วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

Philadelphia, Pennsylvania



Philadelphia, Pennsylvania

Saturday & Sunday - November 18-19, 2017

KRYON & ADIRONNDA  :

Greetings, dear ones, I am Kryon of Magnetic Service.  การสื่อความดำเนินต่อไป เราเคยพูดมาก่อนว่า มันไม่ใช่การสื่อความสองการสื่อความ มันเป็นการสื่อความเดียว ในเวลาสั้นๆที่คุณได้ฟังจากแอนดิรอนดา พลังงานในสถานที่นี้เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าคุณจะรู้สึกถึงมันหรือไม่ นั่นคือทางเลือกเสรีของคุณ ที่รัก มีอะไรมากมายเกิดขึ้นที่นี่
ตอนนี้ เรากำลังพูดกับคนที่มาด้วยเหตุผลและไม่ใช่เหตุผลที่คุณคิด ไม่ใช่เพื่อการอัพเดทพลังงาน ไม่ใช่เพื่อเลขศาสตร์ที่เพิ่งได้แสดงไป ไม่ใช่เพื่อสิ่งที่กำลังมา แต่พวกเขาต้องการบางสิ่ง สิ่งนั้นอาจเป็นปัญหา อาจเป็นปัญหาทางจิตใจหรือสุขภาพ อาจเป็นความสงสัย นั่นคือเหตุผลที่คุณมาที่นี่
เพื่อคุณ เราจะสื่อความต่อ มีปัญหาจะถาม คุณคิดว่าคุณเป็นใคร เราจะหมุนมันให้รอบด้าน แทนที่คุณจะถามปัญหา จะเป็นพระผู้สร้างที่ตอบคำถาม คำถามจะกลายเป็นการประกาศว่าคุณคือใคร ตอนนี้ จากอีกด้านหนึ่งของม่านพรางของเรา เราอยากให้แก่นข้อมูลส่งไปถึงคุณ โดยเฉพาะพวกคุณที่มา เพื่อบางสิ่งที่พิเศษ
คุณเปิดกว้างและพร้อมแล้ว ในห้องนี้มีรูปธรรม เทพนำทาง ผู้ช่วยเหลือ ที่มองไม่เห็น มันเป็นการขยายสำหรับมนุษย์แบบสามมิติ มนุษย์ธรรมดา คนที่บางทีอาจไม่เคยเข้าประชุมแบบนี้มาก่อน เพื่อคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นพลังงานและอาจมองไม่เห็น เช่น แรงโน้มถ่วงและอากาศ เรารู้ว่ามันเป็นการขยาย
ในโลกที่อยู่เหนือม่านพราง มีคุณสมบัติหลากมิติสำหรับทุกสิ่ง มันไม่ได้อยู่ในสามมิติ ไม่ใช่โลกที่คุณเติบโตมา มีอะไรอีกมากมาย ไปถามนักควอนตัมฟิสิกส์ดู ถ้ามีสิ่งที่มองไม่เห็น ที่ไม่สามารถอธิบายได้ ที่พวกเขาทำงานอยู่ พวกเขาจะพูดว่า ใช่ ทุกวัน มาอธิบายพวกเขาจากมุมมองของโลกวิญญาณ
ที่นี่มีพลังงานที่เปลี่ยนแปลงฟิสิกส์และสารเคมีในตัวคุณ ถ้านั่นคือสิ่งที่คุณต้องการ ไม่ใช่แค่ต้องการ แต่ยังรวมไปถึงตัวคุณคือใครด้วย คุณคือใครจากด้านนี้ของม่านพราง พระเจ้ารักและรู้จักคุณ นี่คือแก่นขอมูล คุณคิดว่าคุณคือใคร คุณคือคนที่พระเจ้ารักและรู้จัก รู้จักเพราะว่าคุณเป็นส่วนหนึ่งของทั้งหมดของความเป็นหลากมิติ ที่แหล่งกำเนิดพระผู้สร้างมอบให้แก่คุณ
คุณไม่ได้เป็นมนุษย์ทั้ง 100% มีส่วนของคุณที่ซ่อนอยู่ในโครโมโซม 23 คู่ ที่แตกต่างจากสิ่งอื่นๆบนโลก และความแตกต่างก็คือในตัวคุณเป็นส่วนหนึ่งของพระผู้สร้าง เราเคยพูดมาก่อน ไม่ว่าคุณจะเรียกมันว่าวิญญาณหรือตัวตนที่สูงกว่าหรือคำพูดใดๆ ที่ใช้อธิบายสิ่งที่คุณไม่เข้าใจ เราอธิบายได้เพราะเรารู้ว่าคุณคือใคร นี่อาจเป็นเวลาที่จะมองมัน เพื่อรับรู้มันในทุกๆเซล ในทุกๆ DNA ของคุณ
คุณใช้ชีวิตอยู่ในวิถีของสามมิติ เพราะคุณมองดูกระจกแล้วก็พูดว่านี่ไง ตัวฉัน นั่นไม่ถูกต้อง ไม่ถูกต้องอย่างเต็มที่ ส่วนของคุณที่มองไม่เห็น ส่วนของวิญญาณของคุณ ส่วนของความศักดิ์สิทธิ์ของคุณ อยู่ที่นี่มาก่อนจักรวาลจะอยู่ที่นี่ คุณเก่าแก่เกินจะเชื่อได้ ยิ่งไปกว่านั้น คุณไม่เคยมีจุดเริ่มต้น คุณไม่เคยมีจุดสิ้นสุด ในตัวคุณก็คือทั้งหมดนั้น แน่นอน พระเจ้ารู้ เพราะว่าคุณเป็นส่วนหนึ่งของทั้งหมดของพระเจ้า
ในพลังงานใหม่นี้ สิ่งนี้จะเริ่มเกิดขึ้น ปรากกฎขึ้น และสามารถนำมาใช้ได้ มากกว่าเวลาไหนๆ แสงสว่างกำลังเริ่มสาดส่องออกมา อย่าไปมองหามันบนโลก อย่าไปหามันในผู้นำ มองหามันในตัวคุณ นั่นคือที่ๆมันอยู่ จากนั้นสิ่งนั้นก็จะแปรไปสู่โลก สู่ผู้นำ สู่ทุกสิ่ง มันเริ่มต้นกับคุณ เราอยากให้เหตุผลบางอย่าง ไม่มีเหตุผลหรอกหรือ ที่การยกระดับที่เกิดขึ้น ที่การวิวัฒนาการเริ่มต้นขึ้น
พวกเราจึงต้องการประภาคารและไลท์เวิร์คเกอร์มากกว่าแต่ก่อน และคุณก็มีปัญหา มีเหตุผลหรือเปล่าที่คุณถูกคาดหวังให้ทุกข์ทรมาน กังวล หรือกลัว คำตอบก็คือ ไม่ มีสิ่งอื่นให้คุณ เพราะเรารู้ว่าคุณคือใคร ตอนนี้ คุณสามารถควบคุมฟิสิกส์ของสารเคมีในร่างกายของคุณได้อย่างสมบูรณ์ และคุณได้รับความช่วยเหลือเป็นครั้งแรก
ความช่วยเหลือเมื่อคุณเกี่ยวติดเข้ากับสิ่งที่ได้ผล จะมีความช่วยเหลือมากมาย คุณไม่จำเป็นต้องติดข้องกับมัน คุณจะเริ่มเห็นหลักการของมัน พัฒนามัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ หรืออื่นๆ พระเจ้ารู้จักคุณหมายความว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ ที่ขยายคุณออกไปอีกเล็กน้อย มีคณะผู้ติดตามที่พร้อมจะเข้ามาทำงานร่วมกับคุณ
ตอนนี้ คุณแค่จับมือของโลกวิญญาณ ถ้าคุณสามารถเข้าใจสิ่งนี้ได้ คุณไม่โยนมันทิ้งไป คุณต้องการสิ่งที่ผู้สื่อความพูด มันเป็นของคุณ นี่คือการตื่นรู้ครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษย์ที่วิวัฒนาการ คุณไม่ใช่คนที่คุณคิดว่าเป็น คุณคือใคร พระเจ้ารู้จักและรักคุณ รูปธรรมหลากมิติที่ปรากฏตัวบนโลกครั้งแล้วครั้งเล่า  ไม่ใช่ในความทุกข์ทรมานและติดขัดอย่างที่มันเคยเป็นมา แต่เป็นในการยกระดับ ภูมิปัญญา และความสง่างาม นั่นคือที่ๆมันกำลังไปอย่างช้าๆ คุณได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรบนโลกเมื่อเร็วๆนี้บ้าง ทั้งหมดก็เพื่อคุณ
คนหนึ่งอาจพูดว่านี่เป็นเวลาที่เลวร้ายที่สุดที่ฉันเคยมีมา เมื่อปู่ของฉันอธิบายถึงสงคราม มองดูรอบๆสิ่งนี้ สิ่งต่างๆปัญหา การรวมกันขาดหายไป คุณไม่รู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น มีการขยายอาณาเขตของประเทศอื่น ต้องเผชิญกับสงคราม อีกคนหนึ่งมองดูแล้วก็พูดว่า ดูสิ เรากำลังเริ่มเห็นการยกระดับที่ได้ทำนายเอาไว้ ความมืดและแสงสว่างกำลังเริ่มรบกันในหนทางที่ไม่เคยมีมาก่อน นี่คือคำทำนายอย่างแน่นอน ขอบคุณโลกวิญญาณที่ให้ฉันมาอยู่ที่นี่ และแสดงแสงสว่างของฉันในเวลานี้ คุณเป็นคนไหน เรารู้ว่าคุณคือใคร
คนที่ฉลองแม้ว่าจะอยู่ในความเจ็บปวด ความทุกข์ทรมาน ความไม่แน่นอน ประภาคารกำลังเริ่มส่องสว่าง บางครั้งคุณต้องทำการปรับตั้งค่า ทำให้คุณต้องตกไปอยู่ต่ำสุด ก่อนที่คุณจะเติบโตขึ้นอีกครั้ง บางครั้งก็เป็นการฟื้นคืนความอ่อนเยาว์ของเซล มันทำให้ทุกสิ่งรวนไปหมด มีพวกคุณกี่คนที่มีความกล้าหาญในตอนนี้ ที่จะพูดว่าขอบคุณสำหรับสิ่งที่ฉันผ่านมา ตอนนี้ ฉันได้รับมันแล้ว ฉันได้รับแล้ว ฉันสบายดี ฉันอยู่ที่นี่ครู่เดียว
นี่คือการสอนของวันนี้ จากผู้ที่นั่งที่เก้าอี้ทั้งสองคน ที่ใช้เวลาไปกับอีกด้านหนึ่งของม่านพราง ผู้สื่อความที่คุณเห็นในตอนนี้ มนุษย์เคยอยู่ที่นั่นในบางระดับ เคยเห็นว่าคุณคือใคร และนั่นมักจะเป็นข้อความหลักเสมอ ทั้งหมดเกี่ยวกับมนุษย์ที่มีพระเจ้าภายใน ทั้งหมดเกี่ยวกับเครื่องมือใหม่ จิตสำนึกแบบใหม่ การคิดแบบใหม่ ออกจากความกลัว ยังมีมากกว่านี้ เราจะกลับมาอีก

And so it is.

