วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

KRYON EGYPT TOUR 1 : “TEMPLE OF HATHOR” , “TEMPLE OF SETI IN ABYDOS”



KRYON EGYPT TOUR 1  :  “TEMPLE OF HATHOR”  ,  “TEMPLE OF SETI IN ABYDOS”

February 2-13-2017

TEMPLE OF HATHOR  :

Greetings, dear ones, I am Kryon of Magnetic Service.  เราอยู่ในวิหารของฮาตอร์ ที่รัก เราขอให้คู่หูของเราไปอย่างช้าๆ ที่นี่มีตำนานอันยิ่งใหญ่ ที่นี่มีข้อความที่ก้าวล้ำกว่าชาวอียิปต์รู้ ที่รัก เราอยากเปิดเผยเรื่องลึกลับ สิ่งที่ไม่จำเป็นที่ผู้สอนต้องเชื่อ ดังนั้น จะมีความขัดแย้งกันอย่างมโหฬาร
เราขออนุญาตบรรพบุรุษและคนโบราณสำหรับข้อมูลนี้อีกครั้งหนึ่ง เราเริ่มให้สิ่งนี้แก่คุณในวิหารไอซิส ตอนนี้เราจะเปิดเผยเรื่องราวที่เหลือ โดยเฉพาะเรื่องราวที่เขียนบนฝาผนังคือเรื่องราวที่คุณควรรู้ พรรณนาสิ่งต่างๆที่ชาวอียิปต์ไม่รู้ ที่รัก วัฒนธรรมนี้มีความพิเศษ เนื่องจากมันเริ่มต้นขึ้นมาด้วยความรู้ของแสงสว่าง มีไม่กี่วัฒนธรรมเท่านั้น ที่เริ่มต้นด้วยความจริง และที่นี่คือหนึ่งในวัฒนธรรมเหล่านั้น
ตั้งแต่เริ่มต้น พวกเขาพูดถึงพระเจ้าบนสวรรค์ กระบวนการของการยกระดับ ความหมายของแสงสว่าง ของวิหารแห่งแสงสว่าง แล้วพวกเขาก็หมกมุ่นอยู่กับดวงดาวและชีวิตหลังความตาย วัฒนธรรมส่วนใหญ่มาไม่ถึงตรงนี้ แต่วัฒนธรรมนี้เริ่มต้นที่ตรงนี้ มีวัฒนธรรมอื่นด้วยเช่นกัน คล้ายกับว่าพวกเขามีครูตอนที่พวกเขามา และพวกเขาก็มี
ที่รัก เราอยากพาคุณไปที่หนึ่ง เราจะพาคุณไปในประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ของโลกนี้ที่ลึกลับ เราสอนมาตั้งแต่ครายออนมาถึงโลกนี้ว่า เรื่องราวการสร้างสรรค์ เรื่องราวของอดัมกับอีฟ ก็คือเรื่องราวของการได้รับการหว่านเมล็ดพันธ์จากดวงดาว และผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ก็คือผู้ที่มาจากหมู่ดาวเจ็ดพี่น้อง และนี่คือมาของความศักดิ์สิทธิ์ของเลข 7 ทั่วโลก เราสอนว่าคุณมีพลังงานเพศหญิง ความเมตตาของแม่
ในการสื่อความครั้งแรกในดินแดนนี้ เราบอกคุณว่าเราจะเปิดเผยสิ่งเหล่านี้ เราบอกคุณด้วยว่า ย้อนกลับไปให้ไกลที่สุดเท่าที่คุณจะไปได้ในอียิปต์ ยิ่งย้อนกลับไปไกลเท่าใด ยิ่งศึกษาสิ่งเก่าๆมากเท่าใด ผู้หญิงก็ยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นเท่านั้น ไม่ใช่แค่วัฒนธรรมนี้เท่านั้น เราอยากพาคุณกลับไปในบางที่ เราอยากพาคุณกลับไปในเผ่าอะบอริจิน วัฒนธรรมของพวกเขาบันทึกไว้ว่ามีอายุสิบเท่าของอียิปต์
ถ้าคุณศึกษาวัฒนธรรมของพวกเขา พวกเขาจะบอกคุณว่าเรื่องราวการสร้างสรรค์มาจากชาวพลิเอเดี้ยน ชาวอะบอริจินไม่ได้สร้างสิ่งปลูกสร้าง ไม่มีงานเขียนบนฝาผนัง แต่พวกเขาก็ทิ้งเพลงไว้ให้เรียนรู้ยาวหลายไมล์ ประวัติศาสตร์ของพวกเขาเขียนขึ้นในเพลง และพวกเขาก็มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มาจนถึงวันนี้
พวกเขาบอกว่าชาวพลิเอเดี้ยนคือต้นกำเนิดเรื่องราวการสร้างสรรค์ของโลกนี้ แต่ยิ่งไปกว่านั้น เราอยากให้คุณเข้าใจสิ่งนี้ ถ้าคุณไปสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวอะบอริจินในวันนี้ ทั้งหมดดำเนินการโดยผู้หญิง ยังมีมากกว่านั้น มีหลายสถานที่ๆคุณไม่สามารถไปได้ ที่อยู่รอบๆก้อนหินศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา ถ้าคุณถามพวกเขาว่าทำไม พวกเขาจะตอบว่าผู้ที่ไม่สามารถเอ่ยชื่อได้ยังอาศัยอยู่ที่นั่น เมื่อคุณถามพวกเขาว่าเป็นไปได้อย่างไร พวกเขาจะตอบว่า เป็นเพราะพวกเขาเป็นหลากมิติ
เราอยากพาคุณไปเกาะอีสเตอร์ในกลางหมาสมุทรแปซิฟิกซีกโลกใต้ ถามพวกเขาว่าใครคือแหล่งกำเนิดแห่งการสร้างสรรค์ ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เล็กๆนี้ พวกเขาจะชี้ไปที่รูปสลักแล้วก็ตอบว่า พวกเขาคือชาวพลิเอเดี้ยน พวกเขาจะพูดเกี่ยวกับนักเดินทางเจ็ดคน ถ้าคุณไปเกาะฮาวายในตอนกลางมหาสมุทรแปซิฟิก ทั้งหมดที่สอนมาตั้งแต่ต้น เป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ที่มาจากดวงดาว คาฮูน่าอยู่กับคุณ ถามเธอดูว่า ประวัติศาสตร์จริงๆเป็นอย่างไร เราเคยบอกคุณว่าเกาะนั้น อยู่แยกจากทวีปอื่น และมีขื่อว่าลิมูเรีย ที่นั่นมีครูผู้หญิงยังอยู่ที่นั่นในหลายๆด้าน
ให้เราพาคุณไปที่อียิปต์โบราณ คุณนั่งอยู่ในวิหารของฮาตอร์ ชาวอียิปต์ แม้ว่าพวกเขาจะมีพระเจ้าหลากมิติ แต่ก็เป็นเส้นตรงอย่างสุดขั้ว ความเป็นเส้นตรงถูกคาดหวังมาจากจิตสำนึกแบบสามมิติของมนุษย์ ดังนั้น พระเจ้าของพวกเขาทั้งหมดและตำนานของพวกเขาจึงวนเวียนอยู่รอบๆการสร้างสรรค์แบบเส้นตรงและกฎของการเกิด คุณมีพ่อ ดวงอาทิตย์
