก่อนการร้องประสานเสียง มันไม่เหมาะสม คนที่มาจากหลายๆประเทศไม่ต้องการฟังส่วนนี้ ไม่ได้เคารพในสถานต่างๆที่เรากำลังไปเยือน พวกเขาไม่ได้อยู่ร่วมกับประวัติศาสตร์ของดินแดนนี้ และเราก็ให้ความเคารพต่อสิ่งนั้นตลอดมาจนถึงตอนนี้
แต่การร้องประสานเสียง ร้องเพลงที่มอบให้โดยชาวพลิเอเดี้ยน ดังนั้นเราจึงพูดถึงมันในดินแดนอิสราเอลที่ล้ำค่านี้ เนื่องจากมีบางคนที่ต้องการฟังมัน พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่พระเจ้าหนึ่งเดียวได้สร้างสิ่งอื่นๆ และนั่นคืองานของพวกเขาที่จะให้ข้อมูลนี้แก่คุณ ไม่ต้องแสดงความเคารพแด่ชาวพลิเอเดี้ยน ทั้งหมดที่พวกเขาทำก็คือนำพระเจ้าหนึ่งเดียวมามอบให้แก่คุณ ข้อมูลที่อยู่ใน DNA ของคุณ จากนั้นก็กลายมาเป็นการหยั่งรู้
ตอนนี้ นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมเราจึงบอกสิ่งนี้ทั้งหมดแก่คุณที่นี่ เราได้พูดถึงเรื่องการยกระดับ เราได้พูดถึงเรื่องโลกนี้ที่กำลังเปลี่ยนแปลง เราได้พูดถึงประวัติศาสตร์และการทำงานของมันบนโลกนี้ เรากำลังให้การแบ่งปันชนิดหนึ่งแก่คุณ ทั้งหมดนำคุณมาสู่สิ่งนี้ การหมุนควงของอิควินอกซ์ สิ่งที่คุณสามารถเห็นได้กับดวงดาว
นี่คือคำถามและนี่คือคำตอบ ชาวพลิเอเดี้ยนเกี่ยวกับอะไร ประวัติศาสตร์ของพวกเขาเป็นอย่างไร พวกเขามีอะไรเหมือนกับคุณบ้าง พวกเขาผ่านประวัติศาสตร์ของอดัมกับอีฟของพวกเขาเองบ้างไหม พวกเขาได้รับการปลูกฝังจากดาวดวงอื่นและระบบอื่นบ้างไหม คำตอบก็คือ ใช่ คุณไม่ใช่ดาวดวงแรก ประวัติศาสตร์มันเกี่ยวกับอะไร
คุณรู้หรือเปล่าว่าภายในบันทึกอดีตชาติของคุณ คุณมีประวัติศาสตร์ของชาวพลิเอเดี้ยนอยู่ด้วย มันยังไม่ตื่นขึ้นในตอนนี้ มันจำเป็นต้องอยู่ที่นั่น เพราะว่าส่วนที่สร้าง DNA ของคุณขึ้นมาก็คือพวกเขา คุณมี DNA ของชาวพลิเอเดี้ยน มนุษย์ทุกคนบนโลกนี้ในระดับหนึ่ง มันเป็นส่วนที่ศักดิ์สิทธิ์
ประวัติศาสตร์ของพวกเขาเป็นอย่างไร พวกเขามีสงครามหรือเปล่า พวกเขามีความคับข้องใจหรือเปล่า พวกเขาทำลายซึ่งกันและกันหรือเปล่า มันเป็นดาวที่อยู่กันแบบเอาตัวรอดเหมือนที่คุณเคยเป็นมาหรือเปล่า พวกเขาผ่านสิ่งต่างๆคล้ายกับคุณหรือเปล่า และนี่คือสิ่งที่เราอยากเปิดเผย เราอยากให้คุณนั่งผ่อนคลายสักครู่ สูดลมหายใจ ใช่ พวกเขาผ่านสิ่งเหล่านั้นมาทุกอย่าง ในหนทางของพวกเขาเองบนดาวของพวกเขา สิ่งที่คุณต้องผ่าน พวกเขาผ่านมาแล้ว
พวกเขามีสถานการณ์ของการทำลายล้างหรือเปล่า ที่ชาวยิวมีอยู่ที่นี่ และสิ่งที่เรากำลังจะบอกคุณ คุณอาจไม่เชื่อ คำตอบคือใช่ และก็ 3 ครั้ง 3 ครั้ง ดาวเคราะห์ที่ผ่านความโศกเศร้า ความทุกข์ทรมาน และพลังงานระดับต่ำ จะมาถึงที่ๆพวกเขาสามารถปลูกฝังคุณด้วยเมล็ดพันธ์ของพระผู้สร้างได้อย่างไร คำตอบคือพวกเขามีการยกระดับ ด้วยทางเลือกเสรี