The way FEAR works  :

Greetings, dear ones, I am Kryon of Magnetic Service.  เราอยากพูดเกี่ยวกับข้อความของเมื่อเช้านี้ต่อ คำถาม คุณคิดว่าตัวคุณคือใครกลายเป็นการประกาศว่าตัวคุณคือใคร หรือว่านี่คือตัวคุณ คุณได้ฟังสิ่งนี้จากมุมมองของพระผู้สร้าง คุณได้ฟังมันจากมุมมองของเรา ที่แทบไม่มีใครให้คุณ พวกเขาบอกคุณว่าพระผู้สร้างอาจเป็นใคร พวกเขาบอกคุณว่าคุณต้องทำอะไร ที่อาจทำให้พระผู้สร้างพึงพอใจ
เรามาแล้วก็พูดว่า นี่คือสิ่งที่พระผู้สร้างคิด ถ้าคุณเป็นส่วนหนึ่งของทุกสิ่งที่เป็น ถ้าคุณเก่าแก่เช่นเดียวกับพระเจ้า ฉะนั้น ภายในตัวคุณก็คือภูมิปัญญาของยุคสมัย การแตะเข้าไปภายในนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการวิวัฒนาการของธรรมชาติของมนุษย์ ห้องเรียนนี้ที่คู่หูของเรามอบให้ในวันนี้ ได้แสดงให้คุณเห็นบางสิ่งในอนาคตของคุณ แต่ที่รัก คุณยังไม่ได้อยู่ที่นั่น
ดังนั้น เราจึงอยากพูดเกี่ยวกับความไม่สะดวกสบายบางประการ เราอยากพูดเกี่ยวกับความติดขัด การเปิดเผย การเปลี่ยนแปลง ที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ มันเป็นการสื่อความในปัจจุบัน ไม่เกี่ยวกับอดีต อนาคต จริงๆแล้วเกี่ยวกับบรรยากาศว่าเป็นอย่างไร ให้ความรู้สึกภายในบางอย่าง อาจในระหว่างการสื่อความ ให้บางสิ่งแก่คุณที่คุณไม่ได้คาดหวัง ทั้งหมดนี้ให้ในความรัก
ถ้าคุณทบทวนไปกับเรากับบางสิ่งที่เราเคยให้มาก่อน และคุณเปรียบเทียบกับสิ่งที่กำลังเป็นไปในวันนี้ เราอยากโยงทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน เราทำสิ่งนี้เพื่อตรวจสอบสิ่งที่เห็นว่าเป็นในตอนนี้ เพื่อคุณจะได้เข้าใจว่ามีความน่าเชื่อถือในสิ่งที่เราบอกคุณว่าอนาคตอาจนำอะไรมาให้ เราบอกคุณว่าความติดขัดในความมืดและแสงสว่างบนโลกนี้กำลังจะได้รับการขยาย ความติดขัดจะได้รับการขยาย
เมื่อคุณเปิดแสงสว่างในที่มืด มันจะเริ่มเปิดเผยทุกสิ่งที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน โดยเฉพาะสิ่งที่เคยเป็นความมืดมาแสนนาน ที่รัก เราใช้อุปมาของความมืดและแสงสว่างสำหรับจิตสำนึกระดับต่ำและสูง จิตสำนึกระดับสูงกว่าเป็นจิตสำนึกที่เห็นเหนือสิ่งต่างๆ ที่จิตสำนึกระดับต่ำวนเวียนอยู่ในนั้น ขณะที่ความซื่อสัตย์เป็นของสูง และเป้าหมายก็ยังสูงกว่านั้นมาก สูงกว่าทุกสิ่งที่เคยเป็นมา ความกรุณา ความเมตตา ทางออกของปัญหา ความสอดคล้อง นั่นคือจิตสำนึกระดับสูง
มันแสดงออกถึงจิตสำนึกของมนุษย์ที่เห็นสิ่งนั้นในทุกๆด้านของชีวิตของพวกเขา ไม่ทำสิ่งที่อันตราย มีความกรุณา พูดได้ว่าทุกทางออกต้องได้รับประโยชน์ทุกฝ่ายในการอภิปราย นั่นคือสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นในตอนนี้ แต่นั่นคือที่ๆกำลังไป เพื่อให้ไปถึงที่นั่น ต้องมีบางสิ่งเปลี่ยนแปลง เมื่อการยกระดับเกิดขึ้น เราเคยบอกคุณว่าต้องมีการปรับตั้งค่าหนึ่งปีเต็มๆ ก่อนที่พวกคุณส่วนใหญ่จะสามารถออกจากมันได้ และเริ่มทำงานกับปริศนา ปริศนาก็คือคุณได้รับแสงสว่างมากกว่าที่คุณคิด
มันเป็นแค่ปริศนาเพียงเพราะว่านิสัยที่คุณนำเข้ามาในแสงสว่าง เป็นนิสัยที่คุณเรียนมาในความมืด จิตสำนึกระดับต่ำก็คือที่ๆคุณใช้ชีวิตและเอาตัวรอด มันช่วยมอบปัญหาเรื่องความไม่มีคุณค่าในตนเองแก่คุณ เพราะคุณรู้ว่าคุณเป็นคนมีจิตสำนึกระดับสูง ที่มาอยู่ในโลกของจิตสำนึกระดับต่ำ แล้วเราก็บอกคุณว่าโลกนี้กำลังเริ่มเปลี่ยนแปลง จิตสำนึกระดับสูงจะชนะในที่สุด แต่ในกระบวนการจะมีความติดขัด
ความติดขัดไม่จำเป็นต้องเป็นของคุณ มันจะเป็นกับคนที่เหลือ ที่อยู่ในความมืดเสมอมา และไม่รู้ว่าแสงสว่างส่องออกมาแล้ว เราบอกคุณให้ระวังและรู้ว่าความมืดหรือจิตสำนึกระดับต่ำจะรู้อย่างมากเกี่ยวกับแสงสว่างที่เพิ่มมากขึ้น และจะมารวมตัวกัน รวมตัวกันทำให้คุณกลัว เราบอกคุณเกี่ยวกับกองทัพ คุณเห็นมันแล้ว
คุณไม่เคยมีกองทัพแบบนี้ กองทัพมืด ไม่มีพรหมแดน จินตนาการถึงเหตุผลเดียวที่กองทัพมารวมตัวกันก็คือปลุกเร้าความกลัว ทำให้สิ่งต่างๆเป็นอย่างที่เคยเป็น ทำให้ความติดขัดเป็นอย่างที่เคยเป็น กองทัพนั้นมาถึงแล้ว เราเตือนคุณเกี่ยวกับมัน พวกเขาไม่ได้มีแม้แต่ภาษาพูดร่วมกัน พวกเขาไม่ได้มีพรหมแดนของประเทศ กอบโกยทุกอย่างที่กอบโกยได้ ดำรงอยู่และแพร่ขยาย เราบอกคุณด้วยว่าพวกเขาจะถูกพิชิต
วันนี้ ในข่าว คุณพูดว่าเราเกือบทำสำเร็จแล้ว เราเกือบเอาชนะพวกเขาได้แล้ว นั่นคือสิ่งที่คุณคิดในแบบสามมิติ เพราะว่าความมืดกำลังติดขัด พวกเขาจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ พวกเขาก็แค่หาหนทางอื่น ที่อื่น เพื่อทำสิ่งที่พวกเขาจะทำ ความติดขัดยังอยู่ที่นี่ จับตาดูสิ่งต่างๆผุดขึ้นมา ชัดเจนว่าเป็นพวกเขาในอีกรูปแบบหนึ่ง
พวกเขาต้องการให้โลกนี้หันกลับไปสู่จิตสำนึกระดับต่ำทั่วทั้งโลก ไม่มีแสงสว่างส่องเข้ามา ไม่มีการวิวัฒนาการ ไม่มีความสอดคล้องและความกรุณา พวกเขาต้องการกักขังคุณไว้ในพลังงานเก่าเพื่อให้พวกเขาสามารถควบคุมคุณได้ สิ่งนั้นมาพร้อมกับความมั่งคั่ง ความโลภ การควบคุม มีบริษัทของจิตสำนึกระดับต่ำด้วย คุณจะเริ่มได้เห็นมัน
