วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

Sun - May 15, 2016 : “The Compassion Factor”



Hamburg, Germany  :  “The Compassion Factor”

Sunday - May 15, 2016

Mini Channeling  :

Greetings, dear ones, I am Kryon of Magnetic Service.  เราอยากให้พวกคุณใช้เวลาสักครู่ พิจารณาว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนี้ พวกคุณจำนวนมากไม่เคยมีประสบการณ์อย่างนี้มาก่อน ดังนั้นจึงมีเวลาครู่หนึ่งให้กับสมองของคุณ เพื่อให้สมองของคุณพยายามหาเหตุผลของมัน และมีหลายคนที่หลักเหตุผลของพวกเขาพยายามจะทำให้มันสมเหตุสมผลในทันที เนื่องจากทุกสิ่งที่พวกเขาถูกสอนมาบอกว่าสิ่งนี้เป็นไปไม่ได้ ขณะที่คนอื่นที่รู้สึกได้ถึงพลังงานกำลังเติบโตในที่นี้
ที่รัก ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ตั้งแต่เริ่มการประชุม ได้เตรียมห้องนี้ไว้สำหรับสิ่งที่กำลังจะมา คุณรู้สึกถึงพลังงานของที่นี่หรือเปล่า ถ้าคุณรู้สึก มันคืออะไร มันเป็นพลังงานของความไม่เชื่อหรือเปล่า คุณมาที่นี่พร้อมที่จะอ้าแขนแล้วพูดว่า แสดงให้ฉันเห็นว่าสิ่งนี้ได้ผลอย่างไร หรือบางทีคุณอาจเริ่มตระหนัก นักสำรวจรู้ว่าอะไรทำให้มันได้ผล พลังงานของวันนี้ เป็นพลังงานเกี่ยวกับความเป็นไปได้หลากมิติ ความเป็นไปได้ที่พวกคุณทั้งหมดเชื่อมต่อกัน มากกว่าแบ่งแยกออกไปคนเดียว เมื่อคนหนึ่งมองดูคนอื่น พยายามที่จะคิดแล้วถามถึงการกระทำ
พวกคุณเป็นควอนตัม พวกคุณทั้งหมดรวมกันเป็นพลังงานหนึ่ง คุณมีส่วนรับผิดชอบต่อทุกคน สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนใดคนหนึ่งเกิดขึ้นกับทุกคนในสภาวะพลังงานนี้ นั่นหมายความว่าถ้าคุณมีความรักความเมตตา ถ้าคุณมีเมตตาต่อผู้อื่น มันจะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสิ่งที่จะตามมา คุณคิดถึงสิ่งนี้หรือเปล่า พวกคุณทั้งหมดอยู่ด้วยกันในพลังงานหนึ่ง และพวกคุณสามารถทำอะไรได้อีกมาก คุณคิดว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนี้ คุณรู้สึกถึงมันหรือยัง ที่นี่มีบางอย่าง
ที่รัก เราพูดกับคุณจากแหล่งกำเนิดแห่งการสร้างสรรค์ คู่หูของเราขยับไปข้างๆ และเขาได้ฝึกฝนสิ่งนี้มาเป็นเวลายาวนาน มันอนุญาตให้พลังงานความรักความเมตตาที่บริสุทธิ์เข้ามา เรารู้ว่าใครอยู่ที่นี่ ใครกำลังฟัง เรารู้เหตุผลที่คุณตัดสินใจมาอยู่ที่นี่ คุณไม่ได้นั่งอยู่คนเดียว เนื่องจากพวกคุณอยู่ด้วยกันเพื่อช่วยเหลือกัน เพื่อเข้าใจกัน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของทั้งหมด คุณคิดหรือว่าปัญหาของคุณเป็นของคุณคนเดียว คุณต้องคิดออกจากกล่องเส้นตรงนี้ แล้วพิจารณาบางสิ่งสักครู่ ในอนาคต อีกหนึ่งวันหลังจากนี้ มีความเป็นไปได้ของคนอื่นนับพันคนกำลังฟังการประชุมนี้
เราอยากให้คุณออกจากกระบวนทัศน์แบบเส้นตรงสักครู่ พวกเขาจะอยู่ที่นี่ ในเวลานี้กับคุณ ตอนที่พวกเขาเริ่มฟัง ไม่มีกาลเวลาในสภาวะแบบหลากมิติ พวกเขากำลังฟังในตอนนี้ แม้คุณจะคิดว่าพวกเขามาฟังในภายหลัง และถ้าพวกเขาอยู่ที่นี่ในตอนนี้ มีคนนับพันกำลังสนับสนุนคุณอยู่ ขณะที่คุณคิดว่ากำลังนั่งอยู่คนเดียว เรารู้ว่าใครอยู่ที่นี่
ที่รัก อะไรกีดกันคุณออกจากพระเจ้า คนอื่นสอนอะไรคุณมา ที่กีดกันคุณออกจากโลกวิญญาณส่วนตัวของคุณ นี่คือการตัดสินใจของวันนี้ ที่นี่มีคนขี้สงสัย พวกเขาสงสัยในอภิปรัชญาทุกแขนง สงสัยในพลังงานลึกลับ เรารู้ว่าใครอยู่ที่นี่ เป็นไปได้หรือไม่ที่คุณจะทำหัวใจให้อ่อนโยนลงสักครู่ แล้วพิจารณาว่าที่นี่มีมากกว่าที่คุณรู้ คุณทำใจมาเรียบร้อยแล้วว่าคุณรู้ทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้น หรือว่าเป็นไปได้ ที่พระเจ้าใหญ่กว่าที่คุณคิด พอแล้วสำหรับตอนนี้
ข้อความของครายออนก็เป็นอย่างนี้ มันเป็นการเชื้อเชิญให้รัก ให้เป็นคนอ่อนโยนขึ้น ให้ฟังอย่างตั้งใจว่าอะไรจะมาในส่วนที่เหลือของวันนี้

And so it is.

The Compassion Factor  :