คนรุ่นหลังๆเริ่มเปลี่ยนแปลง และสันติภาพบนดาวของพวกเขามีความเป็นไปได้ พวกเขาไม่ได้มีเทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างที่คุณคิด เพราะว่าชาวพลิเอเดี้ยนนั้นแตกต่างจากคุณ สังคมของพวกเขาพัฒนาแตกต่างจากคุณ คุณรู้หรือเปล่าว่า DNA มีอยู่ทั่วไปทั้งแกแลกซี่ ฟิสิกส์ก็เป็นฟิสิกส์ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในแกแลกซี่ มีสิ่งมีชีวิตเหมือนกัน ด้วยโครงสร้างของ DNA ทำไมคุณจึงสงสัยสิ่งนี้ มันมีอยู่ทั่วโลก ผักก็มี DNA มันเป็นหน่วยของชีวิต พวกเขามีมัน คนอื่นก็มีมัน แต่ไม่เหมือนกันทั้งหมด
ที่จริงมีดาวเคราะห์ไม่กี่ดวงเท่านั้น ในแกแลกซี่ของคุณ ที่มี DNA เหมือนของคุณ ที่ภายในนั้นมีแหล่งกำเนิดแห่งการสร้างสรรค์ สิ่งที่เรากำลังบอกคุณมีความพิเศษมากๆ เช่นเดียวกับชาวพลิเอเดี้ยนและดาวอื่นๆที่มาก่อนพวกเขา มันเป็นระบบของการรับรู้ระดับแกแลกซี่ และมันก็จะยังเป็นไปอย่างนั้น เพราะว่าขั้นต่อไปก็คือ สันติภาพบนโลก
และการวิวัฒนาการจะเริ่มต้นขึ้นเหมือนพวกเขา เพื่อนำความสามารถหลากมิติมาสู่โลกนี้เหมือนที่พวกเขาได้รับ เทคโนโลยีระดับสูงของพวกเขา เกิดขึ้นกับจิตสำนึกของพวกเขา พวกเขาสามารถจะพัฒนาการยกระดับของ DNA ภายหลังการยกระดับ ใช้เวลาหลายชั่วอายุคน เพื่อที่พวกเขาจะเริ่มเนรมิตสิ่งต่างๆด้วยจิตสำนึกของพวกเขา แทนที่จะเป็นเทคโนโลยีหรือเครื่องจักร
ที่รัก สิ่งนี้มีความเป็นไปได้สำหรับคุณเช่นกัน แต่สิ่งที่เรากำลังบอกคุณคือสิ่งนี้ ฟัง เหตุผลที่เราพูดในแบบของเรา เหตุผลที่เราให้ข้อมูลที่เราเป็น เหตุผลที่เราพูดว่าสีสันกำลังมาเหมือนที่เราเป็น เหตุผลที่มีความสุขและการเฉลิมฉลองในแกแลกซี่ ก็เพราะเราเคยเห็นสิ่งนี้มาก่อน มีประธานของสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นที่นี่ กำลังจะเกิดขึ้นที่นี่ จะเกิดขึ้นที่นี่ ตามกำหนดเวลาที่โลกจะสร้างขึ้น และมีแต่โลกเท่านั้นที่รู้สิ่งนี้
คุณจำเป็นต้องรู้สิ่งนี้ เราเคยเห็นมันมาก่อน และก่อนนั้น ก่อนนั้น มันเก่าแก่ มันเป็นกระบวนการ เรารู้ ดังนั้นเมื่อเรามาหาคุณและให้ข้อมูลแก่คุณ คุณกลอกตาแล้วก็พูดว่า ฉันไม่เชื่อมัน มันเกิดขึ้นไม่ได้ มันมีพื้นฐานอยู่บนประสบการณ์ ผู้ที่ถ่ายทอดเมล็ดพันธ์แก่คุณ ได้ผ่านสิ่งที่คุณผ่านและความเลวร้าย แล้วเข้าสู่การยกระดับ ด้วย DNA ที่ทำงานที่ระดับประสิทธิภาพ 80%-90% พวกเขาเป็นผู้รู้บนโลกของพวกเขาทั้งหมด และก็มีสันติภาพตลอดกาล
ยินดีต้อนรับสู่โลกใหม่ สิ่งเหล่านี้มีความเป็นไปได้ เพราะว่าเราเคยเห็นมันมาก่อน คุณไม่รู้จะคิดอย่างไร เกี่ยวกับสิ่งที่กำลังมา มันอยู่ในหมายกำหนดการของคุณ พระเจ้าจะนั่งมองดูคุณทำงาน แต่อย่างที่ว่าลูกบอลหิมะได้กลิ้งลงไปแล้ว มันจะกลิ้งลงเขาไป ลูกบอลหิมะก็คือเยรูซาเล็มใหม่
เราอยากให้คุณพิจารณาสิ่งเหล่านี้ มันเคยเกิดขึ้นมาก่อน เรารู้ว่าเรากำลังพูดถึงอะไร ถึงเวลาที่จะเชื่อมันแล้ว เราครายออนรักมนุษย์ ตอนนี้คุณรู้แล้วว่าทำไม