เกิดอะไรขึ้นเมื่อคุณเปิดแสงสว่างในที่มืด เราบอกคุณด้วยเกี่ยวกับคำพูดที่เราใช้ ไม่มีการหลบอยู่ในที่กำบังอีกต่อไป เราให้คำพูดอื่นด้วย ที่พูดว่า เมื่อทุกคนสามารถพูดได้กับทุกคน จะไม่มีความลับอีกต่อไป คำพูดนี้พูดเมื่อทศวรรษก่อน เกิดอะไรขึ้นในวันนี้ เนื่องจากสิ่งแรกที่คุณมีก็คือการละลายของกลุ่มเด็กเก่าที่เก็บรักษาความลับ คุณเห็นมันหรือยัง
สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ เมื่อไม่มีความลับ คนทำสิ่งที่ไม่ซื่อสัตย์จะปรากฏตัวออกมา มันทั่วไปหมด ไม่ใช่แค่ในธุรกิจ ไม่ใช่แค่ในการเมือง มันเกิดขึ้นทุกที่ พวกเขาเริ่มล้มลง วีรบุรุษ ตัวตลก คนที่หันไปหาเพื่อความขบขันและเสียงหัวเราะ คนที่คุณไปหาเพื่อปัญญาและตรากฎหมาย พวกเขาจะเริ่มแสดงตัวเองออกมา สิ่งที่คุณควรรู้ก็คือพวกเขาจะอยู่ในหนทางนั้นเสมอ นั่นคือเหตุผลที่ทำไมตอนนี้คุณจึงได้เห็นคนมากมายถูกเปิดโปง ที่รัก นี่คือข้อพิสูจน์
มีแสงสว่างบนโลกที่กำลังเริ่มวิวัฒนาการ แสงสว่างที่เอาสายลมออกจากการสมคบคิด คนที่นิ่งเงียบบนสิ่งเหล่านี้จะไม่สามารถนิ่งเงียบได้อีกต่อไป และแทบเป็นไปไม่ได้ เกือบทุกคนที่ใช้พลังอำนาจของตนเองเพื่อเปิดเผยมัน เป็นผู้หญิง นี่คือความแตกต่าง เพราะว่าในจิตสำนึกแบบเก่า ผู้หญิงไม่เคยทำอย่างนี้ เธอไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบ เธอไม่มีพลังอำนาจ
เธอไม่มีหนทางบอกให้คนอื่นได้ยิน ถ้าเธอทำได้ กลุ่มคนรอบตัวเธอจะพูดว่า ที่รัก ไม่ใช่วันนี้ แต่วันนี้ ถึงเวลาของมันแล้ว คุณเห็นการทำงานของแสงสว่างหรือเปล่า คุณเห็นหรือเปล่าว่าความซื่อสัตย์เริ่มยกมือขึ้นและเริ่มเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร คุณพูดว่า ใช่ แต่มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปทุกที่ คุณใจร้อนเกินไป เมื่อมันเกิดขึ้น คุณจะรู้มัน โดยคนที่ล้มยากที่สุด ที่รัก เราบอกคุณถึงสิ่งเหล่านี้ ตอนนี้ พวกเขาอยู่ที่นี่แล้ว ยังมีอีก
เราอยากสอนคุณเกี่ยวกับความกลัว นี่คืออาวุธของจิตสำนึกมืด ถ้ามีใครบนโลก ไม่ว่าจะเป็นผู้นำหรือเพื่อนบ้าน ที่ต้องการควบคุมคุณ ไลท์เวิร์คเกอร์ ทั้งหมดที่พวกเขาต้องทำก็คือทำให้คุณกลัว ความกลัวเป็นสิ่งที่น่าสนใจ คุณเรียกมันว่าอารมณ์แต่มันไม่ใช่ มันเป็นสถานะของจิตใจ สถานะของจิตใจชนิดนั้น ทั้งหมดจะถูกแต่งขึ้นมา
ผลลัพธ์ของสถานะของจิตใจนั้นก็คือสิ่งอื่นๆทั้งหมดจะถูกจับและถูกปราบปรามเข้าสู่ความกลัว เหตุผลหายไป อารมณ์อื่นๆทั้งหมดหายไป ทุกสิ่งจากไปและความกลัวขึ้นมาอยู่แถวหน้า ถ้าคุณไม่เชื่อมัน เราจะให้ตัวอย่าง เพราะว่านี่คืออาวุธของฝ่ายมืด ถ้าพวกเขาทำให้คุณกลัวได้ พวกเขาจะชนะคุณ
คุณแม่ได้รับโทรศัพท์ตอนเที่ยงคืน ลูกชายวัยรุ่นไม่ได้กลับบ้าน เธอกังวล เสียงนั้นบอกว่า ที่นี่สถานีตำรวจ ทุกสิ่งหลังจากนั้นเธอจำอะไรไม่ได้ มันทำให้ท้องไส้ของเธอปั่นป่วน ต่อไปจะเป็นอย่างไร คำพูดต่อไปจะว่าอย่างไร ความกลัวของแม่ทุกคน ต่อไปเขาจะพูดว่าอย่างไร ต่อไปจะเป็นอย่างไร ถ้าเธอไม่ระวัง ความรู้สึกนั้นในกระเพาะอาหารของเธอ ภายใน 3 วินาที มันจะไปอยู่ในสมอง
แล้วเธอจะไม่สามารถบอกที่อยู่ของเธอให้กับตำรวจได้ เบอร์โทรศัพท์ของเธอ หรือแม้แต่ชื่อของเธอเอง เพราะว่าความกลัวครอบครองไปหมดแล้ว จากนั้นคำพูดต่อไปก็คือ เราขับรถผ่านบาร์ ลูกของคุณดื่มเบียร์มากเกินไป เราจึงตัดสินใจพาเขากลับบ้าน เราจะไปถึงในสิบนาที หลังจากนั้นทุกอย่างก็เรียบร้อย
คุณเห็นไหมว่าเรากำลังพูดอะไร คุณมีเวลา 3 วินาที จากจุดเริ่มต้นไปถึงจุดที่มันครอบครองคุณ เราให้เหตุการณ์แก่คุณ ในปัจจุบันนี้มันไม่ใช่เรื่องผิดปกติ คุณขึ้นเครื่องบิน จากนั้นเครื่องบินก็ตกหลุมอากาศ เครื่องบินตกลงไปหนึ่งพันฟุตในทันมีทันใด ทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าลอยขึ้นไปชนเพดาน มีคนหวีดร้อง บางคนปัสสาวะราด ความกลัวแบบดิบๆ ความกลัวแบบดิบมากๆ มีบางสิ่งผิดปกติอย่างร้ายแรง ทุกคนจะตาย นั่นคือสิ่งที่คุณคิด
แน่นอน มันเป็นความสูงที่ระดับต่ำ คุณเห็นคนได้รับบาดเจ็บ ลงจอดให้เร็วที่สุด มันเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วคุณก็รู้สึกปกติ ตอนนี้ ให้เราถามคำถาม ขณะที่คุณตกลงไปหนึ่งพันฟุต เราไปสัมภาษณ์คนเหล่านี้กัน แซลลี่อยู่ที่นี่ แซลลี่ คืนนี้คุณจะทำอาหารมื้อค่ำอะไร โจ หนังที่คุณชอบคือเรื่องอะไร และสิ่งนั้นมันก็แค่เป็นไปไม่ได้ เพราะว่าพวกเขาอยู่ในความกลัว บริโภคความกลัวดิบๆ
สิ่งอื่นๆทั้งหมดออกไปทางหน้าต่าง สิ่งที่ชอบ ตัวเขาคือใคร ต่อไปจะเป็นอย่างไร ความกลัวเข้าครอบครองอย่างสมบูรณ์เต็มที่ คู่หูของเราเล่านิทานในหนังสือเล่มหนึ่งของเขา ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่มีเหตุการณ์นั้นบนเครื่องบิน เพราะว่ามีความเป็นไปได้ มีศักยภาพ ที่เครื่องยนต์จะล้มเหลว และมันก็ล้มเหลว บนเครื่องบินที่เขานั่งอยู่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ของเขาเปิดอยู่ เขากำลังทำงานกับการสื่อความ