Greetings, dear ones, I am Kryon of Magnetic Service.  เราจะถามอีกครั้งว่าคุณรู้สึกอย่างไรในตอนนี้ มันเป็นช่วงเวลาที่อ่อนไหวได้ง่าย สิ่งที่คุณอาจได้ยินหรือได้ฟังในวันนี้ อาจเปิดกล่องความเชื่อของคุณ เราอยากทำบางสิ่งในบ่ายนี้ ในตอนจบของการสัมมนา เราอยากเปิดเผยรายการของศักยภาพให้แก่คุณ และมันสวยงาม ส่วนใหญ่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ เรามีชื่อของการสื่อความครั้งนี้ มีกระบวนทัศน์ใหม่กำลังเกิดขึ้นบนโลก กระบวนทัศน์ใหม่ของการดำรงอยู่ โดยเฉพาะหนทางที่คุณตื่นนอน ไปทำงาน แล้วก็เข้านอน ถ้าคุณสามารถฉายภาพตัวคุณเองไปอีกสองชั่วอายุคนนับจากนี้ได้ เราอยากให้ศักยภาพของสิ่งที่คุณอาจได้เห็น
เราทำอย่างนี้มาแล้วหลายครั้ง ในหลายๆหัวข้อ แต่วันนี้จะเป็นหัวข้อที่ชื่อว่า ปัจจัยของความเมตตา Compassion Factor เราเคยพูดเรื่องนี้มาก่อน การวัดความตื่นรู้ของอารยะธรรมใดๆ ก็คือปัจจัยของความเมตตา มีความเมตตาในการสิ่งที่พวกเขาทำ ในสิ่งที่พวกเขาวางแผนหรือเปล่า นั่นเป็นโครงสร้างของความเมตตาจริงหรือเปล่า นี่คือสิ่งที่สร้างความแตกต่างระหว่างมนุษย์ที่มีจิตสำนึกระดับสูงและระดับต่ำ
ที่รัก คู่หูของเราเคยพูดบางสิ่งกับคุณ เราได้สื่อความให้กับคุณเมื่อเร็วๆนี้ เกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของการกระทำที่มีเมตตาบนโลกนี้ เราจะไม่พูดในสิ่งที่เราได้พูดไปแล้วมากนัก เราอยากพูดกับคุณเกี่ยวกับศักยภาพของสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น มีสถานที่บนโลกนี้ ที่กระเสือกกระสนอย่างมาก เป็นเวลานับพันปี สองพี่น้องต่อสู้กัน คุณได้เห็นมันในวันนี้ในประเทศอิสราเอล สายเลือดของพวกเขาก็เหมือนกัน พวกเขาบางคนมีสายเลือดเดียวกัน แต่จิตสำนึกของการเอาตัวรอดแบบเก่าทำให้พวกเขาประหลาด พวกเขาทั้งคู่มีเหตุผลที่จะเกลียดชังกัน
เมื่อคุณเริ่มเห็นสิ่งนี้ได้รับการแก้ไข เพราะว่าบางคนกำลังมา และโปรแกรมที่จะทดลองใช้ เราอยากให้คุณจดจำเวลานี้ไว้ เป็นไปได้หรือไม่ที่ความเมตตาจะสามารถสร้างความแตกต่างให้กับที่นั่นได้ ที่รัก มันจะเป็นไปอย่างช้าๆ หนทางของการวิวัฒนาการก็คือก้าวหน้าสองก้าว ถอยหลังหนึ่งก้าว อย่าตกใจที่เห็นบางสิ่งเลวร้ายลงแล้วดีขึ้น เพราะว่าการวิวัฒนาการของจิตสำนึกมักจะไปกับคุณสมบัตินั้น มันไม่ใช่หนทางที่ราบรื่น สำหรับการยกระดับของกระบวนทัศน์ใดๆ มีคนจำนวนมากที่ไม่ต้องการการเปลี่ยนแปลง และคนที่ทำงานกับการเปลี่ยนแปลงก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร คุณไม่สามารถเห็นในสิ่งที่คุณไม่รู้
ดังนั้น คุณจึงริเริ่มแล้วก็ลองทำ บางครั้งมันก็ล้มเหลว แล้วคุณก็ทำใหม่อีกครั้ง นั่นคือหนทางของมัน เราได้บอกคุณในการสื่อความครั้งก่อนๆว่า อะไรที่เป็นแนวคิดที่ดี บางสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น อาจไม่เรียกมันอย่างนี้ แต่เราให้โอวาทกับรัฐบาลของโลก ที่ใดก็ตามที่เราสื่อความและพูดว่า หน่วยงานความเมตตาระหว่างประเทศควรตั้งขึ้นมาและระดมทุนเพื่อโลก เพื่อให้ความเมตตาต่อครอบครัวที่หนีจากฝ่ายมืด มันเป็นปัญหาใหญ่ และเหตุผลไม่ใช่ปัญหาใดๆทั้งสิ้น มันเป็นเพราะไม่มีหน่วยงานความเมตตา ไม่มีระบบมาจัดการกับเหตุการณ์ความเมตตานี้ นั่นเป็นข่าวเก่า
เรามาพูดถึงสิ่งที่อยู่ในหนทางกัน และคุณจะไม่เชื่อมัน เพราะว่าในพลังงานของการเอาตัวรอดของคุณ คุณจะบอกว่าสิ่งที่ครายออนพูดเป็นไปไม่ได้ คุณบอกว่ามันไม่ใช่หนทางที่สิ่งต่างๆได้ผลที่นี่ และเราจะบอกคุณว่า คุณพูดถูก แต่เราจะอธิบายสิ่งที่ไม่เคยได้ผลในพลังงานเก่า มีคนที่กำลังเริ่มผลักดันปัจจัยของความเมตตา เรามาพูดถึงบางเรื่อง
(1) ธุรกิจ ธุรกิจมีความเมตตาอย่างไร คำตอบของคุณก็คือไม่มีเมตตาอย่างมาก บางคนพูดว่าฉันใช้ชีวิตและทำงานในทัศนคติของบริษัท ในโลกของการตลาดและการทำสัญญา มันไม่ได้มีเมตตามากนัก แล้วถ้าหากมันมีเมตตาขึ้นมา เราเคยพูดว่ามีพลังงานที่คุณยังไม่ได้มีประสบการณ์ พลังงานนี้มีอยู่ทุกที่ มันเป็นกายภาพ มันยังไม่มีชื่อในตอนนี้ ให้เราบอกคุณว่ามันคืออะไร มันเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาเมื่อความเมตตาถูกนำมาใช้ ถ้าหากธุรกิจสามารถดำเนินการร่วมไปกับความเมตตาได้ เมื่อเป้าหมายทางธุรกิจแตกต่างออกไป ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผลผลิตและกำไร มันต้องเป็นอย่างอื่น มันต้องเป็นความเมตตาภายในโครงสร้างทางธุรกิจ