แม้แต่พระเจ้าก็เป็นในหนทางนี้ คุณได้เห็นความก้าวหน้าของพวกเขา ชื่อของพวกเขา แต่พวกเขาบอกคุณว่าพวกเขาเป็นหลากมิติ ตอนนี้ ให้ไปอย่างช้าๆ คู่หูของเรา เนื่องจากส่วนต่อจากนี้คือสิ่งที่เราอยากให้คุณเข้าใจ คุณจะอธิบายสิ่งที่เป็นหลากมิติได้อย่างไร มันยาก แต่วิทยาศาสตร์ก็มา แล้วก็ทำสิ่งนี้ไห้คุณ
สิ่งที่เป็นหลากมิติมักจะอยู่นอกเหนือความเป็นจริงของคุณ มันอยู่ในเวลาแบบวงกลม ที่สามารถไปได้ทั้งสองทิศทาง ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าเวลาในสถานที่หลากมิติ แต่ชาวอียิปต์มีสิ่งนี้อยู่กับพวกเขา พระเจ้าเป็นหลากมิติ เพียงแต่พวกเขาไม่ได้นำมันมารวมกัน มีคนพื้นเมืองในอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ที่เชื่อในเรื่องชาวพลิเอเดี้ยนเช่นเดียวกัน
พวกเขาพูดหลายครั้งเกี่ยวกับเปลี่ยนรูปร่างได้ วิญญาณหนึ่ง ร่างกายหนึ่ง หรือพระเจ้า สมามารถเปลี่ยนไปเป็นอีกร่างหนึ่ง ในหนทางนั้น วัฒนธรรมยังคงมีการสอนแบบนั้นอย่างคงเส้นคงวา ในทิเบตมันเป็นเรื่องธรรมดา วิญญาณหนึ่งสามารถกลับมาเกิดใหม่ได้ แล้วก็กลับมาสอนต่อไป ในฐานะของลามะ มันเป็นระบบในแบบสามมิติ ที่อนุญาตให้มีภาวะหลากมิติ
ที่รัก นี่คือสิ่งที่เราอยากบอกคุณ มีมากกว่าหนึ่งฮาตอร์ มีฮาตอร์มากมาย มีความใกล้ชิดอย่างมากกับชาวพลิเอเดี้ยน มันคืออะไร ที่วัฒนธรรมมีเหมือนๆกันที่บอกเกี่ยวกับเมล็ดพันธ์ของดวงดาวนี้ พวกเธอทั้งหมดล้วนเป็นผู้หญิง คนสอนคือผู้หญิง ต้องเป็นอย่างนั้น อาจพูดได้ว่า พวกเขานับญาติกันแบบศักดิ์สิทธิ์
พวกเขาแสดงออกถึงทางช้างเผือก คุณว่ามันน่าสนใจหรือเปล่า ที่เทวีของความรักและความเมตตา และทางช้างเผือก บางทีสัมพันธ์กันกับการครบรอบการหมุนควงของอิควินอกซ์รอบปัจจุบันนี้ เนื่องจากข้อมูลนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับจุดศูนย์กลางของทางช้างเผือก นี่คือสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้ มีฮาตอร์มากมาย มีครูตั้งแต่เริ่มต้น ตอนนี้กลุ่มนี้ได้มีประสบการณ์นี้เรียบร้อยแล้ว
เหตุผลที่เราทำบางสิ่ง ให้เราบอกคุณว่าเกิดอะไรขึ้นกับกลุ่มทัวร์นี้เมื่อเช้านี้ ตอน 10 โมงเช้า พวกคุณถูกนำเข้าไปในห้องเล็กๆโดยไม่มีแสงสว่าง พวกคุณอัดแน่นกันในพื้นที่จำกัดกับรูปปั้นที่มืดมาก ที่นั่นคือวิหารคาร์นาก รูปสลักนั้นลึกลับมาก รูปสลักลึกลับมากคล้ายกับเคลื่อนไหวได้ มีความกลัว เพราะว่าพวกเขารู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่อยู่ที่นั่น ไม่มีแสงสว่าง
มีพวกคุณกี่คนที่รู้สึกถึงบางสิ่ง ไม่ใช่พลังงาน แต่เป็นชีวิต มันยังมีชีวิตอยู่ ความลึกลับของทุกสิ่งที่เราพูดถึง ก็คือข้อเท็จจริงที่ว่า ฮาตอร์ยังอยู่ที่นี่ พวกเขาเป็นครูในยุคแรกเริ่ม พวกเขาเป็นต้นธารทางชีววิทยาของอียิปต์ พวกเขาเป็นกลุ่มที่สอนเกี่ยวกับวิหารแห่งแสงสว่างมาตั้งแต่ต้น เกี่ยวกับบันใดไปสู่สวรรค์
มอบการเริ่มต้นให้แก่วัฒนธรรมนี้ อนุญาตให้มันแสวงหาจิตสำนึกของตนเอง ผ่านหกอารยะธรรม 3,000 ปี คือกลุ่มที่เราจะไม่เรียกชื่อ คือกลุ่มที่อยู่ในห้องมืดของฮาตอร์ ใช่ คุณรู้สึกถึงมันได้ คุณรู้สึกถึงมันได้ที่นี่หรือเปล่า เพราะว่าบนฝาผนังที่ถูกแปลความหมายให้แก่คุณ ก็คือเรื่องของอดัมกับอีฟของอียิปต์
เรื่องราวก็เป็นเรื่องราวเดียวกันกับที่ชาวพลิเอเดี้ยนมีในออสเตรเลีย เกาะอีสเตอร์ อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และเกาะฮาวาย ผู้หญิงทุกคน ครูทุกคน เกี่ยวกับความงดงามของพระเจ้า เกี่ยวกับความน่าอัศจรรย์ของสวรรค์ เกี่ยวกับภาวะความเป็นคู่ การเริ่มต้นของภาวะความเป็นคู่ของมนุษย์ มีมากกว่าหนึ่งฮาตอร์ เพราะว่ามันอยู่ในชื่ออื่น พระเจ้าองค์อื่น ที่เป็นครูผู้หญิง และคุณได้มีประสบการณ์ไปหนึ่งครั้งเมื่อเช้านี้
มาตั้งชื่อให้กับมัน ไม่ใช่ชื่อที่คนอื่นบอกคุณ ชื่อที่ไม่สามารถเอ่ยออกมาได้ พวกเขายังอยู่ที่นี่ คนที่ศึกษาเกี่ยวกับตำนานที่หายไปของอียิปต์ รู้สึกถึงมันได้มาตั้งแต่ต้น นั่นคือเรื่องราวที่เราอยากบอกคุณในวันนี้
ในการจบการสื่อความ เราจะพูดอีกครั้งหนึ่ง เราอยากให้คุณเข้าใจ คุณดื่มน้ำจากแม่น้ำไนล์อยู่เสมอหรือเปล่า นั่นคือแม่ นั่นคือชีวิต ที่ตรงมาจากหัวใจของดินแดนอันยิ่งใหญ่นี้