เครื่องยนต์เกิดไฟลุกไหม้ในตอนกลางคืน มันได้ก่อให้เกิดเปลวเพลิงเป็นสายยาวถึง 4 เท่าของเครื่องบิน มันเกิดขึ้นเร็วมาก คนบนเครื่องบินเห็นเครื่องยนต์ลุกไหม้ ต่อไปจะเป็นอย่างไร เราอยากบอกคุณ คู่หูของเราไม่ได้เข้าร่วมไปกับความกลัว นี่เป็นบททดสอบของเขา เขารู้ดีว่านี่ไม่ใช่เวลาตายของเขา เขารู้ด้วยการหยั่งรู้
นักบินดับไฟในทันที กดปุ่ม แล้วเครื่องยนต์ก็เย็นลง แต่ในตอนนี้ เครื่องบินบินด้วยเครื่องยนต์เครื่องเดียว ต้องลงจอดทันที ในเวลาของความตื่นตระหนกบนเครื่องบิน คู่หูของเรามองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาเห็นคนส่วนใหญ่สูญเสียการรับรู้ทั้งหมดนอกจากความกลัว สิ่งที่เขาทำเพื่อดูแลตนเองในช่วงเวลาที่ท้าทายนั้นก็คือ บันทึกมัน เครื่องคอมพิวเตอร์ของเขาเปิดอยู่ เขาบันทึกสิ่งที่เขาเห็น
เขามีประสบการณ์ว่าความกลัวสามารถทำอะไรกับคนได้ ขณะหนึ่งพวกเขาสยายดี ครู่ต่อมาพวกเขาคิดว่ากำลังจะตาย นี่คือสิ่งที่จิตสำนึกมืดบนโลกรักที่จะมอบให้คุณ ถ้าพวกเขาสามารถทำให้คุณกลัวได้มากพอ คุณจะไม่สนใจในทางวิญญาณ คุณจะไม่อยากพูดกับตนเอง คุณไม่อยากค้นหาพระเจ้าภายใน ทั้งหมดที่คุณอยากทำก็คือเอาตัวรอด สิ่งนี้เป็นเครื่องมือที่น่าทึ่งมาก
มีวิธีการปฏิบัติต่อความกลัว วิธีที่ถูกและวิธีที่ผิด โดยเฉพาะในจิตสำนึกระดับต่ำ ให้เรายกตัวอย่างอีกตัวอย่างหนึ่ง ในสงคราม นี่ไม่ใช่คุณ นี่เป็นตัวอย่าง ครอบครัวอยู่รวมกันที่โต๊ะ พี่น้องหลายคนอยู่รอบโต๊ะ เด็กน้อย 9 ขวบกำลังมีปัญหา เขาจะทำอะไรก็ตามที่เขาทำได้เพื่อออกจากกล่อง เขาทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมที่โต๊ะ เขารู้ดีกว่า เขาจึงทำมัน เขาทำให้มันยุ่งเหยิง ทุกคนรู้ว่าจอห์นี่มีปัญหา
พ่อมองดูอาหาร แล้วก็วางช้อนลงอย่างช้าๆ มองไปที่จอห์นี่ พ่อของเขาไม่ได้พูดอะไร จอห์นี่ออกจากโต๊ะไปห้องของเขา เขารู้ว่าอะไรกำลังมา เหตุการณ์ที่สอง จอห์นี่ทำให้โต๊ะยุ่งเหยิง พ่อของเขาระเบิดอารมณ์ออกมา เขาตะโกน เขายืนบนเก้าอี้แล้วก็ขว้างอาหาร เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ กลับไปที่ห้องซะจอห์นี่ จอห์นี่กลับไปที่ห้อง หัวเราะไปตลอดทาง เพราะเขาได้รับในสิ่งที่เขาต้องการ
หลายปีต่อมาเมื่อพวกเขามาพบกันแล้วก็ดื่มกันพูดว่า จำวันนั้นได้ไหมที่พ่อขว้างอาหาร แล้วพวกเขาก็หัวเราะกัน ตอนนี้ เหตุผลที่เราบอกคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือ เพราะเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ กับประเทศเกาหลีเหนือ ที่รัก นี่ไม่ใช่คำทำนาย นี่คือบทเรียนเรื่องความกลัว ผู้นำเกาหลีเหนือต้องการทำให้ประชาชนประทับใจ นั่นคือทั้งหมดของเขา ประชาชนของเขาต้องรักเขาและเห็นว่าเขาสามารถท้าทายพ่อได้ มันเพิ่งเกิดขึ้นกับสหรัฐอเมริกา
เขาจึงคุกคาม ทุกสิ่งที่เขาทำก็เพื่อให้ได้รับการตอบสนอง และเขาก็ได้รับการตอบสนอง มีคนในอเมริกากล่าวคำประกาศที่เป็นการขว้างอาหาร เขาได้รับในสิ่งที่เขาต้องการ ทุกครั้งที่เขาให้บททดสอบ เขาได้รับในสิ่งที่เขาต้องการ ลอยมาที่ใบหน้าของผู้มีอำนาจสูงสุด ประชาชนของเขาพูดว่า นี่คือผู้นำที่แท้จริง ในขณะเดียวกันก็ไม่ทำผิดพลาด เขารู้ว่าถ้าเขาทำมันจริงๆ ถ้าเขาปล่อยจรวดที่มีหัวรบจริงๆ เขาตาย
ทุกอย่างหยุดลง พรรคพวกเขาของหยุด เขาไม่ได้สร้างสงคราม เขาสร้างเหตูการณ์ด้วยคำพูดประมาณ 15 นาที แล้วเขาก็หายไป ญาติพี่น้องของเขาหายไป ประเทศของเขาหายไป ความเป็นผู้นำของเขาไป ไม่มีใครได้รับความกดดัน เขาต้องระมัดระวัง แต่เขาได้รับบางสิ่ง เขาเป็นผู้ชำนาญในเรื่องความกลัวและปฏิกิริยาที่ได้รับจากความกลัว
ถ้าเขาทำสิ่งนี้ได้นานพอ ถ้าเขาพัฒนาอาวุธได้ดีพอ ทุกครั้งที่เขาสร้างเหตุการณ์ อเมริกาจะเต้นและขว้างอาหาร นั่นเป็นอุปมา ถ้าเขาทำสิ่งนี้ได้นานพอ ถ้าเขาพัฒนาอาวุธได้ดีพอ และเขาพิสูจน์แล้วว่าเขาได้รับประโยชน์ อเมริกาเคยทำมาก่อน ถ้าคุณเข้มแข็ง ประเทศอื่นจะยอมคุณ ประชาชนของเขาจะพูดว่าเขากล้าท้าทายยักษ์ พวกเขาจะคุกเข่าและให้ทุกสิ่งแก่คุณ ผู้นำในดวงใจของพวกเรา
ถ้าคุณอยากรู้จริงๆว่า วิญญาณที่งดงามในเกาหลีเหนือรู้สึกอย่างไร มันคือความกลัว พวกเขาอาจไม่เคยถูกสอนมาว่าตัวเขาคือใคร แต่พวกเขารู้ว่าพวกเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง และพวกเขาก็รู้เหมือนกับผู้นำของพวกเขา ถ้าพวกเขาทำสิ่งผิดๆ พวกเขาจะตายในเวลาไม่นาน ประชาชนกลัวเขา ที่นั่นไม่มีความรักมากนัก แต่ในใจของเขา เขาทำทุกสิ่งได้สมบูรณ์แบบมาก
ปฏิกิริยาที่เขาวางแผนไว้ก็คือความกลัว เขาคุกคามคนนับล้าน คนที่โบกมือ ร้องเรียกหาทุกคนที่พวกเขารู้จัก ตื่นตระหนกเท่าที่จะสามารถทำได้ มันมีประสิทธิภาพหรือเปล่า ใช่ นี่คือเครื่องมือของความกลัว ผู้นำประเทศสามารถทำได้ พ่อสามารถทำได้ เพื่อนสามารถทำได้ เจ้านายสามารถทำได้ หมอก็สามารถทำได้ มองตาคุณแล้วก็พูดว่า คุณหมดหวังแล้ว
