วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

Sat & Sun - May 13-14, 2016 : “DNA-Consciousness”



Basel, Switzerland  :  “DNA-Consciousness”

Saturday & Sunday - May 13-14, 2016

Mini Channeling  1  :

Greetings, dear ones, I am Kryon of Magnetic Service.  คุณคิดอย่างไรกับสิ่งที่กำลังดำเนินไปในตอนนี้ เรากำลังจะพูดถึงการสื่อความในอีกสักครู่นี้ เราเคยพูดมาก่อน แต่ไม่ใช่ในการสื่อความทั้งหมด คุณคิดอย่างไรกับสิ่งที่คุณเห็น คนที่รู้สึกถึงพลังงานคือคนที่รู้ว่าอะไรกำลังดำเนินไป พวกเขารู้สึกได้ว่ามันเปลี่ยนแปลง พวกเขารู้สึกได้ว่าหัวใจเป็นหนึ่งเดียวกับข้อความ มันง่ายๆ มันคือการเป็นหนึ่งเดียวกับความรัก และคนที่นั่งติดกับเขาคิดว่ามันเป็นการหลอกลวง และความแตกต่างระหว่างสองคนนี้ไม่ได้มีมากนัก คนหนึ่งสามารถรู้สึกได้ถึงพลังงาน อีกคนเลือกที่จะไม่รู้สึก แต่ถ้าคุณมองเข้าไปในตัวของพวกเขา ทั้งคู่มีพระเจ้าอยู่ภายในตนเอง ทั้งคู่มีเครื่องมือทั้งหมดที่มี ทางเลือกเสรีก็เป็นอย่างนี้
สำหรับคนที่ไม่เชื่อว่ามันเป็นไปได้หรือเหมาะสม พวกเขาเป็นคนหนึ่งที่ยึดติดอยู่กับกล่องความเชื่อ ที่พวกเขาเรียนรู้มาว่าพวกเขาเล็กนิดเดียว ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาเลือกแต่เป็นสิ่งที่พวกเขาถูกสอนมา คุณกำลังพิจารณาบางสิ่ง มีคนบอกว่าคุณคุ้นเคยกับคำบางคำ ห้าคำ ใคร อะไร เมื่อไหร่ ที่ไหน ทำไม ดังนั้นเรามาทำอย่างนั้นกันสั้นๆ ใครที่สามารถสื่อความได้ อำนาจอะไร อำนาจอะไรที่คุณต้องมีเพื่อนั่งที่เก้าอี้แล้วเปิดม่านพรางแบบนี้ มันจริงหรือเปล่า
ที่รัก มนุษย์สื่อความมาเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว คุณเรียกมันหลายอย่าง คุณรู้หรือเปล่าว่าในวาติกัน เมื่อพระสันตะปาปาเห็นความศักดิ์สิทธิ์ตอนที่นั่งที่บัลลังก์ เขากำลังทำผิด เพราะว่าเขากำลังสื่อความ คุณจะพูดว่านั่นคือพระสันตะปาปา ใช่ แต่ในการพูดอย่างนั้น คุณยอมรับว่าอย่างน้อยมันก็เป็นไปได้ ใครสามารถสื่อความได้ เมื่อวาทยากรผู้ยิ่งใหญ่ก้าวขึ้นมากับเสียงดนตรี พวกเขากำลังเปลี่ยนแปลงโลก คุณรู้หรือเปล่าว่าเขากำลังสื่อความ เมื่อคุณเห็นรูปวาดหรืองานแกะสลักที่ทำให้คุณหลั่งน้ำตาในความงดงามของมัน คุณรู้หรือเปล่าว่านั่นคือการสื่อความ ดังนั้น ใครที่สามารถสื่อความได้
คำตอบของคำถามนี้ก็คือ ใครก็ได้ และทุกๆคน ขึ้นอยู่กับระดับจิตสำนึกที่คุณเชื่อ ที่คุณบรรลุถึง มีพวกคุณกี่คนที่มีการหยั่งรู้ที่เปลี่ยนไปเป็นแนวคิดที่ยิ่งใหญ่ สิ่งที่ชัดเจนสำหรับคุณ ไม่ใช่ของคนอื่น คุณเข้าใจหรือเปล่าว่าคุณได้สื่อความมัน ดังนั้น ใคร จึงตอบได้ง่ายมาก คุณรู้จักใครที่เคยสื่อความในอดีต เราจะพูดเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง ในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของคุณ นั่นเป็นงานเขียนของคนจำนวนมาก บางครั้งก็พูดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ บางครั้งก็มีพลังงานที่ลึกซึ้งเข้ามาเกี่ยวข้อง บางครั้งเขียนด้วยคำพูดที่น่าลุ่มหลง บางครั้งก็เขียนในคุก คุณเรียกมันว่าคำพูดของพระเจ้า เพียงแต่พระเจ้าไม่ได้เขียนมันเลยแม้แต่คำเดียว มนุษย์เป็นคนเขียน นั่นคือการสื่อความ