And so it is.

วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2558

Oct 10 2015 : The PEACE choir - Pineal tones


KRYON in ISRAEL  :  The PEACE choir - Pineal tones

October 10 2015

2015 Israel Peace Choir  :

Greetings, dear ones, I am Kryon of Magnetic Service. สำหรับคนที่เพิ่งมาฟัง เรายังอยู่ที่เทลาวีฟ จนถึงตอนนี้ ข้อความต่างๆเหล่านี้มอบให้เป็นพิเศษสำหรับชาวยิว แต่เรากำลังเริ่มการร้องประสานเสียงนี้ การมาถึงของพลังงานบริสุทธิ์ การมาถึงของการส่งผ่านและการเปลี่ยนแปลง ที่เรียกว่า The Peace Choir 
ข้อความในตอนนี้สำหรับทุกคน ไม่ใช่แค่สำหรับคนในพื้นที่นี้ ตัวอย่างที่เรายกขึ้นมาแสดงก็เพราะเราอยู่ในอิสราเอล ตัวอย่างของสิ่งที่อยู่ที่นี่ แต่ข้อความนั้นเพื่อทุกคน ในช่วงเวลาสั้นๆนี้ เราอยากบอกคุณ 2-3 อย่าง ทุกๆสิ่งที่คุณกำลังทำ มีความสำคัญอย่างลึกซึ้ง คุณอาจคิดว่านี่เป็นการแสดง แต่มันมีอะไรมากกว่านั้น
จิตสำนึกคือฟิสิกส์ และฟิสิกส์ของวันนี้ก็คือความมุ่งหมายสันติภาพ แล้วประกาศมันออกไป การซ้อมเสร็จสมบูรณ์ และการร้องก็พร้อมแล้ว ไม่มีความบังเอิญสำหรับโลกวิญญาณ สิ่งที่นำคุณมาที่นี่ไม่ใช่ความบังเอิญ สิ่งต่างๆที่คุณเห็นรอบๆตัวคุณ แม้แต่หมายกำหนดการต่างๆไม่ใช่ความบังเอิญ สิ่งที่โลกวิญญาณทำตลอดมาก็คือมีหมายกำหนดการในเวลาเดียวกัน
จนกระทั่งในที่สุดคุณก็เข้าใจ มันเป็นความงดงาม มันเป็นแผน มันเหมาะสม เราเพิ่งจะจบทัวร์ของการสื่อความของครายออน 13 ข้อความ คุณอาจสงสัยว่ามันพ้องกันไหมกับจำนวน 13 ในภาษาของคู่หูของเรามันสะกดว่า Peace In Israel นั่นไม่ใช่ความพ้องกัน
คนโบราณมีระบบเลขศาสตร์โดยทั่วไป ความหมายของมันก็คือ ตัวเลขมีความหมายต่อทั้งหมด ทุกภาษามีส่วนร่วมในสมัยโบราณในระบบที่ดีกว่า แต่มีระบบอื่น ระบบที่อยู่ที่นี่ ภาษาฮิบรู ชาวฮิบรูมีระบบเลขศาสตร์ที่รวมเข้าไปในตัวอักษรของภาษาและความหมายของมัน ตัวเลขทุกตัว เมื่อพูดขึ้นด้วยตัวอักษรที่พวกเขาแสดง มีความหมาย มันถูกเรียกว่า จามาเทรีย
และเราไม่จำเป็นต้องบอกคุณเป็นการส่วนตัวว่าเลข 13 หมายถึงอะไร มันไม่ใช่ความบังเอิญ ที่การสื่อความ 13 ครั้งที่ให้ไป อย่างหลวมๆมันมีความหมายกับคนที่ไม่ใช่ชาวยิวว่า ความเป็นหนึ่งเดียวกันทางวิญญาณ ไม่ใช่ความบังเอิญ
การร้องประสานเสียงเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นการจับคู่จุดดึงและจุดผลักบนโลกนี้ เราเคยอธิบายสิ่งนี้มาแล้วหลายครั้ง มีจุดดึงและจุดผลัก 24 จุด ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่มี 24 จุด เนื่องจากมันสัมพันธ์กับเรขาคณิตศักดิ์สิทธิ์ และเราจะไม่บอกคุณว่ามันคืออะไร คุณจะคิดมันออก
การร้องประสานเสียงหลายครั้งเป็นที่รู้กันว่าเป็นการเชื่อมโยงจุดดึงและจุดผลักบนโลก บางคนมองไปข้างหน้าต่อการเชื่อมโยงนี้ มันไม่จำเป็นต้องร้องประสานเสียงเพื่อสร้างการเชื่อมโยง และก็มีการร้องประสานเสียงที่ไม่มีการเชื่อมโยงใดๆ และครั้งนี้ก็เช่นกัน มีเหตุผลว่าทำไม
ที่รัก มีจุดดึงเกิดขึ้นโดยบังเอิญเมื่อคุณยืนและนั่งในสถานที่นี้ คุณรู้หรือเปล่าว่ามีจุดดึงล้อมรอบตัวคุณ เป็นสามเหลี่ยมที่มีจุดศูนย์กลางอยู่ตรงพื้นที่นี้ จุดดึงจุดผลักเหล่านี้ได้เชื่อมโยงกันแล้ว จุดดึงที่ใกล้ที่สุดสามจุดที่ล้อมรอบคุณได้สร้างสามเหลี่ยม คุณกำลังนั่งอยู่ในกลางสามเหลี่ยมของจุดดึงและจุดผลัก
ตอนนี้เราพูดถึงพวกมันทั้งคู่เพราะว่ามันได้เชื่อมโยงกันแล้ว พูดอีกอย่างหนึ่งได้ว่าจุดสามจุดที่คุณนั่งอยู่ตรงกลาง ซึ่งเป็นจุดดึง ได้ถูกจับคู่แล้ว เหมาะเจาะอะไรอย่างนี้ มี 5 คู่ใน 12 คู่เท่านั้นที่ได้เชื่อมโยงกันแล้ว และคุณอาจพูดได้ว่า จุดทั้งสามนี้ก็เช่นกันที่เรานั่งอยู่ในสามเหลี่ยมนี้ มันจับคู่กันได้เวลาพอดี มันพร้อมแล้ว โอ มันพร้อมแล้ว ที่รัก จุดดึงเหล่านั้นคือตัวรับ
การร้องประสานเสียงเพื่อสันติภาพ มันพร้อมแล้วที่จะได้รับการกระตุ้น มีส่วนร่วม ส่งผ่าน แสดงออก เปลี่ยนแปลง จุดดึงเหล่านั้นสะท้อนถึงคู่ของมันในที่อื่นของโลก คุณอยู่ในที่ๆถูกต้อง ในเวลาที่ถูกต้อง เพื่อสร้างเสียงประสานที่จะถูกส่งไปสู่จุดดึง มันน่าสนใจใช่ไหม ในจำนวน 24 คุณร้องเป็นคู่ และคุณได้เริ่มกระบวนการ ด้วยการใช้เสียงเพื่อสร้างความสามารถ ให้จุดดึงและจุดผลักจับคู่กัน
ตอนนี้ มาถึงเต็มวงกลม คุณกำลังร้องให้กับจุดหนึ่งที่คุณช่วยสร้าง มันเป็นวงกลม คิดในหนทางนี้ คุณใช้ไฟฟ้า เพื่อสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้า นั่นคือสิ่งที่คุณกำลังทำ มันเป็นครั้งแรกของการร้องประสานเสียง ที่ร้องออกมาเพื่อให้มีผลกระทบต่อกลุ่มของคู่ที่เชื่อมโยงกันแล้ว
มันซับซ้อน เต็มไปด้วยความรัก เต็มไปด้วยจุดมุ่งหมาย มันคือการร้องประสานเสียงเพื่อสันติภาพ และมันไม่ใช่แค่สันติภาพของที่นี่ มันเป็นเมล็ดพันธ์ของสันติภาพบนโลก รับฟัง