ที่รัก นี่คือเครื่องมือที่คุณไม่ต้องไปกังวลกับมันนานนัก วันหนึ่ง จะไม่มีมนุษย์คนไหนเกิดมาเพื่อทำให้คนอื่นเครียด วันที่ความกรุณาเป็นทิศทางหลัก ไม่ว่าจะเป็นผู้นำต่อผู้นำ ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกในครอบครัวกับสมาชิกในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นพ่อกับลูก ปฏิกิริยาที่คุณได้รับจะไม่ใช่ ความโกรธแบบนิ่งเงียบ มันจะเป็นความกรุณา ทางออก ความเข้าใจ และมันจะสร้างวินัยที่ดีในครอบครัว
จะไม่มีการสูญเสียในความเป็นผู้นำ เมื่อทิศทางหลักเป็นความสอดคล้อง วัฒนธรรมที่แตกต่างกัน การทำสิ่งต่างๆแตกต่างกัน การเข้าถึงที่แตกต่างกัน แต่ทิศทางหลักทิศทางเดียวที่พวกคุณมีเหมือนๆกันก็คือคุณจะไม่ฆ่ากัน มีความไม่สมดุลอยู่เสมอ มีข้อยกเว้นเสมอ มันไม่ได้เป็นบรรทัดฐาน ทุกสิ่งที่เราให้คุณในวันนี้ อาจในรูปแบบของกราฟ ก็เพื่อขอร้องคุณให้ออกจากความกลัว
ถ้าคุณมีปัญหากับสถานการณ์ในปัจจุบันบนโลกนี้ อย่าไปดูมัน คุณจะพูดว่าทำไม ครายออนบอกพวกเราว่าอย่าไปรู้เกี่ยวกับธุระของเราบนโลกนี้ ที่รัก เราจะบอกคุณอย่างนี้ ถ้ามันทำให้คุณกลัว อย่าไปดูมัน ถ้าคุณสามารถมองดูมันได้ว่ามันคืออะไร รู้ว่ามีศักยภาพที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน ถ้าหากคุณทำผิดพลาด ถ้าหากคุณข้ามมันไปได้ ถ้าหากๆๆ ถ้ามันทำให้คุณกลัว อย่าไปเรียนรู้มัน
ถ้ามันให้ข้อมูลแก่คุณโดยปราศจากความกลัว นั่นคือความมีวุฒิภาวะที่คุณสามารถมีได้ คุณเข้าใจความแตกต่างหรือเปล่า ถ้ามีบางคนในที่ทำงานพยายามข่มขู่คุณ ทำให้คุณกลัวพวกเขา ให้เรียนรู้กฎ 3 วินาที มันจะเริ่มขึ้นในกระเพาะอาหาร ก่อนที่มันจะขึ้นสมอง มีบางสิ่งต้องทำกับงานของฉัน คิดเกี่ยวกับความเมตตา คิดว่านี่คือผู้ชายผู้หญิงที่มีวันไม่ดี นี่คือผู้ชายผู้หญิงที่ไม่สมดุล
ฉันจะไม่เข้าไปมีส่วนร่วมกับความไม่สมดุล ฉันจะแผ่เมตตาไปให้พวกเขา ฉันจะไม่กลับไปที่พวกเขา ฉันจะไม่ดูเหมือนฝูงหุ่นเชิด ฉันจะไม่มีปฏิกิริยาในหนทางที่พวกเขาคาดหวัง จะอยู่ในความกรุณา จะอยู่ในความรัก พวกเขาจะไม่ได้รับปฏิกิริยา ฉันจะไม่ขว้างอาหาร นั่นคืออุปมา ในกรณีที่คุณปรับตัวเข้าสู่การสื่อความ
คุณเห็นหรือเปล่าว่า เรากำลังไปที่ไหนกับสิ่งนี้ ไลท์เวิร์คเกอร์เรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องมือของความกลัว และเรียนรู้ที่จะต่อสู้กับมัน ถ้าคุณต้องการนำตัวตนที่สูงกว่าเข้ามาในทันที ทำมัน ถ้าคุณต้องอยู่ในระดับวิญญาณ ถ้าคุณต้องสลับเข้าสู่การทำสมาธิ ต้องใช้อะไร กฎ 3 วินาที คุณได้ฟังบางอย่างที่อาจทำให้คนอื่นกลัว คุณนั่งลงแล้วก็พูดว่า ไม่ใช่วันนี้ ไม่ใช่สำหรับฉัน
นั่นคือสิ่งที่เราบอกคู่หูของเรา เมื่อเครื่องยนต์เกิดไฟไหม้ ไม่ใช่ของคู่หูของเราในวันนี้ เหตุผลของเขาก็คือถ้าเครื่องบินลงจอดแล้วมีปัญหา ฉันจะออกจากเครื่องบินได้อย่างรวดเร็วเพราะฉันนั่งอยู่ในแถวประตูฉุกเฉิน คู่หูของเราเป็นคนจำนวนน้อยที่ฟังว่าต้องทำอะไรบ้าง ถ้าเขากลัว เขาจะจำอะไรไม่ได้ เขาจะต้องช่วยเหลือคนอื่นออกจากประตู นั่นคือสิ่งที่เขาคิด
ในความรับผิดชอบนั้น มันสลายความกลัว คุณมีความรับผิดชอบอะไรต่อแสงสว่าง เราจะบอกคุณว่ามันคืออะไร รู้จักความกลัว รู้ว่ามันทำงานอย่างไร รู้สึกถึงความรับผิดชอบนี้ถ้าคุณต้องทำ คุณรู้วิธีสลายมันแล้ว คุณอาจเป็นคนที่มีเหตุผลเพียงคนเดียวในกลุ่มคนที่กลัว สิ่งนั้นจะมีแรงดึงดูดอย่างมาก เพราะว่าในความกลัวบางคนจะอยากจับมือคนที่ไม่กลัว นั่นก็คือคุณ คุณพูดว่ามีอะไรมากมายกำลังมา มันจะดี เราจะผ่านสิ่งเหล่านี้ไปได้ คุณไม่รู้ในสิ่งที่คุณไม่รู้
ไลท์เวิร์คเกอร์ นักรบแสงสว่าง นั่นคือเครื่องมืออันหนึ่งที่คุณต้องเอาชนะเหนือมัน เพื่อให้รู้มัน ใช้มัน คุณต้องเข้าใจความกลัว จะจัดการมันได้อย่างไร มันทำงานอย่างไร มันต้องการอะไร มันต้องการอะไรที่ดูเหมือนบรรลุผล ความมืดจะไม่ชนะคุณ ถ้าคุณคาดหวังและรู้กติกา วันนี้ เรามอบสิ่งนี้ให้คุณในความรัก เพราะคุณเคยผ่านมันมาก่อน และคุณเคยกลัวในอดีต
นี่เป็นเวลาของคำแนะนำให้ไปได้เหนือความกลัว แสดงให้คุณเห็นว่ามันคืออะไร แทนที่จะพูดว่า นี่เป็นเวลาของการประกาศว่าคุณสบายดี คุณต้องรู้สึกถึงมัน คุณต้องรู้กฎ 3 วินาที คุณต้องรู้วิธีจัดการกับมัน คุณต้องมีเครื่องมือบางอย่างที่คุณมีในการหยั่งรู้ ที่ป้องกันคุณจาก มันอาจเกิดขึ้นในกระเพาะอาหาร แต่ไม่ลามไปถึงสมองหรือจิตสำนึกของคุณ จิตสำนึกของคุณยังเหนียวแน่นอยู่กับแสงสว่างของความรักของพระเจ้า
เพียงพอแล้วสำหรับตอนนี้ เราอยากให้คุณออกจากที่นี่ด้วยความแตกต่างจากตอนมา เราอยากให้คุณรู้ว่าคุณคือนักรบแสงสว่าง แสงสว่างติดตามคุณ แสงสว่างอยากอยู่กับคุณ ความกรุณาติดตามคุณ ความสอดคล้องติดตามคุณ ถ้าคุณยังไม่รู้สึกถึงมัน นี่อาจเป็นเวลาสำหรับการปลดกำแพงลงมา จับมือของตัวตนที่สูงกว่าแล้วก็พูดว่า แสดงให้ฉันเห็น ฉันพร้อมแล้ว

And so it is.