ผู้คนต้องได้รับความช่วยเหลือ มันเป็นของใหม่ เมื่อคุณเริ่มได้เห็นมัน จะมีบางสิ่งที่คุณไม่ได้คาดหวัง ทันทีที่มันถูกนำมาปฏิบัติในบริษัทใดก็ตาม รับรองได้ว่ามันจะประสบความสำเร็จ มันเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับทุกสิ่งที่บริษัทต้องการ ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ ไม่มีใครทำอย่างนี้นอกจากคนจำนวนเล็กน้อย คุณกำลังจะได้เห็นคนจำนวนเล็กน้อยมากขึ้น พวกเขาจะประกาศสิ่งที่พวกเขากำลังทำ กระบวนทัศน์ใหม่จะได้เห็นในธุรกิจ ทุกครั้งที่ขายผลิตภัณฑ์ได้จะมีบางคนได้รับความช่วยเหลือ มีการระดมทุนในธุรกิจเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น
ความสำเร็จของบริษัทจะวัดกันไม่ใช่แค่เพียงผลกำไร แต่รวมปัจจัยของความเมตตาเข้าไปด้วย คล้ายกับที่บางครั้งคุณได้เห็นการวัดผลด้วยปัจจัยการรักษาสิ่งแวดล้อมในวันนี้ มันเป็นบริษัทสีเขียวใช่ไหม มันเป็นบริษัทที่มีเมตตาใช่หรือไม่ คุณอาจได้เห็นการวัดผลแบบนี้ในระบบแลกเปลี่ยนเงินตรา มีคนที่กำลังฟังในตอนนี้แล้วพูดว่า ไปกันใหญ่แล้วววว ถ้าหากความเมตตาคือสิ่งที่คุณอยากได้เห็น มองหามันได้ในทุกที่
(2) เศรษฐกิจ ไม่มีระบบเศรษฐกิจใดที่มีเมตตา มันเป็นแค่ระบบที่ดำรงอยู่ มีหนทางที่ดีกว่านี้หรือเปล่า ถ้าหากคุณออกแบบระบบเศรษฐกิจที่มีบางส่วนทำงานเพื่อช่วยเหลือผู้คน คุณคิดว่ามันจะเป็นอย่างไร บางคนบอกว่ามีระบบแบบนี้อยู่เล็กน้อยในตอนนี้ ไม่จริง ไม่จริง มีชิ้นส่วนที่ขาดหายไป คุณไม่รู้ในสิ่งที่คุณไม่รู้ ตอนนี้มีคนอายุน้อยกำลังทดลองรวมระบบเศรษฐกิจ ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์จำลอง ให้ระบบเศรษฐกิจสามารถเติบโตได้ขณะที่ช่วยเหลือผู้คน เราไม่ได้พูดถึงเรื่องโปรแกรมการให้ เราพูดถึงการปฏิบัติด้วยความเมตตา บางคนบอกว่าระบบเหล่านั้นไม่สามารถดำรงอยู่ได้ ไม่ใช่ในระบบเศรษฐกิจ มันจะมี คุณแค่ยังไม่ได้เห็นมันในตอนนี้
(3) เรากำลังจะพูดถึงคำๆหนึ่ง การเมือง คุณจะพูดว่าสิ่งนั้นไม่เคยเกิดขึ้น การเมืองที่มีเมตตา คู่แข่งขันที่ปรารถนาจะได้รับเลือกอ่อนโยนต่อกัน พวกเขาสุภาพ พวกเขามีแนวคิดที่น่าทึ่ง และพวกเขาแข่งขันกันอย่างสุภาพ คนไหนมีแนวทางดีที่สุด ได้ผล สามารถคำนวณได้ มีเหตุผล แล้วคุณก็พูดว่า ไม่เคยมี บางครั้งก็ก้าวหน้าหนึ่งก้าวถอยหลังสองก้าว บางครั้งก็ก้าวหน้าสองก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว เรารู้ว่าเราอยู่ที่ไหน ดังนั้นเราจะถามคุณขณะที่คุณกำลังฟังสิ่งนี้ คุณคิดอย่างไรกับกระบวนการเลือกตั้งของอเมริกา เห็นอะไรประหลาดไหม
ที่รัก มันก็ประหลาดอย่างที่เคยเป็นนั่นแหละ เหตุผลก็เพราะคนสิบคนในล้านคนต้องการกระบวนทัศน์ใหม่ และพวกเขาไม่รู้ว่ามันเป็นอย่างไร พวกเขาพร้อมที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ เพียงแค่ว่ามันจะไม่เหมือนเดิม พวกเขาอยากเห็นการเมืองที่มีเมตตา ยังไม่ใช่ในตอนนี้ แต่สิ่งที่คุณเห็นก็คือความปรารถนาของพวกเขา อะไรก็ได้ที่แตกต่างไปจากเดิม คุณจะได้เห็นเหตุการณ์แบบนี้ไปทั่วโลก จะมีนักการเมืองที่ลองทำแล้วล้มเหลว เพราะว่าระบบยังไม่พร้อม คุณจะได้เห็นนักการเมืองลองทำมากขึ้น เมื่อถึงเวลาหนึ่ง การเมืองที่มีเมตตาจะเป็นสิ่งที่คุณพบได้ในแผ่นดินของคุณเอง
() ความเมตตาแบบลึกลับมันเกี่ยวกับอะไร คุณจะบอกว่ามันมีอยู่แล้ว การเปลี่ยนแปลงอย่างลึกลับ อภิปรัชญา ทั้งหมดนี้มีพื้นฐานอยู่บนความเมตตา แต่ความเมตตาก็ยังมีไม่มากพอ ที่รัก คุณจะได้พบหนทางใหม่ ที่มีความเมตตาแบบลึกลับที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน ทำอย่างไรให้มีเมตตามากกว่านี้ คุณยังไม่รู้ในสิ่งที่คุณไม่รู้ มีคนที่ทำสิ่งลึกลับมากมาย ที่ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ทำสิ่งลึกลับ มันเป็นปัญหาเสมอมา มีความเหมาะสมหรือไม่ ที่จะคิดเงินค่ารักษาและการอ่านจิตใจ