------------------------------------------------------------------------------

เรามาต่อกัน อะไรคือความพ้องกัน มีการสื่อความเหลืออีก 5 ครั้ง ในภาษาของคู่หูของเรา เราจะสะกดคำว่า PEACE ดังนั้น เราจะเริ่มด้วยตัวอักษร P เราเคยสะกดคำนี้มาก่อน และเราก็ทำมันในดินแดนนี้ ในดินของดินแดนนี้ วันนี้ ตัวอักษร P หมายถึง ไพนีล เรามามองดูต่อมไพนีลกันสักครู่ สำหรับผู้ฟังที่ยังใหม่รวมถึงผู้ฟังที่นี่ด้วย  
คำว่าไพนีลไม่ได้แสดงออกมา มันเป็นอันดับแรกแล้วตามมาด้วยการหยั่งรู้ คนโบราณรู้ว่ามีบางอย่างอยู่ภายในตัวของมนุษย์ พวกเขารู้สึกถึงมันภายในจิตสำนึกซึ่งเป็นสมองของพวกเขา หลายคนรู้สึกว่ามันฉายออกไปหรือรับเข้ามาจากตาที่สาม ที่จริงในตอนนี้เราเข้าใจผ่านวิทยาศาสตร์ ว่าตาที่สามตั้งอยู่ที่แนวเดียวกับต่อมไพนีล
บางวัฒนธรรมเขียนจุดไว้ที่นั่น แสดงออกถึงหน้าต่างไปสู่ไพนีล และให้ความเคารพกับกระบวนการของความเข้าใจว่ามีพระเจ้าภายในตนเอง ภายหลังคุณเข้าใจว่ามีต่อมไร้ท่อเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และสิ่งนี้ก็กลายมาเป็น  Pineal Tones คุณกำลังร่วมงานกับ ยาอี (Dr. Todd Ovokaitys) เราเรียกชื่อเขาว่ายาอี ก่อนที่เขาจะรู้หรือเข้าใจ ว่าเขาสามารถร้องเพลงประสานเสียงไพนีลได้ ก่อนปี 2012 ยาอีเริ่มตื่นขึ้น มันนำมาซึ่งการระลึกได้ ของเสียงประสานที่คุณกำลังทำในวันนี้
นี่คือการทบทวน แต่มันต้องมีการทบทวนสำหรับที่ๆเรากำลังจะไป ในไม่กี่ปีมานี้ การระลึกได้ถึงไพนีลได้เปลี่ยนไปเป็นบางอย่าง เนื่องจากตอนนี้มันพัฒนาขึ้น เพื่อให้ยาอีสามารถแสดงเสียงได้แบบสดๆ แทนที่จะระลึกถึงมัน ดังนั้นเขาจึงเป็นผู้รับจากชาวพลิเอเดี้ยน ผ่านทางจุดดึงและจุดผลัก มีสิ่งที่คุณอาจเรียกว่า สถานีรับสัญญาณแล้วก็ส่งสัญญาณออกไป ข้อมูลใหม่ๆ จุดดึงและจุดผลักเป็นระบบดึงและผลัก ที่ดึงดูดพลังงานเก่าให้เป็นสุญญากาศแล้วผลักพลังงานใหม่มาให้คุณ แต่ที่รัก มันจำเป็นต้องมีตัวเร่งปฏิกิริยา มันจะไม่ทำงานถ้ามนุษย์ไม่กระตุ้นมัน อย่างน้อยต้องกระตุ้นมันด้วยจุดมุ่งหมายอย่างมีจิตสำนึก นี่คือสิ่งที่คุณกำลังทำ
ต่อมไพนีลในตอนนี้เป็นตัวถ่ายทอดสัญญาณ สู่คู่ของจุดดึงและจุดผลัก แต่ยังมีมากกว่านั้น เสียงประสานที่คุณร้องได้สร้างพลังงาน ในปี 2012 การปรากฏตัวมีความลึกซึ้งมาก คุณร้องเสียงประสานแบบเฉพาะที่ยาอีระลึกได้ การร้องประสานเสียงนี้จำเป็นต้องร้องออกไปเพื่อส่งสัญญาณไปสู่จักรวาล มันฟังดูเหมือนลึกซึ้งเกินเหตุ แต่ที่จริงแล้วสิ่งนี้คือสัญญาณ คุณรู้เสียงเหล่านี้ได้อย่างไร และระลึกมันได้อย่างไร ร้องได้อย่างถูกต้อง โดยนักร้อง 900 คน ในสถานที่ๆครั้งหนึ่งคือลิมูเรีย
ตอนนี้มาดูว่าเกิดอะไรขึ้น คุณกำลังรวมเสียงที่ระลึกได้กับเสียงในปัจจุบัน ที่คุณกำลังรับอยู่นี้ในพลังงานใหม่นี้ จากนั้นคุณก็นำเสียงไพนีลส่งกลับเข้าไปในโลก ด้วยความมุ่งหมายเพื่อสันติภาพ คุณไม่ได้ส่งมันกลับไปสู่จักรวาลอีกต่อไปแล้ว จักรวาลไม่ได้ต้องการสันติภาพ คุณต่างหากที่ต้องการ คุณกำลังส่งมันไปสู่เส้นแรงพลังงานของโลก ผ่านคู่ของจุดดึงและจุดผลักที่ได้รับการกระตุ้นแล้ว
เมื่อคุณเริ่มเปลี่ยนแปลงเส้นแรงพลังงานของโลก โดยเฉพาะเส้นแรงแม่เหล็ก มันจะไปพูดกับ DNA DNA เริ่มเปลี่ยนแปลง DNA แสดงถึงระดับประสิทธิภาพของจิตสำนึกของมนุษย์ พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ คุณกำลังมีผลกระทบต่อธรรมชาติของมนุษย์ นั่นคือบทสรุปที่ขีดเส้นใต้ ว่าคุณทำอะไรที่นี่
เสียงจะมีพลังงานเมื่อร้องด้วยกัน แต่ตอนนี้เสียงเป็นการร้องแบบปัจจุบัน ไม่ใช่มาจากอดีต มันรับและส่งด้วยจุดมุ่งหมายใหม่จากมนุษย์ จุดมุ่งหมายที่ไม่เคยเห็นมาก่อน การร้องประสานเสียงเพื่อสันติภาพ มันรับหน้าที่วางพลังงานใหม่นี้ลงบนเส้นแรงพลังงานของโลกทั้งหมด คุณกำลังปลูกฝังเมล็ดพันธ์ และเมล็ดพันธ์จะเติบโต มันควรเติบโตที่ไหน เมื่อใด ตอบว่า ในเวลาของมันเอง มันต้องเริ่มจากที่ใดที่หนึ่ง และคุณจะประหลาดใจที่มันเริ่มจากที่นี่ มันเริ่มจากที่นี่ แล้วขยายออกไปภายนอก และมีผลกระทบกับทุกคน ที่ปรารถนาจะรู้สึกถึงพลังงานใหม่ภายในตนเอง ยังมีมากกว่านั้น
วิญญาณเก่าแก่ มนุษย์มีทางเลือกที่จะรู้สึกหรือไม่รู้สึก นิทานอุปมาของชาวนาในนาที่เราให้แก่คุณ มีคนที่แสดงออกว่าไม่รู้สึกถึงสิ่งใหม่ๆ คุณหมกมุ่นกับสิ่งเก่าๆมากเกินไป แต่นิทานบอกว่าลูกของพวกเขารู้สึกถึงมันในทันทีทันใด ที่รัก จิตสำนึกก็คล้ายกับสิ่งนั้น วิญญาณเก่าแก่มีทางเลือกที่จะอยู่ในพลังงานเก่าหรือไม่อยู่ก็ได้ แต่เด็กๆรู้สึกถึงมันตอนที่เกิดมา พวกเขาไม่จำเป็นต้องเลือก มันอยู่ภายในตัวของพวกเขา และธรรมชาติของมนุษย์ในตัวของพวกเขาจะแตกต่างจากของคุณ อ่อนโยนขึ้น ฉลาดขึ้น ด้วยเมล็ดพันธ์ที่กำลังเริ่มเติบโต ในเด็กๆที่อยู่ที่นี่ และทุกๆที่ นั่นคือสิ่งที่คุณกำลังทำ นั่นคือสิ่งที่ต่อมไพนีลเป็นในวันนี้