And so it is.

TEMPLE OF SETI IN ABYDOS  :

Greetings, dear ones, I am Kryon of Magnetic Service.  พวกเราอยู่ในวิหาร ในเมืองอบิดอส เราอยากให้ข้อความที่ใกล้ตัวพวกคุณทุกคน มันเป็นเรื่องที่เราชอบ ไม่ได้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับความรัก พระเจ้าคือความยิ่งใหญ่ พระเจ้าคือความดีงาม พระเจ้าคือความรัก พระเจ้าคือความเมตตาของพระผู้สร้าง พระเจ้าคือความยิ่งใหญ่ พระเจ้าคือความดีงาม พระเจ้าคือความรัก พระเจ้าคือความเมตตาของจักรวาล
ทั้งหมดนี้แสดงอยู่ในรูปภาพของมนุษย์ภายในวิหาร บางคนบอกว่านี่คือวิญญาณของคุณ และเราก็เห็นด้วย ที่เราจะพูดในวันนี้ ข้อความเกี่ยวกับการเดินทางของวิญญาณ ถ้าคุณติดตามการสอนของเรา คุณจะรู้ว่าเราเคารพมนุษย์มากขนาดไหน เราพูดหลายครั้งมากว่า มนุษย์เกิดมาด้วยความงดงาม และคุณก็ใช้ชีวิตในหนทางเดียวกัน
นี่คือการสอนของครายออน มันเป็นการสอนของคนโบราณจำนวนมากด้วยเช่นกัน คิดถึงสิ่งที่อยู่ภายในตัวคุณจากระดับลึก พระเจ้าคือความยิ่งใหญ่ พระเจ้าคือความดีงาม พระเจ้าคือความรัก พระเจ้าคือความเมตตา และวิหารนี้เป็นเรื่องของคุณทั้งชีวิต พระเจ้าให้อิสระแก่คุณว่า จะมองมันหรือไม่มองก็ได้ เราเคยพูดมาก่อนว่า คุณสามารถใช้ชีวิตทั้งชีวิตโดยไม่เคยเข้าใจมันเลย หลังจากตายไปแล้ว จะไม่มีการตัดสินใดๆ
ที่รัก นี่คือทางเลือกของมนุษย์ ที่จะมองวิหารหรือไม่ก็ได้ เหตุผลที่เราทำสิ่งนี้ในวันนี้ก็คือนำบางสิ่งมาให้คุณ ที่คุณอาจคิดไม่ออก มันไม่ได้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ เพียงแต่มันมีอยู่ทุกที่ในสถานที่นี้ 26 ปีก่อนเราเคยบอกคุณ ว่าคุณมีพระเจ้าอยู่ภายใน และคุณมีความงดงามในทุกๆทาง
เราบอกคุณ ที่คำสอนพูดว่า สร้างในฉายาลักษณ์ของพระองค์ หมายความว่า คุณถูกสร้างในฉายาลักษณ์ของพระเจ้า ทั้งหมดนี้คุณมีมาตั้งแต่เกิด และความสามารถที่จะมองมัน รู้สึกถึงมันก็มีอยู่ด้วยเช่นกัน เพียงแต่ ระบบทางศาสนาส่วนใหญ่บนโลกนี้ ได้นำวิหารของคุณไป แล้วทำให้มันใช้การไม่ได้อย่างสมบูรณ์ บางศาสนาบอกคุณว่า คุณไม่มีวิหาร บางศาสนาบอกว่าคุณต้องปลุกมันให้ตื่นขึ้นมา สิ่งที่อยู่ภายในที่สกปรกมาตั้งแต่เกิด
ศาสนาน้อยมากที่บอกคุณว่าวิหารงดงาม เพราะว่าพระเจ้าคือความยิ่งใหญ่ พระเจ้าคือความดีงาม พระเจ้าคือความรัก พระเจ้าคือความเมตตา พวกเขานำวิหารไป แล้วสร้างพระเจ้าที่ใช้การไม่ได้ใส่เข้าไปในนั้น ที่เป็นการสะท้อนธรรมชาติของมนุษย์ จินตนาการถึงพระเจ้าที่ใช้การไม่ได้อย่างมาก ที่นำวิญญาณที่งดงามของคุณไปเผาตอนคุณตาย ทรมานคุณตอนคุณตาย จินตนาการถึงสิ่งเหล่านี้
แม้แต่คนที่แทบจะไม่มีหลักตรรกะทางวิญญาณก็ยังเห็นสิ่งนี้ ว่ามันใช้การไม่ได้ มนุษย์นำพาสิ่งเลวร้ายทั้งหมดเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์ ภาวะความเป็นคู่ทั้งหมด แล้วก็นำไปวางทับบนความยิ่งใหญ่ ที่รัก นี่เป็นเวลาของคุณ ที่จะมองว่า นี่ไม่ใช่ความรัก นี่ไม่ใช่ความยิ่งใหญ่ นี่ไม่ใช่ความเมตตา นี่ไม่ใช่พระเจ้า
ระบบทางศาสนาส่วนใหญ่บนโลกนี้ มีบทบัญญัติสำหรับชีวิตหลังความตายครั้งเดียว นั่นคือทั้งหมด การตัดสินเป็นส่วนหนึ่งของระบบนั้น ที่รัก เราอยากแสดงให้คุณเห็นบางสิ่ง คุณยังคิดมันไม่ออก คุณเพิ่งได้เห็นแผนภูมิของคนโบราณ บางทีอาจเป็นตอนเริ่มต้นของอียิปต์ เมื่อมันมารวมกันเหนือและใต้ มีบางสิ่งที่เราอยากให้คุณรู้ เราอยากให้คุณรู้ว่านี่คือระบบ มันสมบูรณ์แบบ ยังมีภาวะความเป็นคู่ ยังมีเทพฝ่ายมืด ยังมีภาวะความเป็นคู่ทั้งหมดที่คุณเห็นได้ในสังคม อย่างไรก็ตาม ยังมีบางสิ่งให้คุณมอง