ให้เราบอกคุณ ในที่สุดมันจะเกิดขึ้นกับคุณ ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องเลี้ยงชีวิตด้วยการทำสิ่งลึกลับ มันเป็นความสมดุลแบบใหม่ กระบวนทัศน์ใหม่ ในการทำธุรกิจลึกลับ พวกคุณบางคนจำเป็นต้องได้ฟังสิ่งนี้ เพราะว่าตัวเร่งปฏิกิริยาจะทำให้สิ่งนี้เติบโต ผู้รักษาความเจ็บป่วย คุณคิดเงินกับคนไข้ขณะที่คุณให้ คุณมีความสมดุลที่จะคิดเงินหรือไม่คิดเงิน มันจะเริ่มมีเหตุผลต่อคุณ และความสมดุลจะช่วยคุณ คุณจะมีอะไรเข้ามาในชีวิตมากขึ้นจากธุรกิจลึกลับที่มีเมตตา มันฟังดูขัดแย้งกัน เพราะว่าในวันนี้ คุณไม่ได้คาดหวังว่าการค้าจะมาอยู่ร่วมกับสิ่งลึกลับ
เราบอกให้คุณเห็นคุณธรรมที่ดีงาม ในธุรกิจลึกลับที่มีคุณธรรม มันจะเริ่มมีเมตตามากกว่าที่เคยเป็นมา คุณช่วยเหลือคนโดยไม่คิดเงิน และคนที่คุณสามารถคิดเงินได้ก็สามารถช่วยเหลือคนอื่นได้เช่นกัน สมดุลมักจะเท่าเทียมกันเสมอ
() ในเรื่องเฉพาะตัวของแต่ละคน คุณจะรู้สึกถึงปัจจัยของความเมตตาได้อย่างไร ในการใช้ชีวิตทุกๆวัน ตอนนี้เราจะพูดกับวิญญาณเก่าแก่ ถ้าคุณคิดว่าคุณไม่ใช่วิญญาณเก่าแก่ นั่นไม่ใช่สำหรับคุณ เพราะว่าคนส่วนใหญ่ที่นี่และที่กำลังฟังคือวิญญาณเก่าแก่ เราเคยพูดมาก่อน คุณจะไม่มีเมตตาในชีวิตตราบใดที่คุณยังแยกกับพระเจ้า มันต้องมีการรวมตลอดวัน ไม่ว่าคุณจะทำอะไร คุณต้องใช้สิ่งที่เรียกว่าพระเจ้าภายในตนเอง เมื่อคุณไปทานอาหารเที่ยง เมื่อคุณทำอาหาร ดูแลลูกที่กำลังร้องไห้ ขณะที่คุณทำงานบ้าน พระเจ้าในภายใน พระเจ้าในภายใน
เมื่อคุณเริ่มเข้าใจว่านี่ไม่ใช่พระเจ้าที่แบ่งแยก ยี่สิบสี่ชั่วโมงต่อวัน เจ็ดวันต่อสัปดาห์ ปรับตัวเข้ากับสิ่งนี้ และผลของมันก็คือความเมตตา คุณจะเริ่มเห็นสิ่งต่างๆแตกต่างออกไป กระบวนทัศน์ใหม่ ในทันทีที่คุณเข้าใจสิ่งนี้ เราเคยบอกคุณว่าสิ่งแรกที่จะเกิดขึ้นก็คือการตกหลุมรักตัวคุณเอง คุณจะเริ่มเข้าใจว่าฉันเป็นของที่นี่ ฉันอยู่ถูกที่ถูกเวลา อะไรจะเหมาะเจาะอย่างนี้ ตลอดเวลา คุณทำสิ่งนี้ได้หรือเปล่า เราหวังว่าจะเป็นอย่างนั้นเพราะว่า เราให้รายการจากหลังมาหน้า คุณจะเห็นได้ว่ามันต้องเริ่มที่คุณ
คนที่มีเมตตาในชีวิตก็คือคนที่จะมีแนวคิดของสิ่งที่เราได้พูดไปเมื่อการสื่อความครั้งก่อน คนที่คิดค้นธุรกิจ เศรษฐกิจที่มีเมตตา คนที่แสดงให้เด็กๆเห็นว่าความมีเมตตามันเป็นอย่างไร เพื่อจุดประกายแสงสว่างการเมืองแบบใหม่บนโลกนี้ เพื่อผลักดันความซื่อตรงทางด้านการแพทย์ แม้แต่การเมือง ปัจจัยของความเมตตากำลังมา พวกคุณบางคนคิดไม่ออกว่ามันจะเป็นอย่างไร ที่รัก คุณไม่จำเป็นต้องคิดถึงมัน ทั้งหมดที่คุณต้องทำก็คือเริ่มต้นที่ตัวคุณ
คุณคิดได้หรือยัง คุณอาจรู้สึกถึงบางอย่าง พวกเราทั้งหมดเชื่อมต่อกัน เราพูดกับคุณจากแหล่งกำเนิดศูนย์กลาง ที่คุณเรียกว่าพลังงานของการสร้างสรรค์ พวกเราเชื่อมต่อกัน คุณและเรา เพราะว่าชิ้นส่วนของคุณอยู่ในเรา และชิ้นส่วนของเราอยู่ในตัวคุณ ประกายแสงของพระเจ้าผู้สร้างสรรค์อยู่ในตัวมนุษย์ทุกคน เราขอเชิญคุณให้รู้สึกถึงมัน เชื่อมัน
เรากำลังจะจบการสื่อความ คุณได้อะไรไปจากที่นี่ คุณมีเวลาที่ดีหรือเปล่า คุณได้รับการรักษาหรือเปล่า การรักษาทางร่างกายหรือทางจิตใจ วิธีการคิดของคุณ อะไรคือประสบการณ์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นอะไร เราจะบอกแบบฝึกหัดที่เราเคยให้มาหลายปีแล้ว เราอยากให้คุณกลับบ้าน เข้าไปในห้องเล็กๆเพียงคนเดียวแล้วปิดประตู นำประโยคนี้เข้าไปด้วย ปิดไฟ แล้วดูว่าคุณอยู่คนเดียวจริงหรือเปล่า เพราะว่าคุณจะรู้สึกถึงมันรอบๆตัวคุณ บางคนอาจรู้สึกว่ามันสัมผัสคุณ ที่หัวหรือที่แขน อะไรคือเจตนาของคุณ คุณสามารถพูดประโยคนี้ได้ แสดงให้ฉันเห็นว่าคุณอยู่ที่นี่ แล้วคุณจะรู้สึกถึงมันได้ทางกายภาพ
คุณไม่เคยอยู่คนเดียว ความรักของพระเจ้านั่งอยู่เหนือคุณ พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของคุณในระดับใดก็ได้ที่คุณอนุญาต นั่นคือความจริงของการยกระดับในวันนี้