-------------------------------------------------------------------------------

ครายออน : ยาอี (Dr. Todd Ovokaitys) เกิดอะไรขึ้นกับเสียงประสานเหล่านั้น
Dr. Todd : ผมลืมจิตใจของผมไปชั่วคราว
มันดีมากที่สิ่งเหล่านี้เกี่ยวกับจุดมุ่งหมาย และไม่แม่นยำ คุณอาจได้ยินมาจากแม่ของคุณ ให้เราอธิบายสิ่งนี้ มีสิ่งหนึ่งที่มีความมุ่งหมายมากกว่าแม่ของชาวยิว นั่นก็คือแม่ของชาวพลิเอเดี้ยน เนื่องจากแม่ชาวพลิเอเดี้ยนเป็นภาวะหลากมิติ และคุณไม่สามารถหนีจากเธอได้ นั่นคือทั้งหมดที่เราจำเป็นต้องพูด
จุดมุ่งหมายคือกุญแจ ยาอีทำสิ่งที่ไม่มีใครบนโลกทำ คุณนำมนุษย์จากทั่วโลกมารวมกันเป็นหนึ่งเดียว และคุณได้สร้างสิ่งที่เราจะพูดถึงในตอนนี้ ตัวอักษร E ในการท่องเที่ยว ตัวอักษร E หมายถึง การตื่นรู้(Enlightenment) และมันก็ยังเป็นอย่างนั้น ในชั่วขณะสั้นๆนี้เราจะให้ตัวอย่างแก่คุณ เนื่องจากเราเป็นนักร้องประสานเสียงแห่งสันติภาพ
มีรูปธรรมหลากมิติที่นี่ ที่คุณจำเป็นต้องรู้สิ่งนี้ มันเป็นคณะผู้ติดตามที่มาจากหลายแหล่ง แต่จุดมุ่งหมายของสิ่งนี้ ผู้สร้างสิ่งนี้ที่นั่งอยู่กับเรารู้จักมันดี เราหยอกเขาเกี่ยวกับแม่ของเขา แต่เธออยู่ที่นี่ และเธอก็คือผู้ที่กระซิบบอกเขาเกี่ยวกับเสียงและสอนเขา ในเสียงที่คุณได้ฟังในตอนนี้
การตื่นรู้อย่างย่อๆเรามาต่อกันด้วยตัวอย่าง อะไรคือการตื่นรู้ อย่างที่ได้ให้คำจำกัดความไว้ตอนทัวร์ พวกคุณหลายคนได้ฟัง การตื่นรู้มีคำจำกัดความว่า มนุษย์ที่สามารถมองเห็นมุมมองอื่นได้ จากนั้นเขาจะตื่นรู้สู่ทัศนคติของคนอื่น การตื่นรู้นี้ให้เขาหรือเธอมีความสามารถที่จะสร้างสันติภาพระหว่างผู้คน เขาหรือเธอหรือคนอื่นๆ นี่คือมนุษย์ที่ตื่นรู้ ที่เห็นความเมตตาเป็นอันดับแรก
มาทดสอบกัน เราจะยกตัวอย่างสิ่งที่เรากำลังพูดถึง ที่สัมพันธ์กับสถานการณ์ของดินแดนนี้ เรามีงานสังสรรค์กัน แล้วอภิปรายว่ามันเหมือนกับอะไร อะไรคือความเชื่อที่ตรงข้ามกันของดินแดนนี้ คุณอาจเห็น ชาวยิวที่เชื่อในคำสอนดั้งเดิมและชาวมุสลิม เราบอกว่า ไม่ใช่ พวกเขาเป็นพี่น้องกันและพวกเขาเพียงแต่ถูกแยกออกจากกัน ด้วยปัญหาทางประวัติศาสตร์และคำสอน ไม่ เอาที่มันรุนแรงกว่านั้น
เรามาจับคู่กันใหม่อีกครั้งระหว่างชาวคริสต์กับชาวยิว เรานำพวกเขามาอยู่ด้วยกันที่งานสังสรรค์ในคืนวันศุกร์ พวกเขาถูกแยกออกจากกันด้วย คริสต์ศักราช และก่อนคริสต์ศักราช นั่นคือการแบ่งแยก มาดูกัน เพราะว่านี่ไม่ใช่การอุปมา นี่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว มันเคยเกิดขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า และมันจะยังคงเกิดขึ้นต่อไป
เรามาตั้งสถานะกัน พวกเขาต่างตื่นรู้ด้วยกันทั้งสองฝ่าย พวกเขาตื่นขึ้นสู่คำจำกัดความที่เราให้คุณ ชาวคริสต์มาแล้วพวกเขาก็รู้ เขารู้ความเชื่อของคนอื่นและรู้ว่าทำไม มันไม่ใช่หนทางของเขา มันไม่ใช่กฎของเขา เขาเห็นมากกว่านั้น เขาเห็นพระเจ้าภายในและความมุ่งหวังของชาวยิว
ชาวยิวเห็นสิ่งเดียวกันในชาวคริสต์เตียน ว่าชาวคริสต์เตียนรู้และเมตตาต่อความเชื่อของชาวยิว และพวกเขาแบ่งปันกัน ในคืนวันศุกร์บางทีมันอาจจำกัดสิ่งที่พวกเขาจะแบ่งปัน พวกเขารับประทานอาหารร่วมกัน ที่ถูกจัดเตรียมอย่างเหมาะสมในวันก่อน และพวกเขาก็แบ่งปันอย่างอื่นด้วย พวกเขาแบ่งปันคำสอนที่พวกเขามีด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งเป็นความมุ่งหมายของพระเจ้า เมื่อพระเจ้าพูดว่าจะมีวันหนึ่งที่สงบและรู้ว่าเราคือพระเจ้า
พวกเขามองกันแล้วพูดว่า เราทำอะไรได้บ้างนอกจากรับประทานอาหารร่วมกันและแบ่งปันคำสอน เราเต้นรำได้ไหม เราฟังเพลงได้ไหม ไม่ได้ แต่เราร้องเพลงได้ ดังนั้นพวกเขาจึงร้องเพลงกัน พวกเขาร้องเพลงแห่งความรัก ชาวยิวร้องเพลงที่แม่ของเขาร้องให้เขาฟังตอนเขาเป็นเด็ก เพลงแห่งความรักที่มีความหมายต่อเขามาก ไม่ใช่เพลงของความเชื่อของเขา ศาสนาของเขา หรือคำสอนของเขา
ถึงตาของชาวคริสต์เตียน เขากุมหน้าอกแล้วร้องเพลงที่แม่ของเขาร้องให้เขาฟัง ตอนเขาเป็นเด็ก พวกเขาสอนเพลงซึ่งกันและกัน เรียนภาษาของเขา ร้องเพลงในตอนกลางคืนและรักซึ่งกันและกัน นั่นคือคำสัญญาของสันติภาพบนโลก
ที่รักเมื่อคุณร้องเสียงหนึ่ง คุณร้องเสียงหนึ่งและมีสมาธิกับเสียวเดียวนั้นหรือเปล่า หรือคุณฟังเสียงอื่นด้วย ให้แน่ใจว่ามันเหมาะสมกับคุณ รู้มันทั้งคู่ในเวลาเดียวกัน ให้ต่อมไพนีลรู้และคิดว่าคุณเข้าใจ ถึงเวลาของส่วนที่สบายๆแล้ว