คุณเห็นอะไรเกี่ยวกับคาร์นาก อาจเป็นความยิ่งใหญ่ และอะไรคือความแตกต่างระหว่างสิ่งนั้นกับฮาตอร์ คุณรู้อะไร ใครบอกคุณบ้าง เกี่ยวกับฮาตอร์ ประการแรก เพศหญิง พระเจ้าที่เป็นดวงดาว เทวีในร่างแม่วัว แม่ของแม่ เธอแสดงอะไรแก่คุณ เธอแสดงให้คุณเห็นความสุข การเต้นรำ ทั้งหมดที่เรากำลังพูด  พระเจ้าคือความยิ่งใหญ่ พระเจ้าคือความดีงาม พระเจ้าคือความรัก พระเจ้าคือความเมตตา และนั่นคือคำสอนที่เธอมอบไว้ให้
ถ้าฮาตอร์เป็นต้นกำเนิดของอารยะธรรมที่เราพูดถึงจริง มันก็คล้ายกับชาวพลิเอเดี้ยนและชาวลิมูเรีย พวกเขาสอนความจริงเกี่ยวกับความงดงามของพระเจ้า ในอียิปต์มันสดใหม่มากถ้าคุณมองดูมัน มีบันใดไปสู่สวรรค์ มันไม่ได้ยาก มีชีวิตหลังความตาย คุณมองไปข้างหน้า ที่ชีวิตหลังความตาย คุณนำสมบัติติดตัวไปที่นั่นด้วยก็ได้
นั่นคือปรัชญาที่คุณมาเกิดพร้อมกับวิหารที่บริสุทธิ์ มันมีอยู่ให้คุณเห็น มันไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่มันแตกต่างกันมากกับในปัจจุบันนี้ ลองจินตนาการดู ถ้าวัฒนธรรมนี้ยังคงอยู่ แล้วเข้าสู่สังคมสมัยใหม่ พวกเขาจะบอกหนทางไปสู่สวรรค์แก่คุณ บันใดที่ทุกคนบรรลุได้ พวกเขาจะบอกคุณว่า ชีวิตหลังความตายเป็นสิ่งที่รับรองได้ ไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่แตกต่างอย่างมากกับพระเจ้าที่ใช้การไม่ได้ในวันนี้
เมื่อคุณมองดูสิ่งที่ชาวอียิปต์มี แม้แต่ในสมัยโบราณ พวกเขามีอะไร พวกเขารู้เกี่ยวกับวิหารภายใน คล้ายกับพวกเขามีผู้แนะนำจากดวงดาวตั้งแต่เริ่มต้น คุณเคยคิดถึงเรื่องนี้บ้างหรือเปล่า มองดูสิ่งที่พระเจ้าสอน มีหลายสถานที่ๆพระราชาไม่สามารถเข้าไปได้ เพราะพวกเขารู้ว่าพระเจ้าคือความดีงาม พระเจ้าคือความยิ่งใหญ่ พระเจ้าคือความรัก และเป็นผู้สร้างความเมตตาโดยอัตโนมัติในจักรวาล
เราอยากให้คุณคิดถึงสิ่งนี้ เราอยากให้คุณรู้ว่าภายในตัวคุณมีความสะอาด งดงาม บริสุทธิ์ดั้งเดิม วิหารของชีวิต มันรอคอยให้คุณเห็นมัน พร้อมกับชื่อคุณอยู่ที่นั่น เนื่องจากคุณพัฒนาผ่านสิ่งที่คุณได้รับการสอน โดยระบบอื่นๆอีกมากมาย
สุดท้าย เราให้ข้อมูลกับคู่หูของเราเมื่อวานนี้ แต่เขาไม่ได้พูด ที่เขาไม่ได้พูดก็เพราะความมีอคติของเขา ความรู้สึกของเขา เพราะเขาไม่อยากขัดใจใครบางคน เราจึงให้มันกับเขาอีกครั้งหนึ่ง ในวิหารของฮาตอร์  คุณเห็นฮาตอร์มีหลายใบหน้า พระเจ้าเป็นของความรัก เป็นของการสร้างสรรค์ เป็นของทางช้างเผือก เหมือนกับไอซิส
ที่นั่นมีความรักมากมาย ความสุข การเต้นรำ และข้อความที่พวกคุณทุกคนมีภายใน สามารถบรรลุถึงสวรรค์ได้ บันใดอยู่ที่นั่น เมื่อระบบบางระบบที่เดินทางมาพร้อมๆกันและเห็นสิ่งนี้ พวกเขาพูดว่าสิ่งนี้ไม่ได้ผล เพราะว่าพระเจ้าเป็นผู้ตัดสิน ไม่ใช่พระเจ้าที่เต้นรำ ไม่ใช่พระเจ้าที่กำลังร้องเพลง คุณควรประพฤติตามดีกว่า
ตอนนี้คุณเห็นแล้วว่าทำไมพวกเขาจึงโกรธมากต่อความจริง นี่คือแบบแผนของมนุษย์ การวิวัฒนาการถ้าคุณอยากใช้คำนี้ เดินทางจากจิตสำนึกระดับสูงไปสู่จิตสำนึกระดับต่ำกว่า และเกือบจะทำลายตัวเองในปี 2000 คุณไม่ได้ทำมัน และตอนนี้คุณกำลังเริ่มดึงตัวเองออกมาจากสิ่งที่เคยเป็น
วันหนึ่ง มนุษย์จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆจะหันกลับมามองในสิ่งที่พระเจ้าได้สอนเอาไว้ พระเจ้าคือความดีงาม พระเจ้าคือความยิ่งใหญ่ พระเจ้าคือความรัก พระเจ้าคือความเมตตา พระเจ้าร้องเพลงและเต้นรำ คุณดื่มน้ำจากแม่น้ำไนล์อยู่เสมอหรือเปล่า