And so it is.

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

Sat & Sun - May 13-14, 2016 : “DNA-Consciousness”



Basel, Switzerland  :  “DNA-Consciousness”

Saturday & Sunday - May 13-14, 2016

Mini Channeling  1  :

Greetings, dear ones, I am Kryon of Magnetic Service.  คุณคิดอย่างไรกับสิ่งที่กำลังดำเนินไปในตอนนี้ เรากำลังจะพูดถึงการสื่อความในอีกสักครู่นี้ เราเคยพูดมาก่อน แต่ไม่ใช่ในการสื่อความทั้งหมด คุณคิดอย่างไรกับสิ่งที่คุณเห็น คนที่รู้สึกถึงพลังงานคือคนที่รู้ว่าอะไรกำลังดำเนินไป พวกเขารู้สึกได้ว่ามันเปลี่ยนแปลง พวกเขารู้สึกได้ว่าหัวใจเป็นหนึ่งเดียวกับข้อความ มันง่ายๆ มันคือการเป็นหนึ่งเดียวกับความรัก และคนที่นั่งติดกับเขาคิดว่ามันเป็นการหลอกลวง และความแตกต่างระหว่างสองคนนี้ไม่ได้มีมากนัก คนหนึ่งสามารถรู้สึกได้ถึงพลังงาน อีกคนเลือกที่จะไม่รู้สึก แต่ถ้าคุณมองเข้าไปในตัวของพวกเขา ทั้งคู่มีพระเจ้าอยู่ภายในตนเอง ทั้งคู่มีเครื่องมือทั้งหมดที่มี ทางเลือกเสรีก็เป็นอย่างนี้
สำหรับคนที่ไม่เชื่อว่ามันเป็นไปได้หรือเหมาะสม พวกเขาเป็นคนหนึ่งที่ยึดติดอยู่กับกล่องความเชื่อ ที่พวกเขาเรียนรู้มาว่าพวกเขาเล็กนิดเดียว ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาเลือกแต่เป็นสิ่งที่พวกเขาถูกสอนมา คุณกำลังพิจารณาบางสิ่ง มีคนบอกว่าคุณคุ้นเคยกับคำบางคำ ห้าคำ ใคร อะไร เมื่อไหร่ ที่ไหน ทำไม ดังนั้นเรามาทำอย่างนั้นกันสั้นๆ ใครที่สามารถสื่อความได้ อำนาจอะไร อำนาจอะไรที่คุณต้องมีเพื่อนั่งที่เก้าอี้แล้วเปิดม่านพรางแบบนี้ มันจริงหรือเปล่า
ที่รัก มนุษย์สื่อความมาเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว คุณเรียกมันหลายอย่าง คุณรู้หรือเปล่าว่าในวาติกัน เมื่อพระสันตะปาปาเห็นความศักดิ์สิทธิ์ตอนที่นั่งที่บัลลังก์ เขากำลังทำผิด เพราะว่าเขากำลังสื่อความ คุณจะพูดว่านั่นคือพระสันตะปาปา ใช่ แต่ในการพูดอย่างนั้น คุณยอมรับว่าอย่างน้อยมันก็เป็นไปได้ ใครสามารถสื่อความได้ เมื่อวาทยากรผู้ยิ่งใหญ่ก้าวขึ้นมากับเสียงดนตรี พวกเขากำลังเปลี่ยนแปลงโลก คุณรู้หรือเปล่าว่าเขากำลังสื่อความ เมื่อคุณเห็นรูปวาดหรืองานแกะสลักที่ทำให้คุณหลั่งน้ำตาในความงดงามของมัน คุณรู้หรือเปล่าว่านั่นคือการสื่อความ ดังนั้น ใครที่สามารถสื่อความได้
คำตอบของคำถามนี้ก็คือ ใครก็ได้ และทุกๆคน ขึ้นอยู่กับระดับจิตสำนึกที่คุณเชื่อ ที่คุณบรรลุถึง มีพวกคุณกี่คนที่มีการหยั่งรู้ที่เปลี่ยนไปเป็นแนวคิดที่ยิ่งใหญ่ สิ่งที่ชัดเจนสำหรับคุณ ไม่ใช่ของคนอื่น คุณเข้าใจหรือเปล่าว่าคุณได้สื่อความมัน ดังนั้น ใคร จึงตอบได้ง่ายมาก คุณรู้จักใครที่เคยสื่อความในอดีต เราจะพูดเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง ในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของคุณ นั่นเป็นงานเขียนของคนจำนวนมาก บางครั้งก็พูดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ บางครั้งก็มีพลังงานที่ลึกซึ้งเข้ามาเกี่ยวข้อง บางครั้งเขียนด้วยคำพูดที่น่าลุ่มหลง บางครั้งก็เขียนในคุก คุณเรียกมันว่าคำพูดของพระเจ้า เพียงแต่พระเจ้าไม่ได้เขียนมันเลยแม้แต่คำเดียว มนุษย์เป็นคนเขียน นั่นคือการสื่อความ
การสื่อความสามารถให้คำจำกัดความได้ว่า พลังงานที่เข้ามาสู่มนุษย์ มันลึกซึ้ง ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นความจริง จากนั้นก็ให้แก่คนอื่น แล้วก็มีคนพูดว่ามันแปลกประหลาดเกินไป พวกเขาไม่เข้าใจว่ามันเป็นภาษาของความรัก นั่นคือคำตอบของคำถามว่า อะไร ที่เราเพิ่งตอบไป มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ถ้าคุณยอมให้มันเกิดขึ้น มันไม่ใช่ผู้ชายที่เก้าอี้ กำลังพูดกับคนนับร้อย มันเป็นแม่กับลูก แม่ที่มีการหยั่งรู้ว่าลูกต้องการอะไร เธอกำลังสื่อความทางแก้ปัญหาและคำตอบในฐานะของแม่ นั่นคือสิ่งที่มันเป็น
มันเป็นของมนุษย์ทุกคน มันเป็นสิ่งที่การยกระดับเริ่มขยายออก ผู้รักษาที่ยืนอยู่ข้างหน้าคนไข้ และหยั่งรู้สิ่งที่คนไข้ต้องการจริงๆ ไม่ใช่สิ่งที่คนไข้บอกว่าต้องการ เมื่อพวกเขาพูดถึงสิ่งเก่าๆที่ผิดปกติในร่างกายของพวกเขา และทั้งหมดที่ผู้รักษามองเห็นก็คือความสมดุลที่จะกำจัดความกลัวแล้วเพิ่มความรัก คำพูดที่คุณได้รับข้อมูลนั้น คุณเชื่อมต่อกับแหล่งกำเนิด และคุณสื่อความมัน
ที่ไหน เป็นคำถามต่อไป และคำตอบก็คือ ที่ไหนก็ได้ คนที่บอกคุณว่ามีเฉพาะสถานที่บางสถานที่ๆเหมาะสมเท่านั้น คนที่ไม่เคยมีประสบการณ์การสื่อความอย่างเต็มที่ ไม่มีสถานที่ๆดีหรือสถานที่ๆแย่ การสื่อความเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องของคุณกับคุณ อาจเป็นบางสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ คุณขับรถอยู่บนทางด่วน มีบางคนขับรถปาดหน้าคุณ ทันใดนั้นคุณก็สื่อความพลังงานของความสงบ คุณแค่สื่อความว่าสิ่งที่คุณต้องการก็คือความสบาย เพื่อยิ้มและเข้าใจว่าความโกรธไม่มีความหมายใดๆ คุณเคยคิดถึงกรณีนี้หรือเปล่า
มีคนที่แบ่งการแสดงความนับถือ การสื่อความ การทำสมาธิออกเป็นส่วนๆ คุณสามารถทำได้เฉพาะในบางที่บางเวลาเท่านั้น นี่คือคำตอบของเมื่อไหร่ เมื่อคุณต้องการ เมื่อมีความเหมาะสม เมื่อคุณรู้สึกถึงความรักของพระเจ้าในชีวิตของคุณ ถ้าหากการสื่อความไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด ถ้าหากมันกระทำผ่านพระเจ้าภายในตัวคุณและคุณ ตลอดเวลา วันละ 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ ตลอดเวลาที่ตื่น นั่นคือ เมื่อไหร่
สุดท้าย ทำไม เราอยากให้คุณจินตนาการบางอย่างกับเรา มาพูดกันสักครู่ว่าคุณมีจิตสำนึกของพระผู้สร้าง และมีระบบที่คุณสร้างมนุษย์ คุณมีชิ้นส่วนของคุณอยู่ในตัวของพวกเขา คุณสร้างพวกเขาในภาพลักษณ์ของคุณ และภาพลักษณ์นั้นก็คือความรัก คุณให้ทางเลือกเสรีแก่พวกเขา พวกเขาจะไปที่ไหนก็ได้ตามปรารถนา พวกเขาจะเห็นว่าคุณเป็นพระผู้สร้างหรือไม่เห็นว่าคุณเป็นก็ได้ แต่ถ้าหากพวกเขาเห็นคุณ คุณจะยอมให้พวกเขารักคุณเป็นการตอบแทนหรือเปล่า
ทำไม ควรบอกคุณทุกสิ่ง เพราะว่าคุณเป็นที่รักยิ่ง ทำไม ก็เพราะด้วยทางเลือกเสรี เราอยากได้ความรักของคุณกลับมาที่เรา ทำไม ก็เพื่อให้คุณรับพลังงานนั้น ของความรักภายในตนเองแล้วเปลี่ยนแปลงตัวคุณเอง ทำไม ก็เพื่อให้คุณมีอายุยืนยาวขึ้น ทำไม ก็เพื่อให้คุณรักษาความเจ็บป่วยของร่างกายคุณเองได้ ทำไม ก็เพื่อให้คุณมีเมตตาต่อผู้อื่น นั่นคือทั้งหมดของ ทำไม
ทุกคนที่นั่งฟังที่นี่และที่กำลังฟังเสียงของเรา เป็นที่รับรู้อย่างใกล้ชิดโดยพระเจ้า มีสายใยของจิตสำนึกที่ไปจากคุณสู่พระผู้สร้าง มันมีอยู่เสมอมา ถ้าคุณไม่เชื่อในเรื่องนี้แต่อย่างใด มันก็ยังมีอยู่ ไม่สำคัญว่าคุณเชื่ออย่างไร ฟิสิกส์ของสิ่งนี้คงที่เสมอ แน่นอนและตลอดกาล สิ่งเดียวที่เปลี่ยนแปลงได้ก็คือความเชื่อของคุณ
คุณอยู่ในการยกระดับครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ นั่นหมายความว่าในตอนนี้ มีโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ที่คุณจะได้เห็นความจริงมากกว่าที่เคยมีมา และความจริงก็คือ ทำไม เพราะว่าคุณเป็นที่รักเหนือการหยั่งวัดใดๆ ในฐานะการสร้างสรรค์ที่มีชิ้นส่วนของพระเจ้า มีมือที่กำลังเอื้อมไปหาคุณ มันอยู่ในตัวคุณ มือของพระผู้สร้าง ที่กำลังพูดว่า หยั่งรู้พลังงานนี้ มีบางสิ่งที่คุณพลาดไปหรือเปล่า หรือคุณกลัวความรักของพระเจ้า คุณกลัวมันหรือเปล่า นี่อาจเป็นเวลาที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้น เราจะกลับมาอีก