-------------------------------------------------------------------------------

หัวข้อคือ PEACE มาถึงตัวอักษร A ตัว A เป็นตัวเริ่มต้นของตัวอักษรในภาษาของคู่หูของเรา และมีการเริ่มต้นที่นี่ เนื่องจากเราให้ตัวอักษร A เป็นการกระทำ(Action) ที่รักมีกระบวนทัศน์ใหม่ได้รับการคาดหวังในพลังงานใหม่ บุคคลลึกลับจำนวนมากเชื่อว่า การประชุมที่เขาเข้าร่วมและสิ่งที่พวกเขาทำในการประชุมจะเป็นทั้งหมดที่จำเป็น เพื่อสร้างสิ่งที่พวกเขากำลังทำ พวกเขาไปพบปะกันเพื่อภาวนา พิธีกรรมของการอวยพรชนิดหนึ่ง
พวกเขาไปโบสถ์ พอพวกเขากลับออกมา พวกเขาก็เปลี่ยนไป พวกเขาพูดว่าการกลับไปสู่ชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นการเอาตัวรอดบนถนน ที่คุณพาครอบครัวแข่งขันกัน ไปสู่ที่ทำงาน ถ้านั่นคือสิ่งที่คุณทำ และมันมักจะแบ่งแยก การกระทำของมนุษย์มีแนวโน้มในการแบ่งหมวดหมู่ เกี่ยวเนื่องกับสิ่งที่พวกเขาพยายามทำให้สำเร็จ
ถ้าคุณต้องการประสบความสำเร็จในจุดมุ่งหมายทางวิญญาณ คุณคุกเข่านานขึ้น หรืออยู่ในโบสถ์นานขึ้น มันดูเหมือนเหมาะสมกับการทำมากขึ้น เวลามากขึ้น จำนวนมากขึ้น และสิ่งนั้นกำลังเปลี่ยนแปลง ถ้าหากคุณมองไปที่ระบบทางวิญญาณ และกฎของระบบ จะมีช่วงเวลา มีการกระทำ มีสิ่งที่ทำ และสิ่งที่ไม่ทำ ทั้งหมดนี้เพื่อนำคุณไปสู่สถานที่หนึ่ง ที่คุณสามารถทำความเคารพได้ ที่คุณสามารถสร้างความแตกต่างได้
การกระทำกำลังเปลี่ยนแปลง เมื่อคุณจากที่นี่ไป คุณจะแตกต่างไปจากเดิมหรือเปล่า เราอยากให้คุณผ่อนคลายสักครู่ และรู้สึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ คนที่มีจิตใจคล้ายๆกัน ที่คุณสามารถผ่อนคลายได้ภายในกลุ่มนั้น คุณสามารถรักได้ และคุณปลอดภัย ที่สามารถจับมือคุณขึ้นมาและยกระดับเสียงของคุณ มือของคุณบนหัวใจของคุณ ไม่มีใครคิดอะไรกับมัน
คุณสามารถร้องเพลงประสานเสียงที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ กับคนอื่นที่ทำอย่างเดียวกัน และเมื่อคุณจากที่นี่ไป คุณคือใคร บางทีคุณอาจขับรถแล้วก็หงุดหงิดกับรถโง่ๆที่ขับอยู่หน้าคุณ สงสัยว่าคนๆนั้นทำไมจึงโง่เหลือเกิน พูดบางอย่าง คุณมีปฏิกิริยาอย่างไรกับคนที่ไม่เชื่อในสิ่งที่คุณเชื่อทางการเมือง คุณแหกปากได้ดังแค่ไหน คุณโต้เถียงได้มากแค่ไหน คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อมีใครบางคนมองมาที่คุณแล้วเรียกชื่อคุณ(ไม่สุภาพ) คุณทำอย่างไร
ถ้าหากคุณไม่นำการประสานเสียงเหล่านี้เข้าไปในตัวของคุณ สิ่งที่คุณทำที่นี่จะไม่ได้สร้างความแตกต่าง เราอยากให้คุณรู้สิ่งนี้ ทำไม คุณฝึกซ้อมมัน คุณคิดว่าคุณทำมันได้ดีในวันนี้ เปล่าเลย เมื่อคุณได้รับการฝึกทางดนตรีหรือโน้ต ตัวโน๊ตที่คุณร้องออกมาเป็นเพลง เปล่าเลย สิ่งที่คุณได้รับก็คือการท่องจำ เพื่อให้คุณจดจำการร้องประสานเสียงภายในตัวคุณได้ เพื่อให้คุณร้องให้กับตัวเองได้ และจำได้ว่าเสียงของมันเป็นอย่างไรเมื่อคนอื่นร้องมันพร้อมกับคุณ
ที่รัก  คุณกำลังอยู่ในวงล้อมของความรัก เมื่อคุณจากที่นี่ไป คุณไม่ได้อยู่ในนั้น และสิ่งที่เรากำลังจะบอกคุณก็คือ คุณต้องกลายเป็นวงล้อมของความรักของตัวคุณเอง เมื่อคุณเดินออกไปบนถนน ไม่ว่าใครจะอยู่ที่นั่น ไม่ว่าพวกเขาจะพูดอะไร ไม่ว่าพวกเขาจะเชื่ออะไรหรือไม่เชื่ออะไร การกระทำของคุณก็คือสร้างเสียงประสานของความเมตตาเพื่อความอยู่รอด
คุณสามารถเอาตัวรอดได้หรือเปล่า ด้วยเครื่องมือนี้เพียงอย่างเดียว ให้เราถามคุณว่า คุณทำอะไรมาตั้งนาน บางทีมันอาจเป็นเวลาของการเปลี่ยนแปลงทัศนคติ ของสิ่งที่เรียกว่าการเอาตัวรอดที่อาจเป็น ถ้าหากคุณสามารถรักษาหัวใจของความเมตตาไว้ได้ คุณตระหนักหรือเปล่าว่าสิ่งนี้อาจเปลี่ยนแปลงผู้คนรอบๆตัวคุณได้ แม้แต่คนที่คุณโห่ไล่ พวกเขาจะไม่มีปฏิกิริยา พวกเขาจะไม่ต่อสู้ พวกเขาจะไม่โต้เถียง
ผู้รู้ที่มาอยู่ในโลกนี้ทุกๆคน ทั้งที่นี่และที่อื่น ทำตัวให้คุณเห็นเป็นตัวอย่าง พวกเขามีสมดุลและมีเมตตาไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น สมดุลที่พวกเขามีมาจากสิ่งที่พวกเขามีภายในตัวของพวกเขา นั่นคือสิ่งที่คุณกำลังเรียนรู้ มันมากกว่าการร้องประสานเสียง มันเป็นตัวอย่าง มันเป็นการกระทำ จากนั้นก็สร้างความแตกต่าง มีพระเจ้าภายในตนเองตลอดเวลา