Reactions to an Unknown Future  :

Greetings, dear ones, I am Kryon of Magnetic Service.  คู่หูของเรานั่งที่เก้าอี้แล้วเราออกนำหน้ามาเกินกว่าสองทศวรรษ มีคนรู้สึกว่านี่เป็นความจริงและคนที่สงสัยสิ่งนี้ ที่รัก เราพูดถึงเรื่องนี้เพราะว่านี่คือทางเลือกเสรี วันนี้ คำถามบางคำถาม ถามเกี่ยวกับม่านพราง จุดมุ่งหมาย คุณคือใคร ทำไมถึงเป็นคุณ อันที่จริง มีบางสิ่งห่อหุ้มความจริงที่ใหญ่กว่าเอาไว้ สิ่งที่คุณรู้ดีมากเมื่อคุณไม่ได้อยู่ที่นี่
พวกคุณทุกคนรู้ความจริงที่ใหญ่กว่า มีสิ่งอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ที่งดงามและเป็นบวก ในจักรวาลนี้ ในกาแลกซี่นี้ เมื่อคุณไม่ได้อยู่ที่นี่ คุณเป็นส่วนหนึ่งของมัน ไม่มีอะไรน่ากลัวทั้งสิ้น เมื่อคุณไม่ได้อยู่ที่นี่ คุณได้ยินเสียงเพลงที่บรรเลงถึงความงดงามของพระเจ้า คุณไม่ได้ยินมัน คุณรู้สึกถึงมันเพราะว่าคุณไม่มีหูไว้ฟัง คุณเป็นอิสระจากร่างกายมนุษย์ และคุณสามารถเห็น ได้ยิน รู้สึก ถึงทุกความถี่ที่มีอยู่
คุณเป็นส่วนหนึ่งของทั้งหมดที่เป็นก่อนที่คุณจะกลับมาสู่โลก แล้วก็ถูกขับไสไปสู่ความเป็นจริงที่จำกัด ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่ทำไมเราจึงรักคุณอย่างมาก โลกนี้เกี่ยวข้องกับบางสิ่งที่ใหญ่กว่าที่คุณคิด งดงามกว่าที่คุณคิด จำเป็นต้องมีคุณอยู่นอกอคติของความรัก นั่นคือแหล่งกำเนิดแห่งการสร้างสรรค์ ที่รัก ม่านพรางกำลังเริ่มบางลงในพลังงานใหม่นี้ พวกคุณบางคนกำลังรู้สึกถึงมัน
คุณจะไม่มีความจริงที่ใหญ่กว่าเปิดเผยออกมา แต่คุณจะมีสิ่งอื่นเปิดเผยออกมา ที่รักคุณเอาใจใส่คุณ คุณสามารถเชื่อถือสิ่งที่ไม่รู้ได้ ภายในตัวคุณชิ้นส่วนของพระเจ้าแผ่รังสี และสั่นสะเทือนไปกับอีกด้านหนึ่งของม่านพราง มันเริ่มโตขึ้น มันเริ่มได้รับความเชื่อถือมากขึ้น กับความสอดคล้องกันอย่างบังเอิญ ไม่ใช่หลักเหตุผล มันจะเริ่มกลายเป็นหลากมิติมากขึ้นอย่างช้าๆ นั่นหมายความว่าคุณจะใหญ่ขึ้นในความเป็นจริง
คุณออกจากวิถีแบบเส้นตรงและสามมิติ คุณรู้ว่าเราสามารถอยู่ในหลายสถานที่ได้ในเวลาเดียวกัน เราสามารถอยู่กับพระเจ้าและอยู่ในครัวได้ในเวลาเดียวกัน เมื่อขับรถเราสามารถอยู่กับพระเจ้าได้ในขณะเดียวกัน ฉันสามารถดุร้ายได้แต่ในเวลาเดียวกันฉันก็อยู่กับคนอื่นในหนทางที่มีเมตตา ฉันรู้สึกถึงพวกเขาได้ สัมผัสพวกเขาได้
นี่เป็นส่วนหนึ่งของพลังงานใหม่ สำหรับพวกคุณบางคนมันคล้ายกับเป็นการพยายามเชื่อ ก้าวไปข้างหน้า เข้าสู่ความมืด เพราะว่าพลังงานที่แสดงตัวมันเองในตอนนี้ เป็นพลังงานที่คุณไม่เคยเห็น เมื่อคุณไม่มีอะไรมาเปรียบเทียบกับมัน และคุณไม่เคยอยู่ที่นั่นมาก่อน มนุษย์มักจะกลัว ดังนั้นเราจึงอยากให้เรื่องราวสั้นๆ เราอยากแนะนำคุณให้รู้จักเด็กหกขวบชื่อจอห์นนี่
แม่พูดกับจอห์นนี่ว่า วันนี้ เราจะไปที่ใหม่ แม่ไม่เคยพาลูกไปที่นั่นมาก่อน จิตใจของเด็กหกขวบอย่างจอห์นนี่ไม่ชอบแบบนั้น แม่ บอกผมว่าแม่จะพาผมไปที่ไหนเพื่อที่ผมจะได้รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมกลัว แม่จับมือจอห์นนี่ไปตลอดทาง ไม่เป็นไรลูก จะไม่มีสิ่งร้ายๆเกิดขึ้นกับลูก ลูกจะรู้สึกดี ถูกแล้วครับแม่ นั่นคือสิ่งที่แม่บอกผมในการเดินทางไปพบหมอครั้งแรก แล้วหมอจะจับผมฉีดยา
จอห์นนี่ ครั้งนี้ไม่มีการฉีดยา แม่รู้ว่ามันเป็นที่ๆลูกไม่เคยไปมาก่อน แต่มีคนที่แม่อยากให้ลูกไปพบ จอห์นนี่พูดว่า ไม่ ผมไม่อยากไป แล้วจอห์นนี่ก็วิ่งหนีไปปิดประตูห้อง ผมจะไม่ไปในที่ๆผมไม่รู้จัก ผมต้องไปพบกับคนใหม่ๆ มันไม่ถูกต้อง ให้ผมได้เล่น ให้ผมทำในสิ่งที่ผมรู้ แม่ ได้โปรด อย่าพาผมไป แม่เข้ามาในห้อง กอดจอห์นนี่อย่างนุ่มนวล จอห์นนี่ ดูสิ ลูกกำลังโตขึ้นนะ ลูกจะอายุเจ็ดขวบแล้วนะ
มันเป็นความร่วมมือครั้งใหญ่ โตขึ้นแล้วก็ไปกับแม่ สู่สถานที่ๆไม่เคยไปมาก่อน พบกับคนบางคน ทุกอย่างจะเรียบร้อย จอห์นนี่ถูกพาไปที่รถ เขากลัว แม่ จะเกิดอะไรขึ้น จอห์นนี่ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรจริงๆ แม่อยากให้ลูกทำตัวเหมือนเด็กเจ็ดขวบ ลูกไม่ใช่เด็กหกขวบอีกต่อไปแล้ว แม่จะจับมือลูกไปจนจบ จับมือลูกไปจนจบ แม่ ตอนจบมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า ถูกแล้วจอห์นนี่ แต่ลูกไม่ต้องกลัว ลูกกลัว ทุกอย่างจะเรียบร้อย
แม่คิดว่าลูกจะชอบมัน แม่ บอกผมว่าพวกเราจะไปที่ไหน ทำไมแม่บอกผมไม่ได้ มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของชีวิต มันจะเรียบร้อย พวกเขาไปถึงที่หมาย จอห์นนี่ไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร พวกเขาไม่เคยมาที่ตึกนี้มาก่อน เขาอ่านชื่อตึกไม่ได้ เขายังไม่รู้ภาษา แม่พาเขาเข้าไปข้างใน ก่อนที่เขาจะก้าวผ่านประตูเข้าไป แม่ของเขาพูดว่า ดูนะ นี่จะยากหน่อยนะ
แม่ต้องจากลูกไปครู่หนึ่งนะ แม่กลับมาแน่ๆ แค่ครู่เดียว แม่บอกว่ามันจะเรียบร้อย จอห์นนี่ แม่ต้องปิดไฟแล้วนะ แม่ๆๆๆ มันเกิดอะไรขึ้น จอห์นนี่ แม่ต้องปิดไฟสักหนึ่งนาที แม่จะเปิดประตู แม่จะไม่อยู่กับลูกแค่ 35 วินาที จอห์นนี่ทุกอย่างจะเรียบร้อย แม่ ทำไมต้องทำแบบนี้ ที่ลูกต้องอยู่คนเดียว แม่กำลังทำอะไร แม่ปิดไฟ ประตูเปิดขึ้น จอห์นนี่เดินเข้าไปในนั้น ลูกโตแล้ว ลูกอายุเจ็ดขวบแล้ว จอห์นนี่ตัวแข็งเป็นหิน