And so it is.

DNA-Consciousness  :

Greetings, dear ones, I am Kryon of Magnetic Service.  คู่หูของเราขยับออกไป นี่คือสิ่งที่เราทำครั้งแล้วครั้งเล่า หมายความว่าจิตสำนึกของเขาได้ย้ายออกไป นี่เป็นสิ่งที่เขาฝึกฝนมาครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อให้สิ่งที่คุณฟังมีความบริสุทธิ์ บริสุทธิ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ในกระบวนการที่เรียกว่าการสื่อความ
เราอยากพูดเกี่ยวกับความเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น มันเป็นความเป็นหนึ่งเดียวกันภายในร่างกายของคุณ ความเป็นหนึ่งเดียวกันที่เราพูดถึงมาแล้วหลายครั้ง เราพูดเกี่ยวกับจิตสำนึกอย่างคงเส้นคงวา เราพยายามให้คำจำกัดความแก่มัน ว่ามันเป็นกายภาพที่คุณสามารถเห็นและวัดมันได้ มีความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างจิตสำนึกและ DNA ของคุณ และคุณต้องวางมันไว้กับสิ่งที่เราเรียกว่าส่วนประกอบสามประการ เราพูดเกี่ยวกับส่วนประกอบสามประการว่าเป็นวิธีการคิดของมนุษย์ ส่วนประกอบสามประการก็คือหัวใจ ต่อมไพนีล และสมอง
ส่วนประกอบทั้งสามประการจะล้มเหลว เมื่อคุณเริ่มพูดเกี่ยวกับอารมณ์ธรรมดาของความรักความเมตตา มนุษย์ทุกคนทุกวัยมีประสบการณ์ของความรักความเมตตา ต่อพ่อแม่ ต่อลูก ต่อพี่น้อง ต่อมนุษย์คนอื่น และคุณรู้ว่าคุณสมบัติที่เรียกว่าความรักความเมตตา เป็นประสบการณ์ทั่วทั้งร่างกาย ไม่ใช่แค่สมอง ที่จริงแล้วมันทำให้สมองของคุณใช้การไม่ได้เล็กน้อย มันคือหัวใจของคุณ หรือสิ่งที่คุณเรียกว่าหัวใจ หรือมันมากกว่านั้น มันมีผลกระทบต่อการหายใจ การกินของคุณ เมื่อคุณหลั่งน้ำตาโดยไม่มีเหตุผลเพราะว่าคุณมีความสุข ร่างกายทั้งร่างกายมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยไม่ใช่หรือ
เรากลับมาที่การแสดงออกของความรัก บางคนบอกว่ามันก็เป็นแค่อารมณ์ นั่นคือสิ่งที่มนุษย์มี ถูกควบคุมอย่างสมบูรณ์โดยสมอง แต่คนที่มีประสบการณ์ที่รู้ดีกว่า ถ้าคุณก้าวไปสู่ขั้นต่อไป ความรักสำหรับพระผู้สร้าง ความเป็นหุ้นส่วนกับโลกวิญญาณ ความเป็นหนึ่งเดียวกันที่คุณมี มีบางสิ่งในตอนนี้ที่รวมทุกๆประสบการณ์ของคุณเข้าไปในความรักความเมตตา นี่คืออภิปรัชญาที่คุณพูดถึง มันอยู่เหนืออารมณ์ เนื่องจากมันเริ่มสร้างสิ่งต่างๆเอง ความรู้สึกสงบในที่ๆไม่ควรมี อาจเป็นความรู้สึกดีที่เข้าใจยาก
จิตสำนึกส่วนไหนที่ทำอย่างนี้ เราอยากบอกคุณว่าจิตสำนึกวนเวียนอยู่รอบๆมัน มันยากสำหรับคนที่มีจิตสำนึกระดับต่ำที่จะรู้สึกถึงความรักความเมตตาอย่างเต็มที่กับพระเจ้า มีความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างรูปแบบ ฟิสิกส์ของจิตสำนึกและความรัก เราบอกคุณอย่างนี้เพราะว่าคุณเพิ่งได้รับการอธิบายเกี่ยวกับ DNA DNA ทำงานกับทุกอย่างที่คุณคิดว่าควบคุมร่างกายของคุณ ถ้า DNA เป็นพิมพ์เขียวของทุกสิ่งที่คุณมี คุณไม่สามารถแยกมันออกจากความคิด ความรัก หลักเหตุผล หรือความรู้ได้ มันถูกออกแบบมาอย่างนั้น
เป็นไปได้หรือไม่ที่ DNA ยังเกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณทำและคิดว่าสามารถทำได้ วิทยาศาสตร์จะบอกคุณว่าไม่มีหลักฐานในเรื่องนี้ DNA ถูกผลักใสไปเป็นกลไก มันสร้างยีนส์ มันเป็นคู่มือชีวิต ถ้าหากว่ามันมีมากกว่านั้น อย่างมาก ถ้าหาก DNA ตอบสนองต่อจิตสำนึก ถ้าหากมีสะพานเชื่อมต่อระหว่างความคิดของคุณกับสุขภาพของคุณ ผู้รักษาในห้องนี้ทุกคนรู้สิ่งนี้ คุณไม่สามารถแยกสมองออกจากสารเคมีในร่างกายได้ หรือแยกส่วนประกอบสามประการออกจากอายุขัยของคุณ มีประกายแสงของสิ่งที่เราได้อธิบายไป ประกายแสงคือหนทางในการพิจารณาสิ่งต่างๆ
DNA มีอยู่ในทุกที่ โมเลกุลหลายพันล้านโมเลกุลทั่วทั้งร่างกายของคุณ เราอยากให้คุณคิดถึงบางสิ่ง ถ้าหากมีผู้เล่นอื่นที่เท่าเทียมกันในสิ่งอื่นที่คุณคิดว่าสำคัญ สนามพลังที่มันสร้างขึ้นมา ที่เรียกว่าเมอร์คาบาห์ มีรูปแบบที่ศักดิ์สิทธิ์และงดงาม มีคนที่ศึกษาเรื่องนี้ พวกเขารู้ว่าเมื่อคุณเข้าใจรูปแบบ กระบวนการคิดของคุณสามารถเปลี่ยนแปลงได้ มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน ความเป็นหนึ่งเดียวกันที่งดงามระหว่าง DNA และส่วนประกอบสามประการ หัวใจ ต่อมไพนีล และสมอง และให้เราบอกคุณว่าความเป็นหนึ่งเดียวกันคืออะไร มันทำอะไร
ที่รัก คุณกำลังเริ่มสร้างสะพาน และสะพานนั้นก็คือจิตสำนึกของมนุษย์ ฟิสิกส์ และร่างกาย และคุณยังไม่สามารถรวมมันเข้าด้วยกันอย่างเต็มที่ ถ้าเราบอกคุณว่าจิตสำนึกสามารถพูดกับ DNA ได้ และ DNA ที่ตื่นตัวของคุณก็คือวิธีที่ร่างกายมีปฏิกิริยาต่อสิ่งต่างๆ คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับการหายป่วยในทันทีทันใด คุณรู้หรือเปล่าว่ามันคืออะไร มันคือการร่วมมือกันอย่างเต็มที่ระหว่าง DNA และจิตสำนึก