And so it is.

วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

KRYON EGYPT TOUR 1 : “LUXOR CITY” , “KARNAK TEMPLE”



KRYON EGYPT TOUR 1  :  “LUXOR CITY”  ,  “KARNAK TEMPLE”

February 2-13-2017

LUXOR CITY  :

Greetings, dear ones, I am Kryon of Magnetic Service.  เราอยู่กลางแจ้งอีกครั้งหนึ่ง ยังอยู่ในเมืองลักซอร์ เราอยากอธิบายต่อในเรื่องจิตสำนึก เราอยากทำในหนทางที่คุณสามารถเข้าใจได้ มันสำคัญอย่างไรต่อโลกในตอนนี้ อะไรเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ ทำไมการยกระดับครั้งนี้จึงน่าทึ่งมาก มากกว่าที่คุณรู้ มากเกินกว่าที่คุณจะเข้าใจได้ ในสิ่งที่กำลังเริ่มเคลื่อนไหวบนโลกนี้ ในหนทางของมัน
เรามาทบทวนกันสักครู่ การค้นหาพระเจ้าเป็นการหยั่งรู้ แนวคิดของชีวิตหลังความตายเป็นการหยั่งรู้ อารยะธรรมแล้วอารยะธรรมเล่า ใช้เวลาของพวกขาทำสิ่งนี้ในหนทางที่ดีที่สุด เท่าที่พวกเขาทำได้ แต่จิตสำนึกคือทางเลือก และมันไม่ได้เป็นการหยั่งรู้ เราได้ให้ตัวอย่างของเด็ก มาว่ากันต่อ
เด็กในสังคมหนึ่งที่มักจะจากพ่อแม่ไปอย่างรวดเร็ว เข้าไปอยู่กับเด็กคนอื่น จากนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม โดยไม่ได้รับคำแนะนำ ไม่ได้รับการเร่งจิตสำนึก ไม่มีหลักจริยธรรม ไม่มีความเมตตา แล้วคุณก็เห็นสิ่งนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า สิ่งนี้ ที่เราเรียกว่าจิตสำนึก และความถี่ของจิตสำนึก มันเป็นทางเลือก บางคนถามคำถามนี้ มีอะไรผิดพลาดกับอียิปต์ ที่ทำให้มันไม่เคยยกระดับจิตสำนึกได้
เราจะบอกคุณในเรื่องนี้ ที่รัก ไม่มีใครทำ ตามข้อเท็จจริง จิตสำนึกของอียิปต์ที่จุดเริ่มต้นเมื่อ 5,000 ปีก่อน มีระดับสูงกว่าโลกในศตวรรษที่ 20 จิตสำนึกสูงขึ้นด้วยการเลือก ซึ่งก็คือทางเลือกเสรีของมนุษย์ และคุณสามารถเห็นได้ว่ามันไปทางไหน อารยะธรรมแล้วอารยะธรรมเล่า มันต่ำลง ต่ำลง คุณเห็นอารยะธรรมและวัฒนธรรมต่างๆหลากหลาย ในความพยายามที่จะยกระดับ
พวกเขาไม่ประสบความสำเร็จแต่อย่างใด หลายเผ่าพันธุ์ จากนั้นก็มีจุดสว่างที่เราพูดถึง บนโลกนี้ ที่เรายังอ้างถึง ไม่ว่าจะอยู่ในซีกโลกเหนือหรือซีกโลกใต้ พวกเขามีจำนวนเล็กน้อยเป็นกลุ่ม พวกเขาบางคนถูกกำจัดเพราะความคิดระดับสูงของเขาเอง คุณอาจสงสัยว่าทำไมจึงเป็นกรณีนี้ ให้เรายกตัวอย่าง ถ้าคุณเสนอความร่ำรวยและพลังอำนาจให้แก่มนุษย์ ซึ่งมันตรงกันข้ามกับปัญญาและแสงสว่าง
ในตอนนี้ คุณคิดว่าคุณจะเอาอะไร และคุณจะเรียกมันว่าธรรมชาติของมนุษย์ที่พวกเขาจะไปสู่จิตสำนึกระดับต่ำ อารยะธรรมอื่นก่อนหน้านี้ พวกเขามีอุปสรรคนี้ด้วยหรือเปล่า ที่รัก ไม่เพียงแต่พวกเขาจะมีอุปสรรคเท่านั้น พวกเขายังทำลายตัวเองด้วย 4 ครั้ง อารยะธรรมของคุณเป็นครั้งที่ 5 อารยะธรรมสุดท้ายใน 26,000 ปี ที่มีเป้าหมายนี้ อย่างที่เราพูด
สิ่งเหล่านี้จะเปิดเผยออกมาอย่างช้าๆ เราเคยพูดมาก่อนว่า อารยะธรรมก่อนหน้านี้ลำดับที่ 4 จะเริ่มเปิดเผยต่อคุณ เทคโยโลยีจะอนุญาตให้คุณค้นพบใต้พื้นดิน ในสิ่งที่ตอนนี้ไม่รู้ ภาษาที่ไม่เคยมีอยู่ ประวัติศาสตร์ที่คุณไม่รู้เกี่ยวกับมัน ช่วงเวลาก่อนช่วงเวลา มันอยู่ที่นั่น มันเริ่มเปิดเผยขึ้นมาแล้วในตอนนี้ มันจะทำให้นักประวัติศาสตร์แบกกระเป๋าไว้บนหลัง พวกเขาไม่รู้ว่าจะทำอะไรกับสิ่งนี้ แต่พวกเขาทำลายตัวเองผ่านจิตสำนึกระดับต่ำ
สิ่งนี้ยากสำหรับคุณในการทำความเข้าใจหรือเปล่า เนื่องจากเมื่อมามองลำดับที่  5 ซึ่งก็คืออารยะธรรมของคุณ เราพูดอีกครั้งว่า อะไรคือคำทำนายของโลกนี้ ตอนคุณเกิด คำทำนายบอกว่า จุดจบกำลังมา ถ้าคุณมองดูประวัติศาสตร์ของคุณเอง คุณทำสงคราม ทำสงคราม แล้วก็ทำสงคราม คุณทำสงครามอย่างมาก มันเลวร้ายลงเรื่อยๆ
นักปรัชญามักจะพูดเกี่ยวกับสังคมที่ใช้การไม่ได้ ที่ยังพยายามทำสิ่งเดิมๆแล้วก็ไม่ได้รับผลใดๆ แล้วก็พยายามทำอีกครั้ง นั่นคือสงคราม การฆ่านำมาซึ่งการฆ่า คำพูดที่หมายความว่า การฆ่านำไปสู่การฆ่ามากยิ่งขึ้น มันไม่ได้พาคุณไปที่ไหน มันเมื่อไม่นานมานี้ มันเลวร้ายมาก คุณกำลังมุ่งหน้าไปสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
จากนั้นอาวุธก็ทำลายล้างได้อย่างมากมาย คุณอยู่บนเส้นทางเดียวกับ 4 อารยะธรรมก่อนหน้าคุณ ในหนทางของพวกเขาเอง ที่รัก นี่คือทางเลือก จากนั้นก็มีบางสิ่งเกิดขึ้น นั่นคือสิ่งที่เราอยากพูดอีกครั้ง เราอยู่ที่นี่เพื่อแสดงบางสิ่งแก่คุณ เราอยู่ที่นี่เพราะการยกระดับ และเราต้องอธิบายสิ่งนี้อย่างระมัดระวังและด้วยความรัก ต่อผู้ฟังที่อาจเคยได้ฟังสิ่งนี้มาก่อน แต่ก็ยังไม่เข้าใจในความงดงามและความเมตตาของสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