แม่ขอให้เขาเดินเข้าไปในประตูที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ในตึกที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ในความมืด ไม่มีแม้แต่จะจับมือ แต่จอห์นนี่คิดว่า เอาละ ฉันอายุเจ็ดขวบแล้ว เมื่ออายุมากขึ้น ฉันต้องเรียนรู้มากขึ้น ฉันรู้ว่ามันยาก ฉันอยากโตเป็นผู้ใหญ่ มันสนุกกว่าหกขวบ ตอนนี้ฉันอายุเจ็ดขวบแล้ว ไม่เป็นไร แม่พูดว่าลูกอยู่ข้างหลังแม่นะ จอห์นนี่รู้สึกได้ รู้ว่าเธออยู่ที่นั่น เธอเดินนำหน้าเข้าไปในห้องมืด จอห์นนี่กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น หมอจะปรากฏตัวพร้อมกับเข็มฉีดยาหรือเปล่า ทุกสิ่งที่เด็กคิดเป็นทำนองนี้ ทันใดนั้น ไฟก็เปิดขึ้น กลุ่มคนตะโกนออกมาว่า สุขสันต์วันเกิด จอห์นนี่
เพื่อนของเขาทุกคนอยู่ที่นั่น เพื่อนมาพร้อมกับพ่อแม่ของพวกเขาอยู่ที่นั่น มีลูกโป่ง มีการแสดง ทั้งหมดนี้เป็นการเลี้ยงฉลองเพื่อให้ประหลาดใจ เขารู้ว่ามันกำลังมา จอห์นนี่ไม่รู้อะไร จอห์นนี่เดินผ่านความกลัวของเขาเข้ามา คุณอาจเดาว่านี่เป็นอุปมา มันไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับความตาย มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับพลังงานใหม่
โลกวิญญาณพูดกับคุณว่า เราจะพาคุณไปในที่ๆคุณไม่เคยไปมาก่อน เราบอกคุณเกี่ยวกับสถานที่นั้นไม่ได้ คุณต้องมีประสบการณ์มันด้วยตัวคุณเองในฐานะของมนุษย์ ในพลังงานใหม่นี้มีสิ่งต่างๆที่คุณไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน แม่ระมัดระวังที่จะไม่อธิบายจอห์นนี่ ถึงสิ่งดีๆที่ทำให้เขาประหลาดใจ เธอบอกใบ้ไปตลอดทาง เธอจับมือเขา สนับสนุนเขา แต่จอห์นนี่ต้องผ่านมันเข้าไปด้วยตัวเอง จอห์นนี่ทำแล้ว คุณก็กำลังจะทำเช่นกัน
อาจมีเวลาที่พวกเขาปิดไฟ แล้วก็มีความประหลาดใจ ความประหลาดใจไม่ใช่สิ่งที่คุณเข้าใจหรือสงสัย ในความกลัวของคุณ หรืออาจเป็นในความไม่แน่นอนของคุณ ความประหลาดใจจะเข้ามา สิ่งที่คุณร้องขอ สิ่งที่คุณต้องการ คนที่มาเพื่อการรักษา คุณเข้าใจสิ่งนี้หรือเปล่า เรารู้ว่าคุณคือใคร พวกเรารู้ว่าคุณคือใคร พระเจ้ารู้ว่าคุณคือใคร ตอนนี้คุณกำลังเดินอยู่ในความมืด ความกลัว ความไม่แน่นอน และมีสิ่งที่งดงามกำลังมา
มนุษย์ทุกคนมีความแตกต่าง ในปฏิกิริยา ในชีวิตของพวกเขา ในความติดขัดและปัญหาที่พวกเขามี แต่พวกคุณทุกคนมีบางสิ่งที่เหมือนกันในตอนนี้ คุณกำลังเดินเข้าสู่พลังงานที่คุณไม่เคยอยู่มาก่อน มันทำให้รู้สึกไม่สบาย บางครั้งก็กลัว พวกคุณจำนวนมากถามคำถาม วิธีที่ดีที่สุดที่จะทำสิ่งนี้คืออะไร ฉันจะทำสิ่งนี้ได้อย่างไร ตอนนี้เป็นอย่างไร ต่อไปเป็นอย่างไร
ทั้งหมดที่เราสามารถพูดได้ก็คือ ต่อไปจะเป็นสิ่งที่คุณเคยมีประสบการณ์เพราะมันอยู่ข้างหลังคุณ จับมือคุณอย่างดีที่สุด ยอมรับทางเลือกเสรี พวกเราต้องตัดสินใจว่าจะก้าวไปหรือไม่ จะเชื่อหรือไม่ ในสถานที่เหล่านั้นมันดูเหมือนมืด มันดูเหมือนไม่มีพวกเขาจับมือคุณ แต่ที่รัก เราอยู่กับคุณเสมอ แต่โลกของทางเลือกเสรีต้องการเวลาเพื่อให้คุณเลือกทางเลือก เราจะไม่ครอบงำคุณ เราจะไม่จับมือคุณ เรากำลังบอคุณว่า คุณตามหลังเรา
เลือกทางเลือกที่คุณรู้ว่าเพื่อคุณ มันถูกต้อง ในการประกาศนั้น คุณมีมนุษย์ที่เริ่มเลือกทางเลือก ที่เป็นการรวมกันมากขึ้น มีแสงสว่างมากขึ้น มันจะช้า แต่ในที่สุดคุณจะเติบโต คุณรู้ว่าคุณต้องการเปิดแสงสว่าง สิ่งที่คุณผ่านมาไม่ได้เป็นเพียงแค่บททดสอบ แต่เป็นข้อเท็จจริงที่ว่า คุณไม่รู้ คุณไม่เคยเชื่อคนที่เดินข้างหน้าคุณ เคยอยู่ในตึกนั้นมาก่อน ที่เรียกว่าจิตสำนึกที่ก้าวหน้าของโลก
คุณไม่รู้ว่ามันรู้สึกอย่างไร ที่จะเชื่อคนอื่นที่คุณไม่เคยเชื่อมาก่อน ที่จะเชื่อระบบที่ไม่เคยได้ผลมาก่อน ก้าวออกไปพร้อมกับโครงการที่ล้มเหลวมาก่อน คุณอยู่ในเมืองใหม่ของพลังงาน นั่นคือสิ่งที่พวกคุณจำนวนมากรู้สึก ตอนนี้ เราอยากบอกบางสิ่งแก่คุณ สิ่งนี้เป็นเรื่องใหม่สำหรับคุณ แต่ไม่ได้ใหม่สำหรับเรา
เราเคยเห็นโลกอื่นก้าวเดินทางนี้มาก่อนคุณ เราเคยเห็นสิ่งที่มนุษย์ทำที่โลกนี้และโลกอื่น ดังนั้น เราจึงรู้ว่าอะไรควรคาดหวัง นั่นคือเหตุผลที่เรายื่นมือไปจับมือคุณ นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับเรา จำไว้ว่า คุณมีส่วนของพระเจ้าภายในตัวคุณ นั่นหมายความว่าคุณมีชิ้นส่วนของคุณที่ไม่ใช่ของใหม่เช่นกัน มันรู้ มันเป็นพลังงานของแหล่งกำเนิดแห่งการสร้างสรรค์ภายในตัวคุณ
มีพวกคุณกี่คนสามารถเรียกร้องสิ่งนั้นได้ และก้าวไปข้างหน้าในพลังงานใหม่ ในสถานที่ใหม่ พร้อมกับประสบการณ์ใหม่ และรู้สึกสบาย เพราะว่าในบางระดับคุณรู้สึกได้ถึงสิ่งที่เคยมามาก่อน คุณรู้สึกได้ว่าพวกเราคือใคร รู้อะไร ส่วนของคุณที่เป็นแหล่งกำเนิดแห่งการสร้างสรรค์ นี่คือคำตอบ คุณจะเดินทางเข้าสู่พลังงานใหม่ได้อย่างไรโดยไม่หวั่นไหว
วิญญาณเก่าแก่ทั้งหลาย คุณมีความงดงามของวุฒิภาวะหรือเปล่า เพื่อให้ก้าวล้ำกว่าความกลัวแบบเส้นตรง และโอบกอดส่วนของคุณที่เคยอยู่ที่นั่น ทำสิ่งนั้น มันงดงามและส่องสว่างคล้ายกับดวงอาทิตย์ ถ้าคุณสามารถทำได้ คุณเดินก้าวแรกไปสู่การวิวัฒนาการของโลกแล้ว ก้าวแรกที่ทำให้ DNA ของคุณมีความถี่สูงขึ้น 33% 35% หรือไปถึง 44%
คำถามเคยถามมาก่อน คุณจะไปสู่ระดับที่สูงกว่าของการทำงานของ DNA ได้อย่างไร เราเพิ่งบอกคุณไป เข้าสู่ภายในที่รู้ทุกสิ่งมากขึ้น เป็นหนึ่งเดียวกับทุกสิ่ง ไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับความรู้ที่ทุกสิ่งทำงาน เมื่อคุณรู้สึกว่าคุณไม่เคยโดดเดี่ยว เมื่อคุณได้เห็นการล้มลงของความกลัว เมื่อคุณเดินเข้าไปในความมืด และร้องเพลงไปตลอดทาง นั่นคือคนที่คุณกำลังจะเป็น