วันนี้เป็นวันของการรักษา จะอธิบายคุณสมบัติของการรักษา คุณจะได้เห็นการสาธิตสิ่งนี้ การรักษาอาจมีรูปแบบ และคุณไม่สามารถแยกมันออกจากความรักความเมตตาได้ ถ้าหากบางครั้งจิตสำนึกสามารถโน้มน้าวใจคุณได้ ให้คุณรักตัวเอง ไม่ใช่แบบหลงตัวเอง แต่เป็นแบบนับถือตนเอง ถ้าหากคุณนำความรักความเมตตาที่คุณมีให้กับคนอื่นหรือลูกของคุณ นำมันกลับไปภายในตนเอง ปฏิกิริยาจะเป็นอย่างไร เราจะบอกคุณว่ามันจะเป็นอย่างไร มันคือการหายป่วยในทันทีทันใด ร่างกายจะเริ่มชำระล้างตัวเอง สิ่งที่ไม่เหมาะสมจะหายไป เพราะว่ามันได้สัมผัสกับจิตสำนึกของความเมตตาของมนุษย์ มันได้สัมผัสกับอีกด้านหนึ่งของม่านพราง เราบอกอีกครั้งว่า คุณเชื่อมต่อกับอีกด้านหนึ่งของม่านพราง
นี่เป็นเวลาที่จะใช้การเชื่อมต่อนั้น มันคือชิ้นส่วนที่หายไป มันจะช่วยเหลือคุณด้วยจิตสำนึก DNA ของคุณรู้สึกถึงมัน มองเห็นมัน คุณจะไม่มีปัญหาในเรื่องการรักตนเองมากนัก เมื่อคุณสามารถรักพระเจ้าได้ ผู้ที่สร้างตัวคุณ ความรักคือความลับในการรักษา ผู้รักษาทุกคนรู้สิ่งนี้ ผู้รักษาไม่ได้ทำการรักษา พวกเขาสร้างสมดุล พวกเขาพยายามทำให้มนุษย์สมดุลเพื่อให้พวกเขาสามารถรักตัวเองได้ พวกเขามายืนแล้วก็มีความสงบกับทุกสิ่งรอบตัวคุณ
เรารู้ว่าใครอยู่ที่นี่ เรารู้ว่าใครกำลังฟัง เรารู้ว่าคุณกำลังมีปัญหาอะไร เรารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนี้ และบางอย่างก็เกินกว่าความเศร้าโศก บางอย่างได้สร้างความกลัว ความคับข้องใจ ถ้าหากคุณสามารถอยู่กับสิ่งเหล่านี้ในเวลาเดียวกันกับการมีความสงบไปตลอดทาง ถ้าหากคุณสามารถหายใจได้ลึกๆ แล้วแยกสิ่งเหล่านี้ออกไป ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกถึงความรักให้กับตนเอง
ถ้าหากคุณกำลังมีปัญหาเราจะบอกคุณว่าทำไม เพราะว่าในบางระดับ คุณคิดว่าคุณไม่คู่ควรกับมัน ใครบอกคุณอย่างนั้น มนุษย์คนไหนบอกคุณว่าคุณแยกออกจากความรักพระเจ้า คุณตะโกนออกไปได้ถ้าคุณต้องการ ฉันเป็นชิ้นส่วนหนึ่งของพระเจ้า และฉันมีค่าพอสำหรับมัน แล้วคุณจะรู้สึกได้ว่าสิ่งที่อยู่รอบตัวคุณเห็นด้วย คณะผู้ติดตามกำลังรอที่จะก้าวเข้ามาในชีวิตของคุณ กับทางเลือกเสรีของคุณ สิ่งนี้ควรมีเหตุผลทางวิญญาณ
ถ้าคุณเชื่อว่ามีพระเจ้า และพระเจ้านี้ที่สร้างคุณขึ้นมา มีจิตสำนึกเชื่อมต่อระหว่างพวกคุณ คล้ายกับที่คนส่วนใหญ่เชื่อมากกว่าที่คุณรู้ มีทางด่วนให้คุณเดินทางไป คุณไม่ต้องสร้างมันขึ้นมา คุณแค่เปิดประตู ประตูแห่งการรักตนเอง ประตูแห่งการรักษาตนเองและมีอายุยืนยาวขึ้น นี่คือข้อความที่เราให้แก่คุณมาตลอดหลายปีนี้ มันจะเริ่มชัดเจนขึ้น เพราะว่าสารเคมีใน DNA เป็นควอนตัม เช่นเดียวกับแหล่งกำเนิดแห่งการสร้างสรรค์ คิดถึงสิ่งนี้ มีความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่าง DNA และแหล่งกำเนิดแห่งการสร้างสรรค์
ที่รัก มีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในทุกปริศนาที่คุณได้รับ มันเป็นทางออกของปัญหาชีวิต เราพูดในขณะที่กำลังจะจบ คุณฉายภาพอะไรออกไปสำหรับคนที่คุณรักที่สุด ถ้าหากคุณสามารถวาดภาพที่สมบูรณ์ได้ กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกของคุณ ตอนคุณอยู่ที่นี่ ตอนที่คุณตายไปแล้ว คู่รักของคุณเป็นอย่างไร คุณฉายภาพอย่างไร ถ้าหากคุณสามารถสร้างความเป็นจริงได้อย่างที่ต้องการ ตำตอบก็คือคุณจะสร้างภาพที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อพวกเขา คุณวาดรอยยิ้มลงบนใบหน้าของพวกเขาและจินตนาการถึงการมีอายุยืนยาวอย่างมีความสุข มีความคับข้องใจน้อย และมีความรัก
ดังนั้น เราจึงถามคำถามอีกครั้ง คุณคิดว่าพระผู้สร้างมีอะไรน้อยกว่านั้นไหม คุณคิดว่าพระเจ้ามองภาพของคุณอย่างไร คิดถึงสิ่งนี้ ตอนคุณวาดภาพให้กับลูกของคุณหรือคู่รักของคุณ จากนั้น ขยายมันออกเป็นพันเท่า นั่นคือที่พระเจ้ามองคุณ ที่นี่ คุณอยู่กับทางเลือกเสรี คุณสงสัยว่าพระเจ้าอยู่ที่นี่หรือเปล่า บางทีอาจถึงเวลาแล้ว อย่างน้อยก็ถามคำถาม เป็นไปได้หรือเปล่าที่ฉันไม่ได้อยู่คนเดียว เมื่อคุณเริ่มถาม นั่นคือเวลาที่คุณให้การอนุญาตและเจตนารมณ์ เพื่อให้ชีวิตของคุณใหญ่ขึ้น
มีผู้ชมบางคนที่จำเป็นต้องได้ฟังคำพูดเหล่านี้ ให้การรักษาเริ่มขึ้นได้แล้ว นั่นคือเหตุผลที่คุณมา เรารู้ว่าใครอยู่ที่นี่ หายใจลึกๆ ผ่อนคลาย รู้สึกว่ามันเริ่มขึ้นแล้วในตอนนี้ แล้วออกไปให้แตกต่างจากตอนคุณมา