-------------------------------------------------------------------------

ยาอีเคยเล่าถึงการรับรู้รหัส DNA ของผู้รู้ มีการอุปมาอย่างมากที่นี่ ยาอียังเป็นนักวิจัยเกี่ยวกับสเต็มเซลด้วย มีอาชีพทางด้านการแพทย์ เขาค้นพบบางอย่างทางการแพทย์ และก็เป็นหลักการทางจิตสำนึกด้วย หัวข้อของเรื่องนี้คือ PEACE ตัวอักษร C
จิตสำนึก(Consciousness) และ DNA มีความสัมพันธ์กัน ไม่ใช่แค่สัมพันธ์กันแบบไปไหนไปกัน เนื่องจาก DNA ได้บรรจุแม่แบบของทุกสิ่งเอาไว้ ที่ทำงานร่วมกันกับร่างกายมนุษย์รวมถึงจิตสำนึกด้วย DNA เหมือนกันไปหมดทั่วทั้งร่างกาย หลายพันล้านเซลของ DNA เป็นคุณเหมือนกันทั้งหมด และแม่แบบนั้นหรือพิมพ์เขียวนั้นก็คือคุณ ไม่ใช่เพียงแค่สิ่งที่มันมีที่เป็นสารเคมี แต่รวมถึงบันทึกอดีตชาติของคุณ การระลึกได้ของคุณด้วย
มันไปโน้มน้าวความคิดของคุณ จิตสำนึกของสิ่งที่คุณมีเมื่อคุณมาอยู่บนโลก และการยกระดับจิตสำนึกที่คุณกำลังทำงานด้วยในตอนนี้ ของคุณและของมนุษยชาติ ยาอีได้ค้นพบในสิ่งที่เขาสอนและมันยังไม่มีชื่อเรียกในตอนนี้ มันเป็นหลักการที่ว่ามีแสงสว่างในร่างกาย และเราเรียกมันว่าหลักการทางด่วนของความกรุณา นั่นหมายความว่าร่างกายจะมองไปและรับสิ่งที่ใหญ่กว่าอยู่เสมอ ไม่ใช่สิ่งที่เล็กกว่า
ในการทดลองของเขาทั้งหมด ตั้งแต่ช่วงเวลาของควอนตัมเลเซอร์เป็นต้นมา เขาไม่เคยได้รับผลที่เป็นลบเลย ไม่เคย นั้นคือสิ่งที่แทบเป็นไปไม่ได้ในทางเคมี ถ้าหากคุณรวมสารเคมีเข้าด้วยกัน แม้จะเป็นแบบสุ่ม มันต้องมีการทดลองบางตัวอย่างที่เป็นไปในทางอื่น เขาไม่เคยมีเลยแม้แต่ครั้งเดียว เขาทำงานร่วมกับหลักการทางด่วนของความกรุณา
เมื่อเซลเห็นบางอย่างที่ดีกว่า มันจะต้องการและมันจะไปเพื่อสิ่งนั้น ในการวิจัยเกี่ยวกับสเต็มเซล คุณได้แสดงออกถึงสิ่งที่ใหม่ที่สุดและดีที่สุดต่อร่างกายที่อาจกำลังมีปัญหาหรือแก่ตัวลง มันเข้าไปในร่างกายแล้วร่างกายก็เห็นมัน แล้วแม่แบบก็ทำสำเนาตัวเอง การรักษาเริ่มต้นขึ้น  ร่างกายมองเห็นแม่แบบใหม่ อาจเป็นสิ่งที่มันเห็นตอนมันเป็นเด็กแล้วมันก็ลืมไป มันเห็นแม่แบบดั้งเดิม จากนั้นแม่แบบก็เริ่มยกระดับและเปลี่ยนแปลง แม่แบบทางด่วนของความกรุณา
คิดสักครู่ถึง สิ่งที่ไม่มีนักวิจัยคนไหนอยากทำ นำ DNA ของคนที่แก่มากๆ แล้วฉีดเข้าไปในคนหนุ่ม เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น เราจะบอกคุณว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ร่างกายปฏิเสธสิ่งที่มันเห็น มันไม่มีความสุข ที่เห็นสิ่งที่อ่อนแอ หลักการของความกรุณาจะเริ่มต้นขึ้น เราอยากให้คุณจำสิ่งนี้ เนื่องจากเมล็ดพันธ์แสดงออกถึงจิตสำนึกที่คุณปลูกฝังในตอนนี้ ยิ่งมนุษย์มีทางด่วนของความกรุณามากขึ้นเท่าใด มันจะแพร่ถึงกัน
คนที่อยู่รอบตัวคุณจะเห็นบางอย่างที่เห็นในตัวของผู้รู้ พวกเขาต้องการมัน จากความเหนื่อยล้าของความคับข้องใจ แรงเสียดทาน และสงคราม พวกเขาต้องการสิ่งที่ดีขึ้น หลักการทางด่วน จิตสำนึกที่สูงกว่าที่คุณสามารถแสดงได้ บนเส้นแรงพลังงานของโลกนี้ และจะแพร่ไปสู่เด็กที่เกิดตามมา มันไม่ได้เป็นแบบตามลำดับ แทบเป็นไปไม่ได้
เมล็ดพันธ์ที่คุณปลูกฝังในวันนี้ จะเป็นแบบยกกำลัง มันไม่ใช่แพร่ไปแบบคนต่อคน ไม่ใช่การคูณจำนวนคน เหมือนกับจำนวนประชากร มันขยายออกไปในหนทาง ที่รัก วิญญาณมีความงดงามเนื่องจากสิ่งที่มนุษย์เห็นและต้องการ คุณกำลังเปลี่ยนแปลงแม่แบบของจิตสำนึก