เราเคยพูดสิ่งนี้มาก่อน คนโง่ไม่รู้ว่าตัวเองโง่ เนื่องจากคนโง่ไม่สามารถคิดเรื่องอื่นได้นอกจากเรื่องโง่ๆ คนโง่ไม่มีหลักการที่ว่า ตัวเขาเป็นอย่างไรในสายตาของคนอื่น มีเพดานบนคนโง่ในการมองเห็นตัวเอง หลายครั้งที่เราพูดว่า คุณไม่รู้ในสิ่งที่คุณไม่รู้ และความหมายของมันก็คือ ยิ่งระดับความคิดของคุณสูงขึ้นเท่าใด คุณก็ยิ่งสามารถเข้าใจสิ่งที่อยู่ที่เพดานศักยภาพของคุณได้มากขึ้นเท่านั้น และเราก็ใช้อุปมานี้มาแล้วหลายครั้ง
คุณไม่สามารถอธิบายสีสันให้คนตาบอดเข้าใจได้ มันเป็นไปไม่ได้ พวกเขายังไม่มีแม้แต่การเริ่มรับรู้แสงสว่าง ดังนั้น การที่คุณจะได้รับความงดงามและอธิบายสีสัน มันเป็นไปไม่ได้ เราใช้อุปมาของการมีชีวิตอยู่ในโลกขาวดำ แล้วก็มีบางคนที่มองเห็นสีสัน เขาพูดว่า ดูสิ ฉันมีอะไรให้คุณ โลกจะมองมาที่เขาแล้วก็พูดว่า พวกเราไม่สนใจสิ่งนั้น เพราะว่าพวกเขามองไม่เห็นมัน มีแต่คนที่เห็นสีสันเท่านั้น ที่เข้าใจความแตกต่าง
ทำไมเราจึงบอกเรื่องนี้แก่คุณ เพราะว่าสิ่งนี้กำลังเริ่มเปลี่ยนแปลง ความงดงามกำลังเริ่มแสดงตัวมันเองออกมา ใน 50 ปีมานี้ คุณไม่เห็นมันเพราะว่าเวลาเดินไปอย่างช้ามาก คุณอยู่ในสังคมที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยสื่อที่รายงานไม่กี่นาที เพียงแต่มีกงล้อของการเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆเกิดขึ้น
50 ปีที่ผ่านมา ถ้ามีผู้นำที่ไม่มีเมตตา คุณจะไม่สามารถกระพริบตาได้ คุณจะบอกกับตัวเองว่า มันเป็นหนทางของมัน และสังคมแสดงให้เห็น เนื่องจากพวกเขาดูเหมือนไม่ได้ใส่ใจหรือปฏิเสธ นั่นเมื่อไม่นานมานี้ ในวันนี้ ถ้าคุณเห็นผู้นำที่ไม่สง่างาม หรือผู้นำที่ไม่มีเมตตา ทันใดนั้น คุณใส่ใจ มันแสดงตัวเองออกมาอย่างชัดเจน
ที่รัก ธรรมชาติของมนุษย์เติบโตขึ้น คุณได้เข้าสู่ระดับใหม่ของความคาดหวัง คุณเริ่มเห็นและเข้าใจสิ่งที่เคยเป็นปกติ แล้วก็ปฏิเสธมัน คุณได้ทำอะไรไปบ้างใน 5 ปีมานี้ ที่กลายเป็นปริศนา อะไรคือปัญหาประจำวัน นั่นคือปัญหาผู้อพยพ ตอนนี้ ย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน เราเคยบอกคุณเรื่องนี้มาก่อน เด็กเฝ้าดูอยู่ที่ชายหาด หรือคนที่อยู่กับครอบครัว 14-15 คน สิ่งที่เกิดขึ้นทั่วโลกไม่ได้สร้างอะไรใหม่ แต่วันของมันอยู่หลังจากนั้น
แล้วโลกก็มีปฏิกิริยา อะไรคือความแตกต่างของมัน เราบอกคุณว่าคุณเริ่มมีจิตสำนึกของความเมตตาทั่วโลก ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง และคุณเริ่มได้เห็นความแตกต่างระหว่างสิ่งที่เคยเป็นกับสิ่งที่เป็น สิ่งนี้จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง มันจะไปเปลี่ยนแปลงธุรกิจ ธนาคาร และสถาบันมากมายในวันนี้ ที่เราบอกว่า ไม่สามารถอยู่รอดได้ถ้าขาดความซื่อสัตย์ ในประเทศของคุณ มันจะแสดงให้เห็นในเร็วๆนี้ กับการล้มลงของสถาบันบางแห่ง เพียงเพราะพวกเขาทำในสิ่งที่พวกเขาเคยทำมาก่อน และคุณไม่เคยสนใจ แต่ทันใดนั้น คุณก็สนใจขึ้นมา นี่คือการยกระดับของจิตสำนึก
โลกนี้พยายามมาแล้วหลายครั้ง เพื่อยกระดับตัวมันเองขึ้น แต่มันก็ไม่เพียงพอ มันไม่แข็งแรง แสงสว่างเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะว่าคุณเห็นมัน คุณเข้าไปหามัน ความมืดก็คือการไม่มีแสงสว่าง ที่รัก นี่ควรบอกคุณบางสิ่ง แสงสว่างกำลังเพิ่มขึ้นและมองเห็นได้บนโลก มีหลายสิ่งที่เราสามารถบ่งชี้ได้และมีในอดีต ที่กำลังเริ่มยกระดับและเปลี่ยนแปลง
โดยเฉพาะนับจากปี 2012 เป็นต้นมา การครบรอบการหมุนควงของอิควินอกซ์ เรานำสิ่งนี้มาให้คุณในตอนนี้เป็นการส่วนตัว ทุกสิ่งที่เราพูด เป็นการส่วนตัว เรากำลังจะถามคุณ อะไรที่คุณไม่รู้ เป็นไปได้หรือไม่ ที่มีสิ่งที่อยู่เหนือความเชื่อของคุณ มันเหมาะสมสำหรับคุณ คุณอาจนั่งฟังแล้วก็พูดว่า นี่ไม่ใช่สำหรับฉัน ฉันไม่เชื่อสิ่งนี้ หรือบางส่วนก็ถูกแต่อีกส่วนหนึ่งไม่ใช่ และเราจะบอกคุณว่า คุณกำลังมีปฏิกิริยากับอคติ ที่คุณคนเดียวเท่านั้นที่รู้
อะไรที่คุณเคยมีประสบการณ์ในอดีต หรือสิ่งที่คุณถูกสอนมา และคุณยังไม่พร้อมที่จะเห็นให้สูงกว่านั้น มีพวกคุณกี่คนที่เข้าใจในตอนนี้ คุณอยู่ที่ขอบของการยกระดับจิตสำนึก ที่คุณสามารถควบคุมการรักษาตัวคุณเองได้อย่างสมบูรณ์ การยกระดับจิตสำนึกที่เริ่มปรับตัวเข้าสู่บันทึกอดีตชาติของคุณ คุณสามารถรู้สึกได้จริงๆว่า คุณเคยอยู่ที่ไหน คุณเคยทำอะไร แล้วก็ดึงมันขึ้นมา ในด้านสุขภาพ การมีอายุยืนยาว หลายสิ่งที่เหนือกว่าวิทยาศาสตร์