สิ่งนั้นทำให้ DNA ของคุณมีเปอร์เซ็นต์สูงขึ้นมาก จากนั้นก็จะมีคนติดตามคุณ เพราะว่าคุณแสดงหนทางแก่พวกเขา จากนั้นก็มีการฉลอง นั่นคือความรู้สึกของมัน คุณไปได้เหนือกว่าตัวคุณเอง เหนือกว่าความวิตกกังวล ความกลัว แม้แต่ความหวั่นไหว ไปจนถึงทางแยกต่อไป เมื่อประตูเปิดขึ้น มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และคุณพูดว่า ไปกันเถอะ ไม่มีความหวั่นไหว เพราะคุณคุ้นเคยกับมัน
 คุณเริ่มเข้าใจว่าอะไรเชื่อได้ในความไม่รู้ คุณเริ่มเข้าใจว่าไม่โดดเดี่ยวเป็นอย่างไร คุณเริ่มรู้สึกได้ว่าคุณอยู่กับพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่กว่า แสงสว่างที่คุณส่องออกมาในทุกที่ๆคุณเดินไปเป็นของคุณ จากนั้นมันก็ใหญ่ขึ้นๆ นั่นคือโลกที่เริ่มก้าวหน้าเข้าสู่จิตสำนึกที่สูงกว่าที่ไม่มีสงคราม ที่มีความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่เรียนในวันนี้ รวมสิ่งต่างๆเข้าด้วยกัน แทนที่จะแยกออกจากกัน
มองหาความสอดคล้องในทุกสิ่ง ใช้สนามพลังเพื่อประสานความสอดคล้องของแนวคิดสำหรับรัฐบาลแบบใหม่ การรักษาแบบใหม่ ทุกสิ่งสรุปลงไปที่ไม่มีคอร์รัปชั่นหรือความโลภหรือความเห็นแก่ตัว ประชาชนเริ่มทำงานด้วยกันในสถานการณ์ที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ขณะที่พวกเขายังมีวัฒนธรรมเป็นของตนเอง มีภาษาเป็นของตนเอง มีวิถีของพวกเขาเอง อาหารของพวกเขาเอง
พวกเขาเข้าใจได้ว่าพวกเขาสามารถแตกต่างกันได้ เมื่อมาถึงความรักซึ่งกันและกัน ความซาบซึ้งในพระเจ้าภายใน พวกเขาเป็นหนึ่งเดียวกับทุกสิ่ง นั่นคือที่ๆพวกเราจะไป มันจะไปถึงได้เร็วแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณภาคภูมิใจเมื่อคุณไปถึงห้องที่คุณกลัวได้เร็วแค่ไหน เราอยู่กับคุณเสมอ คุณรู้ไม่ใช่หรือ คุณหลบซ่อนได้ แต่เรามาหาคุณในความรักอยู่เสมอ พูดกับคุณผ่านประตูว่า เรารักคุณมาก มันจะเรียบร้อย จับมือ ตามมา ก้าวหน้าไปในแสงสว่าง ทั้งหมดเป็นอุปมา
ทั้งหมดปฏิบัติได้และงดงาม วิญญาณเก่าแก่สามารถเข้าใจได้ ที่มาอยู่ที่นี่ตามจุดมุ่งหมาย นั่นคือคุณ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่คุณมาอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่คุณมาฟังข้อความนี้ เพื่อที่คุณจะยืนขึ้นด้วยความภาคภูมิใจแล้วก็พูดว่า นี่คือเหตุผลที่ฉันมา ไม่ใช่มาที่ห้องนี้ นี่คือเหตุผลที่ฉันมาสู่โลก บางคนพูดว่าฉันแก่เกินไปแล้ว มันเป็นเรื่องตลก
ฉันแก่เกินไป สิ่งนี้ควรเกิดขึ้นตอนฉันอายุน้อยกว่านี้ ทำไมถึงเป็นตอนนี้ คำตอบก็คือ อายุของคุณเหมาะสมเพราะคุณมีอาวุโสมากเช่นกัน คุณเข้าใจสิ่งที่เราพูดหรือเปล่า นั่นคือมุมมองการรับรู้ของคุณ คนรอบตัวคุณที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับคุณจะมองมาที่คุณ คุณมีอะไรที่ฉันไม่มี พวกเรากังวลเกี่ยวกับความตายและโรค แต่คุณร้องเพลง เกิดอะไรขึ้น
คุณสามารถบอกพวกเขาได้ว่า ฉันเพิ่งค้นพบบางสิ่ง และฉันอยากบอกคุณเกี่ยวกับมัน ฉันค้นพบว่ามีสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าฉัน ฉันรู้สึกถึงมัน คุณไม่รู้สึกถึงมันหรอกหรือ มาพูดเกี่ยวกับสิ่งนี้กัน ไปที่นั่นด้วยกัน เป็นส่วนหนึ่งของมันด้วยกัน คนทุกอายุในห้องนี้ คุณมีอาวุโส คนหนุ่มสาว พวกคุณมีลูก ที่ยังแก้ปริศนาไม่ออก ที่กำลังอยู่ในความวิตกกังวลทุกครั้งที่ลูกออกจากบ้าน ไม่เคยคุ้นเคยกับมัน พลังงานใหม่มาถึงที่นี่แล้ว ลูกของพวกเขาพูดและทำในสิ่งที่ไม่มีลูกคนไหนเคยทำมาก่อน พวกเขากังวลกับลูกของพวกเขา เกิดอะไรขึ้น แต่คุณกลับร้องเพลง
ฉันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มันงดงามและเป็นบวกอย่างมาก ให้เราบอกคุณเกี่ยวกับมัน ตอนนี้ คุณมีแนวคิดเล็กน้อยเกี่ยวกับว่า ทำไมคุณจึงมาอยู่ที่นี่ ทำไมจึงอายุขนาดนี้ คุณต้องทำอะไร เราอยากให้คุณออกจากที่นี่ ร้องเพลงในหัวใจของคุณ ให้รู้ว่าคุณไม่ได้โดดเดี่ยว ให้พร้อมที่จะร้องเพลงต่อหน้าคนอื่น ไม่ใช่ในฐานะของผู้ประกาศ เราอยากให้คุณร้องเพลงรักของคุณเอง ให้พวกเขาได้ฟังมัน นั่นเป็นอุปมา
คุณรักตัวเองมากพอที่จะรู้สึกสบาย สมดุล คุณร้องเพลงรักให้กับตัวเอง ให้กับพระเจ้าภายใน คุณมีความสุขกับตัวเอง พวกเขาจะมองมาที่คุณ สงสัยว่า อะไรกันในโลกที่เกิดขึ้นกับคุณ คุณตัดขาดจากโลกแล้วหรือ คุณไม่รู้หรือว่าโลกมีปัญหา และนี่คือสิ่งที่คุณต้องต่อสู้ นั่นคือความมืด ถ้าคุณสงสัยว่าความมืดและแสงสว่างเป็นอย่างไร มันคือจิตสำนึกของคนที่อยู่ในความกลัว แต่คุณไม่กลัว
พวกเขาค้นพบในสิ่งที่คุณมี เราอยากให้คุณพร้อมจะบอกพวกเขาในหนทางที่งดงาม ไม่ใช่คุกคาม สิ่งที่คุณดึงออกมาจากตัวคุณเองให้พวกเขาเห็น ไม่ใช่บอกพวกเขาว่าคุณควรทำเช่นกัน อย่าพูดอย่างนั้น แค่พูดว่าฉันพบบางสิ่งสำหรับตัวฉัน ฉันอยากให้คุณดู บางทีคุณอาจสนใจ หลังจากนั้น ความรักมีเสน่ห์อย่างมาก คุณต้องการมันมากขึ้น เพื่อนของคุณก็เหมือนกัน เพื่อนบ้านของคุณก็เหมือนกัน
บางทีครอบครัวของคุณก็จะได้เห็นมันในวันคริสต์มาส คุณรู้ว่าเราหมายความว่าอย่างไรใช่ไหม ตอนนี้ สิ่งนี้คือความท้าทายต่อหน้าคุณ มีความสมดุลมากกว่าที่เคยมีมาก่อน ในทุกๆด้านของชีวิตของคุณ นั่นคือสิ่งที่วิญญาณเก่าแก่ทำได้
ออกจากที่นี่ร้องเพลงรักของคุณ เนื่องจากความรักที่คุณมีในตัวเอง เพื่อตัวคุณเอง เพื่อพระเจ้า จุดประกายทุกสิ่ง นั่นคือความมีวุฒิภาวะ นั่นคือความเมตตา นั่นคือสิ่งที่วิญญาณเก่าแก่สามารถทำได้

And so it is.