-------------------------------------------------------------------------------

สุดท้าย ตัวอักษร E หมายถึงจบ (End) ไม่ใช่การจบวัน ไม่ได้หมายถึงการจบการทัวร์ หรือการจบการร้องประสานเสียง ตัวอักษร E ตัวนี้หมายถึง การจบของยุค หลายปีมาแล้วที่เราบอกคุณเกี่ยวกับเวลานี้
เราบอกคุณเกี่ยวกับการมาของมัน จากนั้นเราก็บอกคุณว่ามันเกิดขึ้นที่นี่ ตอนนี้เราบอกคุณว่าต้องทำอะไร และตอนนี้มันกำลังทำอะไร 26 ปีก่อน เราบอกคุณเกี่ยวกับการสิ้นยุค การเริ่มต้นของสิ่งที่แตกต่าง ที่ประวัติศาสตร์จะต้องบันทึกไว้ในวันหนึ่ง พวกเขาจะเห็นมัน วัดมันได้ และในที่สุดจะเห็นมันในความงดงามของมัน
ที่รัก คุณอยู่ที่จุดเริ่มต้นของสิ่งนี้ และเราจะพูดอีกครั้งหนึ่งว่าเราอยู่ที่จุดเริ่มต้น สิ่งนี้เกิดขึ้นอย่างช้าๆ อารยะธรรมเปลี่ยนแปลงจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งอย่างช้าๆ หลายๆชั่วอายุคนจะค่อยๆยกระดับจิตสำนึก หนทางเปลี่ยนไป ธรรมชาติของมนุษย์เริ่มเปลี่ยนแปลง วิญญาณเก่าแก่ คุณเป็นพวกแถวหน้า นี่คือจุดสิ้นสุดของเวลาเก่าๆ คุณอยู่ในการเปลี่ยนผ่าน และพวกคุณจำนวนมากไม่เชื่อหรือไม่เห็นมัน เพราะว่ามันเกิดขึ้นอย่างช้าๆ คุณใจร้อน คุณต้องการมันในตอนนี้เลย
ถ้าหากมันใช้เวลาแค่ไม่กี่ปี คุณก็เพิ่งเรียนรู้ว่ามันเป็นอย่างไร แต่เราก็บอกอีกครั้งหนึ่งว่า มันต้องเริ่มจากที่ไหนสักแห่ง จากนี้ไปอีกนาน พวกเขาจะมองกลับมาอย่างลึกลับ ที่การร้องประสานเสียงในเทลาวีฟ ประเทศอิสราเอล พวกเขาจะเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นบนโลก พวกเขาจะรู้เกี่ยวกับทางเลือกอื่น และพวกเขาถึงกับพูดว่า พวกนั้นไม่รู้อะไรเลยตอนที่เริ่มมัน บางคนเดินจากไปด้วยความสงสัยว่ามันจริงหรือไม่จริง บางคนที่เป็นนักดนตรีอาจถึงกับวิเคราะห์ตัวโน๊ต
เหล่าคนลึกลับรู้ว่าสิ่งนี้ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล ตอนที่คุณทำมัน แต่ในการระลึกอดีต คุณเห็นผลของมัน ที่รัก เป็นไปได้หรือเปล่า ว่าเมล็ดพันธ์ได้ถูกปลูกฝังในสามเหลี่ยมของจุดดึง จะเริ่มกระบวนการที่นี่และบนโลก ที่เราบอกมามากกว่า 20 ปี มันเป็นเหตุผลที่ทำไมเราจึงมาอยู่ที่นี่
ในที่สุดสิ่งนี้จะเป็นศักยภาพ ตอนที่เรามาสิ่งนี้เป็นศักยภาพ เราบอกคุณว่ามันเป็นศักยภาพ มนุษย์ทุกคนมีทางเลือกเสรี ไม่จำเป็นต้องมา ไม่ต้องมีความเข้าใจความลึกซึ้งของสิ่งที่คุณกำลังทำ และคุณก็ทำมัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่คุณขึ้นทางด่วน วิญญาณเก่าแก่ ที่นี่คุณเห็นมันและมันก็เป็นของคุณ ออกจากที่นี่ด้วยการเปลี่ยนแปลง วันหนึ่งประวัติศาสตร์จะรู้ว่าคุณเคยอยู่ที่นี่

And so it is.