มันคืออภิปรัชญา นั่นคือสิ่งที่คุณกำลังมีประสบการณ์ทั่วโลก มันกำลังเริ่มระเบิดออกมา และเราอยากแสดงให้คุณเห็นในหนทางที่คุณสามารถเข้าใจได้ เราอยากให้คุณมองไปในอนาคต คุณอาจจะพูดว่า ฉันทำอย่างนั้นไม่ได้เหมือนคุณ คุณสามารถมองดูศักยภาพได้ คุณสามารถจินตนาการอะไรได้ คุณจินตนาการอะไรเพื่อตัวเอง คุณคิดว่าอะไรเป็นไปไม่ได้สำหรับคุณ ในตอนนี้
ตอนนี้ เราอยากให้คุณจินตนาการถึงมันว่าเป็นไปได้ แก้ไขได้ อย่ากังวลกับรายละเอียด เราจะบอกคุณว่ามีฟิสิกส์ที่อยู่ฝ่ายเดียวกับคุณ มีเทพนำทางและโลกวิญญาณอยู่ฝ่ายเดียวกับคุณ โลกนี้กำลังกลับมามีชีวิตด้วยการช่วยเหลือ แสงสว่างเป็นสิ่งที่คุณไม่สามารถหยุดยั้งได้ และสิ่งที่แสงสว่างจะทำก็คือเปิดเผยสิ่งที่มืด
และเมื่อคนเหล่านั้นถูกเปิดโปง คนที่อยู่ในแสงสว่างจะประทับตราพวกเขาออกไป และพวกเขาจะพูดว่า พวกเขาไม่เหมาะสม และมันจะเป็นครั้งแรกที่โลกนี้จะแสวงหาสิ่งที่สูงกว่าธรรมชาติของมนุษย์ ผลลัพธ์ของมันจะเป็น คุณไม่มีสงครามอีกต่อไป นั่นมันใช้การไม่ได้ กี่พันปีแล้ว ที่คุณพยายามทำสิ่งนั้นโดยไม่ได้ผล มันไม่เคยได้ผลและจะไม่ได้ผล สิ่งนี้จะเกิดขึ้น ธรรมชาติของมนุษย์เริ่มวิวัฒนาการเข้าสู่บางสิ่งที่แตกต่างจากที่เคยอย่างช้าๆๆๆ ที่รัก เราเคยพูดมาก่อนว่า ลูกของคุณจะเป็นกลุ่มแรกๆที่ตื่นขึ้นสู่พลังงานใหม่นี้และรู้สึกถึงมันได้
คุณนั่งอยู่ในอียิปต์ จุดสำคัญทางประวัติศาสตร์ อารยะธรรมอายุ 5,000 ปี สามอารยะธรรมอยู่ในวัฒนธรรมเดียวกัน ตอนนี้ คุณอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไนล์ กำลังฟังการสื่อความ เกี่ยวกับบางสิ่งที่จะเกิดขึ้นบนโลกนี้ ที่จะเปลี่ยนแปลงประวัติสาสตร์ทั้งหมดไปตลอดกาล วิญญาณเก่าแก่ทั้งหลาย นี่คือข้อความ คุณยังคิดแบบขาวดำอยู่หรือเปล่า คุณปฏิเสธว่าสิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้หรือเปล่า คุณอยู่ใกล้ความเป็นไปได้ในสิ่งที่เราพูดว่าอาจเป็นความจริงเหนือความจริงหรือเปล่า
ท้ายที่สุด เราพูดสิ่งนี้ โลกวิญญาณ พระเจ้า แสงสว่าง แหล่งกำเนิดแห่งการสร้างสรรค์ รู้จักชื่อของคุณ และยิ่งคุณมีจิตสำนึกเกี่ยวกับสิ่งนั้นสูงขึ้นเท่าใด คุณก็ยิ่งเข้าใกล้ความเมตตาของพระเจ้ามากขึ้นเท่านั้น คุณสามารถเดินจับมือไปกับพระเจ้าภายใน ตัวตนที่สูงกว่า คุณสามารถออกจากที่นี่ด้วยความแตกต่างจากตอนคุณมา
ไม่มีที่สถานที่ยิ่งใหญ่ที่ไหนอีกแล้วที่แสดงให้คุณเห็นความยิ่งใหญ่ของที่ๆคุณนั่งอยู่นี้ แผ่นดินที่คุณกำลังอยู่นี้ และอะไรจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ คุณคือแนวหน้าของทั้งหมดนี้ เราอยากให้คุณภาวนาว่า คุณจะได้เห็นสีสันที่กำลังมา และสำหรับตัวคุณเอง คุณควรปลดปล่อยสิ่งที่กีดกันคุณจากการมองเห็นทั้งหมดของมัน
บางคนจะพูดว่า ครายออน ฉันชอบสิ่งที่คุณพูด แต่ฉันจะทำมันอย่างไร กระบวนการเป็นอย่างไร เราจะบอกคุณว่ามันธรรมดามาก ทั้งหมดที่คุณต้องทำก็คืออนุญาตให้ร่างกายของคุณออกจากของเก่า เข้าสู่ของใหม่ เลิกวาดภาพม่าน ที่ปิดลงเมื่อคุณได้ฟังบางสิ่งที่แตกต่างหรือสิ่งใหม่ หรือที่อาจเปลี่ยนแปลงตัวคุณ นั่นคือกุญแจ
หนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดที่จะทำสำหรับมนุษย์ทุกคนก็คือ ซึมซับสิ่งที่คุณได้ฟัง สถานที่ๆคุณอยู่ คิดถึงประวัติศาสตร์ที่อยู่ที่นี่ รับรู้มันว่าเป็นโลกเก่า เพราะว่าคุณกำลังเดินทางเข้าสู่โลกใหม่ทั้งหมด สิ่งต่างๆกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างสมบูรณ์แบบรอบตัวคุณ ที่รัก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ลำดับที่ 5 เอาตัวรอดได้
ตอนนี้คุณกำลังก้าวไปข้างหน้า เหมือนกับที่ดาวเคราะห์ดวงอื่นบางดวงมี ที่เราอธิบายแก่คุณ บนเส้นทางที่เคยทำมาก่อน แต่ไม่ใช่ที่นี่ คิดถึงสิ่งเหล่านี้ แม้ในขณะที่คุณกำลังท่องเที่ยวในวิหารอื่นที่จะมาในการเดินทางนี้ มองดูสิ่งที่เคยเป็น จิตสำนึกที่ไม่เคยคลานออกจากสงครามได้ ทำลายตัวเอง และความขัดแย้งทั้งหลายที่เคยเป็น จนถึงตอนนี้
มันกำลังเปลี่ยนแปลง มันเป็นเวลาที่ดี ที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป และที่รัก มันไม่ใช่เรื่องของความบังเอิญ ที่คุณมาอยู่ที่นี่ ได้ฟังคำพูดนี้ เราจะกล่าวอุปมาอีกครั้งหนึ่ง คุณดื่มน้ำจากแม่น้ำไนล์อยู่เสมอหรือเปล่า แม่ สายน้ำที่ไหลไปทางทิศเหนือ สู่สวรรค์ ความเมตตาของพระเจ้า ดื่มจากที่นี่ทุกวันในชีวิตของคุณ แล้วคุณจะเปลี่ยนแปลง นั่นคือเหตุผลที่คุณมาอยู่ที่นี่