And so it is.

Mini Channeling  2  :

Greetings, dear ones, I am Kryon of Magnetic Service.  เราอยากส่งข้อความเกี่ยวกับแสงสว่าง ในหนทางที่เราไม่เคยพูดมาก่อน นี่เป็นเวลาที่จะมองให้ลึกกว่าเดิมอีกเล็กน้อย ในเรื่องหนทางที่สิ่งเหล่านี้ทำงาน คู่หูของเราขยับออกไป กี่ปีมาแล้วที่คุณได้ยินว่าคุณทำงานกับแสงสว่าง บางครั้งก็เรียกคุณว่าไลท์เวิร์คเกอร์ หลายครั้งที่เราใช้การอุปมาเกี่ยวกับแสงสว่าง แสงสว่างและความมืด เราบอกคุณครั้งแล้วครั้งเล่าว่าแสงสว่างเป็นฝ่ายกระทำ ความมืดเป็นฝ่ายถูกกระทำ แม้ว่าจะมีความมืดมากมายมหาศาล ทั้งหมดที่ต้องการก็คือแสงสว่างเพียงเล็กน้อย ความมืดก็ไม่สามารถดำรงอยู่ได้
แต่ตอนนี้มีความซับซ้อนมากขึ้น มีพลังงานใหม่บนโลก และแนวคิดทั้งหมดเกี่ยวกับแสงสว่างกำลังเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ข้อมูลนี้แก่คุณ เราจะใช้การอุปมา มันเป็นอุปมาที่เราเริ่มให้ในประเทศอิสราเอล มีเหตุผลที่คู่หูของเราแสดงภาพนี้ เราแบ่งการตื่นรู้ของโลกเป็นสีขาวดำและสีสันเท่าๆกัน และในข้อความส่วนตัวนี้ เราจะทำมันอีกครั้งหนึ่ง เพื่อแสดงให้คุณเห็นว่ามันได้ผลอย่างไร
จินตนาการถึงผู้ชายคนหนึ่ง โลกทั้งโลกของเขาเป็นสีขาวดำ เขารู้สึกสมบูรณ์ดีในสีขาวดำนี้ มันเป็นอุปมาเกี่ยวกับมิติ มิติระดับต่ำ มิติที่สี่ มันคือโลกขาวดำ สิ่งที่เกิดขึ้นจากจุดนี้จะเกิดขึ้นโดยทางเลือกเสรี เขาอนุญาตให้กับแสงสว่าง และมันก็ทำให้เขาตื่นรู้ เราจะบอกว่าการตื่นรู้ได้สร้างสิ่งที่เขาไม่ได้คาดหวัง เขาได้เห็นสีสันเป็นครั้งแรกในชีวิต สิ่งที่จะเกิดขึ้นเป็นลำดับถัดไปก็คือการค้นพบ เขาพบว่ามันหมายความว่าอย่างไร เขาต้องเข้าใจสิ่งที่เขาเห็น สิ่งนี้ไม่ได้เป็นอัตโนมัติ
บางครั้งการตื่นรู้ก็สร้างความกลัว จินตนาการว่าคุณได้เห็นสีสันที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน คุณอาจไม่รู้ว่ามันคืออะไร นี่คือคำถามที่น่าสนใจสำหรับคุณ มันอธิบายมนุษย์จำนวนมาก สีสันมีอยู่ที่นั่นแล้วหรือว่าพวกเขาสร้างมันขึ้นมาด้วยเจตนารมณ์ของการตื่นรู้ พวกคุณทั้งหมดรู้ว่ามันอยู่ที่นั่นอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าถ้าเราบอกเขาอย่างนั้นในโลกขาวดำของเขา เขาจะปฏิเสธมัน เราจะถามทุกคนที่ได้ยินเรา มีอะไรมากกว่าที่คุณคิดว่าคุณรู้หรือเปล่า เป็นไปได้หรือไม่ที่มีสิ่งที่ใหญ่กว่าที่คุณถูกสอนมา
มันเป็นคำถามอย่างแท้จริง คุณรู้ทุกสิ่งหรือเปล่า มนุษย์ส่วนใหญ่จะตอบว่า อาจไม่รู้ทุกสิ่ง จากนั้นเราจะพูดกับคุณว่า ทำไมคุณจึงกลัวที่จะมองกันนัก หลายคนจะตอบว่าฉันไม่ได้กลัวอะไร ฉันดูวิทยาศาสตร์ที่ใหม่ที่สุดทั้งหมด แล้วการยกระดับจิตสำนึกมันเกี่ยวกับอะไร แล้วแนวคิดทางวิญญาณแบบใหม่มันเกี่ยวกับอะไร มักจะมีส่วนของสมองที่พูดว่า ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย ฉันรู้ทุกสิ่งที่ฉันต้องรู้อยู่แล้ว
ดังนั้น ผู้ชายคนนั้นจึงค้นพบสีสันและยอมรับมัน แต่มันไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น คุณจะทำอย่างไรกับสีสัน ในเมื่อคุณไม่เคยเห็นมันมาก่อน คุณเริ่มผสมสี คุณเห็นสิ่งที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน รูปวาดสวยๆเข้ามาในชีวิต ถ้าหากว่ามีอุปมาเกี่ยวกับการได้ยินในโลกขาวดำด้วย มีเสียงในย่านความถี่เดียวที่คุณได้ยินในชีวิต ถ้าหากการค้นพบได้รวมทุกย่านความถี่ คุณสามารถได้ยินเสียงดนตรีจากสวรรค์ มันจะไปเปิดกล่องความเชื่อ จากนี้มันเริ่มดูดี
ที่รัก ในโลกสี่มิติ คุณวางโครงเรื่องเหล่านี้ด้วยตัวคุณเอง สิ่งต่างๆสว่างขึ้น คุณค้นพบ คุณจะเริ่มหรือจะหยุดในเวลาไหนก็ได้ การค้นพบคือการใช้ชีวิตอยู่ในโลกแห่งสีสัน คุณกำลังนั่งเล่นกับสีสัน นี่คือหนทางที่หลายคนคิดว่าเป็นการอยู่กับพระเจ้า พวกเขาบอกว่าถ้าคุณอยากรู้เกี่ยวกับมันมากกว่านี้ คุณต้องตื่นรู้ พระเจ้าต้องการให้คุณทำสิ่งนี้ นี้ นี้ ตลอดทางอาจช่วยเหลือคุณด้วยความทุกข์ทรมานเล็กน้อย ถ้าคุณทำมัน ค่อยๆคลานขึ้นบันใดมาอย่างถูกต้อง พระเจ้าจะมองมาที่คุณ นั่นคือการเข้าถึงแบบสี่มิติ และสิ่งที่เราจะอธิบายแก่คุณในเวลาสั้นๆนี้ เป็นหนึ่งในสิ่งที่ลึกซึ้งที่สุดในพลังงานใหม่
คุณต้องได้ฟังสิ่งนี้ เราเคยพูดถึงมันมาก่อน เราเรียกมันว่าพลังงานขยาย(Inflationary Energy) ยิ่งคุณมองมันมากเท่าใด มันก็ใหญ่มากขึ้นเท่านั้น ยิ่งคุณค้นพบมากเท่าใด ความช่วยเหลือให้ก้าวไปขั้นต่อไปก็มากขึ้นเท่านั้น ในพลังงานใหม่นี้ มีคนที่กำลังฟังสิ่งนี้ ที่จำเป็นต้องรู้ว่าอะไรกำลังดำเนินไป ใครก็ตามที่รู้สึกว่าสูญเสียของขวัญไป ของขวัญในการอ่านจิตใจ ของขวัญในการรักษา ของขวัญของความรัก เราอยากบอกคุณว่าคุณสูญเสียอะไรไป คุณแค่สูญเสียความเป็นขาวดำ เราอยากให้คุณหายใจลึกๆและรู้สิ่งนี้
การปรับตั้งค่าใหม่ที่คุณกำลังจะผ่านจะคืนของขวัญให้แก่คุณ เพียงแต่ว่ามันจะมาในแบบสีสัน มันจะเป็นการขยาย มันจะสร้างตัวมันเอง มันไม่ใช่แค่กลับมาในแบบสีสัน มันกลับมาแบบมีความเคลื่อนไหว ไม่ใช่ตายตัว คุณสามารถมองดูมันสร้างตัวมันเองทุกๆปีในชีวิตที่เหลือของคุณ คุณมีแนวคิดแบบสามมิติที่ตายตัว ของความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับพระเจ้า คุณพูดว่าขอบคุณที่ได้กลับมาในสีสัน นั่นหมายความว่าฉันกำลังมีคุณสมบัติในระดับใหม่ คุณไม่ได้เป็นอย่างนั้น คุณจะมีบันใดให้คลานขึ้นไปตลอดชีวิต มันจะเปลี่ยนแปลง มันจะดีขึ้น
ถ้าคุณไม่ใช่ผู้รักษา คุณแค่มาใช้ชีวิต คุณเคยอยู่ในโลกขาวดำ การค้นพบสีสันสำหรับคุณมันก็เหมือนเดิม มันจะนำไปสู่พลังงานใหม่ที่คุณจะเติบโต เติบโต เติบโต มันเป็นกระบวนการหลากมิติ นั่นหมายความว่าเมื่อคุณเริ่มกระบวนการของการตื่นรู้ คุณจะรู้ว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว สิ่งที่มอบให้กับคุณจะขยายออกไปทุกๆวัน เราจะไม่บอกคุณอย่างนี้ถ้ามันไม่ใช่เรื่องทางวิญญาณ
ที่รัก นี่เป็นวิถีของมัน มันใหม่ โลกวิญญาณจะรับเอาเจตนารมณ์ของคุณไปแล้วขยายมันขณะที่คุณดำเนินไป มันไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน ไม่เคยมีพลังงานที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลา ตื่นรู้มากขึ้น สว่างขึ้น ค้นพบมากขึ้น การค้นพบในภายใน วิธีขยายชีวิตของคุณเอง วิธีรักษาตนเอง นี่คือสิ่งที่กำลังมา และสำหรับวิญญาณเก่าแก่ มันมาแล้วในตอนนี้ บางคนที่กำลังฟังเราในตอนนี้คือคนที่ได้รับประโยชน์ คุณจะกลับไปด้วยความแตกต่างจากตอนคุณมา มันเป็นกระบวนการใหม่ที่ไม่เคยเห็นบนโลกนี้มาก่อน และยังมีอีกมากที่จะบอกคุณเกี่ยวกับ มันได้ผลอย่างไร จะรู้สึกถึงมันได้อย่างไร
เราจะจบด้วยสิ่งนี้ อย่าไปกลัวความรักของพระเจ้า อย่าถามถ้าคุณทำผิด อย่าถามถ้ามันปลอดภัยที่จะลองทำบางอย่าง คำพูดที่ว่าฉันกลัวความรัก มันเป็นเวลาสำหรับกระบวนทัศน์ใหม่ของชีวิต และโลกวิญญาณที่พูดว่า ฉันรู้สึกสบายกับทุกสิ่ง นำมันมาให้ฉัน ฉันมีชีวิตมายาวนานพอแล้วในพลังงานเก่า คุณพร้อมสำหรับมันหรือยัง คุณไม่รู้สึกถึงมันหรอกหรือ คุณพร้อมแล้วหรือยัง ผ่อนคลายแล้วยอมให้มันเข้ามา บางครั้งร่างกายของคุณอาจต่อต้านมัน มันอยู่ในโลกของการเอาตัวรอดมานับภพชาติไม่ถ้วน ตอนนี้เป็นเวลาของผู้รู้ พลังงานใหม่มาแล้ว นั่นคือข้อความ และจะเป็นอย่างนี้เสมอไป

And so it is.