And so it is.

KARNAK TEMPLE  :

Greetings, dear ones, I am Kryon of Magnetic Service.  วันนี้ กลุ่มของพวกเรานั่งอยู่ในวิหารคาร์นาก เป็นวันที่งดงาม พระอาทิตย์สาดส่องอยู่เหนือคุณ และมีพลังงานมากมายให้ลิ้มลองในสถานที่นี้ แต่พลังงานที่เราอยากให้คุณลิ้มลองในสถานที่นี้ ในวันนี้ ก็คือการใคร่ครวญสำหรับคุณ
เรามีแนวโน้มที่จะท่วมท้นกับสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดนี้ และมันจะใหญ่ขึ้น หลายครั้ง สถานที่เป็นพินัยกรรมของบุคคล บางครั้งเป็นระหว่างบุคคลและพระเจ้า บางครั้งมันก็ผสมปนเปกันไป ไม่รู้ว่ามันเริ่มที่ตรงไหน จบตรงไหน แต่วันนี้ไม่มีปัญหาว่ามันเริ่มตรงไหน จบตรงไหน เพราะมันเกี่ยวกับคุณ มาทำแบบฝึกหัดกัน มามีส่วนร่วมกับเรา เพราะว่านี่คือเหตุผลที่คุณมา เพื่อมาดูประวัติศาสตร์ เพื่อนำไปใช้กับตนเอง เพื่อตัดสินใจ วิหารสร้างขึ้นมาเพื่ออะไร
ดังนั้น เราจึงขอเชิญคุณในวันนี้ ให้จินตนาการสักครู่ ในหนทางแบบหลากมิติ คุณกำลังจะสร้างวิหารเพื่อตัวคุณเอง เรากำลังจะสร้างวิหารให้คุณ ในข้อความสั้นๆนี้ จะมีความลึกซึ้ง สิ่งที่เราขอให้คุณใคร่ครวญและคิดพิจารณา เนื่องจากว่ามันอาจเป็นสาระสำคัญของความเป็นตัวคุณ และคุณจะไปที่ไหนต่อไป
มองดูประวัติศาสตร์ของที่นี่ และให้รู้ว่า มันต้องใช้เวลานานเท่าใดในการสร้างวิหารนี้ แต่กับของคุณ มันต้องใช้เวลาสร้างตลอดชีวิต บางที คุณอาจมาที่นี่เพื่อทำสิ่งนี้ ถ้าคุณกำลังจะสร้างวิหารของคุณเอง อันดับแรกคุณต้องออกแบบก่อน ว่ามันจะใหญ่โตขนาดไหน นั่นคือตัวหยุดสำหรับคนจำนวนมาก เนื่องจากพวกเขาพูดว่า ฉันไม่ต้องการให้วิหารของฉันใหญ่โตมากนัก มันเพื่อฉันคนเดียว
เราขอให้คุณพิจารณาความยิ่งใหญ่ของวิหารคาร์นาก ของคุณออกแบบยิ่งใหญ่อย่างนี้หรือเปล่า คุณอาจพูดว่า ไม่ใช่ นั่นมันอีโก้ เราจะถามคุณว่า จริงหรือ วิหารของคุณต้องบรรจุตัวคุณ ตัวตนที่สูงกว่าของคุณ และภาพลักษณ์ของพระเจ้าที่คุณสร้างอยู่ภายใน ตอนนี้ เราจะถามคุณอีกครั้ง วิหารของคุณใหญ่ขนาดไหน
มนุษย์จำนวนมากก็ยังคงบอกว่า ไม่ใหญ่นัก เราจะพูดกับคุณว่า อะไรที่หยุดยั้งคุณจากการมองเห็นความยิ่งใหญ่ภายในตัวตนของคุณ เราจะบอกอีกครั้งหนึ่งว่ามันคือ ความรู้สึกว่าตนเองไม่มีคุณค่า ความมีคุณค่าในตนเองของคุณห่มทับลงบนตัวคุณคล้ายกับผ้าห่มสีดำ มันเป็นการโป้ปดของภาวะความเป็นคู่ มันโกหกคุณทุกๆขณะของชีวิต
มันทำให้คุณคิดว่าคุณเล็กและน้อยกว่าคนอื่น นี่คือภาวะความเป็นคู่ที่เราพูดถึง ที่แสดงอยู่ในทุกที่ ดังนั้น คุณต้องเอาชนะสิ่งนี้ และเข้าใจมัน ก้าวผ่านมันไป เราจะถามคุณอีกครั้งหนึ่งว่า พระเจ้าในตัวคุณใหญ่ขนาดไหน มาทำให้วิหารมีขนาดใหญ่ ยิ่งใหญ่กัน ไม่ใช่เป็นการขยายตัวตนของคุณ แต่เป็นการขยายภาพลักษณ์ของพระเจ้าในตัวคุณ
รากฐาน คุณกำลังวางแผน รากฐานต้องมีความแข็งแรงและรองรับทุกสิ่งเหนือมัน รากฐานสำหรับคุณต้องเป็นความเชื่อ ความเชื่อของคุณแข็งแรงแค่ไหน ในสิ่งที่คุณเห็นในตอนนี้ ความเป็นไปได้ของการสื่อความ ที่ข้อมูลไม่ได้มาจากมนุษย์ แต่มาจากสิ่งที่อยู่รอบตัวมนุษย์ ความเชื่อคือรากฐาน มันต้องแข็งแรง มันจะพังทลายลงมาถ้าคุณลังเลใจ คิดโน่นคิดนี่ ไม่มั่นใจในสิ่งนี้
มนุษย์ทั้งหลาย เราบอกคุณให้ปลดปล่อยสิ่งที่ขวางทางให้หมด ปล่อยวางอารมณ์ของพระเจ้า อย่าวิเคราะห์ตัวคุณออกมาเป็นส่วนๆ อย่าคิดถึงปัญหามากเกินไป พระเจ้ายิ่งใหญ่ขนาดไหน ความรักและความเมตตาที่คุณรู้สึกยิ่งใหญ่ขนาดไหน อย่าไปวิเคราะห์มัน เพราะว่ารากฐานจะพังลง รากฐานก็คือความเชื่อของคุณและตัวตนที่สูงกว่าของคุณ ในความเป็นอมตะ ในความเป็นอมตะของคุณ เนื่องจากวิญญาณของคุณเป็นอมตะ นั่นคือรากฐาน
ลำดับต่อไป เสา คุณมองไปรอบๆสถานที่นี้ คุณไม่เคยเห็นเสามากมายขนาดนี้ แต่ละเสามีขนาดใหญ่และยิ่งใหญ่ คุณต้องใช้เสากี่ต้นรองรับสิ่งที่มาภายหลัง สิ่งนี้อาจทำให้คุณประหลาดใจ แต่เสาก็คือตัวคุณยืดแขนขึ้นไปบนสวรรค์ คุณเอื้อมมือขึ้นไปได้แค่ไหน มันหมายความว่าอย่างไร ตรองดูว่าการยกมือขึ้นมีความหมายว่าอย่างไร
คนที่กำลังพูดอย่างมีความสุขยกมือของพวกเขาขึ้น แม้แต่คนที่กำลังเศร้าโศกก็ยกมือขึ้น คนที่ต้องการสัมผัสพระเจ้าและภาวนายกมือของพวกเขาขึ้น มันเป็นการหยั่งรู้ ว่าคุณกำลังเอื้อมมือขึ้นไปบนสวรรค์ซึ่งก็คือพระเจ้าในตัวคุณ ที่รัก คุณเอื้อมมืออกไปได้ไกลขนาดไหน อะไรกีดกันคุณไม่ไห้เอื้อมมือ เสามีความสูงแค่ไหน นี่คือวิหารของคุณ ทำให้มันใหญ่ คุณเห็นตัวเองกับมือของคุณหรือเปล่า เอื้อมมือออกไปแล้วพบกับความสุข รอยยิ้ม สัมผัสใบหน้าของความเป็นอมตะ นั่นคือวิหารของคุณ ทั้งหมดอยู่ในตัวคุณ
สุดท้าย หลังคา มันจะปกคลุมทุกสิ่ง มันใหญ่ขนาดไหน ทำมาจากอะไร คุณจะวาดรูปอะไรที่หลังคา หลังคาก็คือสันติสุข มันเป็นที่กำบังที่คุณรู้สึกได้ เมื่อคุณอยู่ในมือและอ้อมแขนของพระเจ้า คุณรู้สึกได้ถึงการเอาใจใส่หรือเปล่า คุณรู้สึกสงบสุขกับวิหารหรือเปล่า ที่รัก วิหารที่มุงบังรอบตัวมันเอง ก็คือพลังงานที่คุณบรรจุเข้าไปในนั้น
จากรากฐานถึงสิ่งมุงบัง มันแสดงถึงวงจรของเวลาและตัวคุณ ในพลังงานนี้บนโลก ในเวลานี้ คุณต้องสร้างวิหารของคุณ พิจารณาว่าคุณคือใคร คุณยิ่งใหญ่ขนาดไหน คุณอยู่มายาวนานขนาดไหน มันเป็นอมตะหรือเปล่า คุณฉายไฟขึ้นไปสู่พระเจ้าและตัวคุณหรือเปล่า คุณจำกัดความเชื่อในสิ่งที่เป็นตัวคุณหรือเปล่า ที่นี่ไม่มีข้อจำกัด มองดู
วิหารของคุณใหญ่ขนาดนี้หรือใหญ่กว่านี้ได้หรือเปล่า มันไม่ใช่อีโก้ ที่รัก วิหารเป็นของคุณ มันมองไม่เห็น ไม่มีใครมองเห็นมัน ยกเว้นคนที่เดินไปกับคุณ พวกเขาจะเห็นความสมดุลที่คุณมี ความสุข ปัญญา และมีแต่คุณเท่านั้นที่รู้ว่า วิหารของคุณยิ่งใหญ่มหึมา มันแสดงตัวออกมาในวิธีการปฏิบัติต่อผู้อื่น อายุยืนยาวของคุณ ปัญญาของคุณกับคนที่ถามมัน
นั่นคือวิหาร มันมีความสำคัญ มันเป็นหลัก มันใหญ่ขนาดไหน นั่นคือข้อความของวันนี้ เมื่อคุณออกจากที่นี่แล้วเดินกลับผ่านเสา จินตนาการว่า จริงๆแล้ว คุณคือใคร

And so it is.