การสื่อความสามารถให้คำจำกัดความได้ว่า พลังงานที่เข้ามาสู่มนุษย์ มันลึกซึ้ง ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นความจริง จากนั้นก็ให้แก่คนอื่น แล้วก็มีคนพูดว่ามันแปลกประหลาดเกินไป พวกเขาไม่เข้าใจว่ามันเป็นภาษาของความรัก นั่นคือคำตอบของคำถามว่า อะไร ที่เราเพิ่งตอบไป มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ถ้าคุณยอมให้มันเกิดขึ้น มันไม่ใช่ผู้ชายที่เก้าอี้ กำลังพูดกับคนนับร้อย มันเป็นแม่กับลูก แม่ที่มีการหยั่งรู้ว่าลูกต้องการอะไร เธอกำลังสื่อความทางแก้ปัญหาและคำตอบในฐานะของแม่ นั่นคือสิ่งที่มันเป็น
มันเป็นของมนุษย์ทุกคน มันเป็นสิ่งที่การยกระดับเริ่มขยายออก ผู้รักษาที่ยืนอยู่ข้างหน้าคนไข้ และหยั่งรู้สิ่งที่คนไข้ต้องการจริงๆ ไม่ใช่สิ่งที่คนไข้บอกว่าต้องการ เมื่อพวกเขาพูดถึงสิ่งเก่าๆที่ผิดปกติในร่างกายของพวกเขา และทั้งหมดที่ผู้รักษามองเห็นก็คือความสมดุลที่จะกำจัดความกลัวแล้วเพิ่มความรัก คำพูดที่คุณได้รับข้อมูลนั้น คุณเชื่อมต่อกับแหล่งกำเนิด และคุณสื่อความมัน
ที่ไหน เป็นคำถามต่อไป และคำตอบก็คือ ที่ไหนก็ได้ คนที่บอกคุณว่ามีเฉพาะสถานที่บางสถานที่ๆเหมาะสมเท่านั้น คนที่ไม่เคยมีประสบการณ์การสื่อความอย่างเต็มที่ ไม่มีสถานที่ๆดีหรือสถานที่ๆแย่ การสื่อความเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องของคุณกับคุณ อาจเป็นบางสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ คุณขับรถอยู่บนทางด่วน มีบางคนขับรถปาดหน้าคุณ ทันใดนั้นคุณก็สื่อความพลังงานของความสงบ คุณแค่สื่อความว่าสิ่งที่คุณต้องการก็คือความสบาย เพื่อยิ้มและเข้าใจว่าความโกรธไม่มีความหมายใดๆ คุณเคยคิดถึงกรณีนี้หรือเปล่า
มีคนที่แบ่งการแสดงความนับถือ การสื่อความ การทำสมาธิออกเป็นส่วนๆ คุณสามารถทำได้เฉพาะในบางที่บางเวลาเท่านั้น นี่คือคำตอบของเมื่อไหร่ เมื่อคุณต้องการ เมื่อมีความเหมาะสม เมื่อคุณรู้สึกถึงความรักของพระเจ้าในชีวิตของคุณ ถ้าหากการสื่อความไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด ถ้าหากมันกระทำผ่านพระเจ้าภายในตัวคุณและคุณ ตลอดเวลา วันละ 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ ตลอดเวลาที่ตื่น นั่นคือ เมื่อไหร่
สุดท้าย ทำไม เราอยากให้คุณจินตนาการบางอย่างกับเรา มาพูดกันสักครู่ว่าคุณมีจิตสำนึกของพระผู้สร้าง และมีระบบที่คุณสร้างมนุษย์ คุณมีชิ้นส่วนของคุณอยู่ในตัวของพวกเขา คุณสร้างพวกเขาในภาพลักษณ์ของคุณ และภาพลักษณ์นั้นก็คือความรัก คุณให้ทางเลือกเสรีแก่พวกเขา พวกเขาจะไปที่ไหนก็ได้ตามปรารถนา พวกเขาจะเห็นว่าคุณเป็นพระผู้สร้างหรือไม่เห็นว่าคุณเป็นก็ได้ แต่ถ้าหากพวกเขาเห็นคุณ คุณจะยอมให้พวกเขารักคุณเป็นการตอบแทนหรือเปล่า
ทำไม ควรบอกคุณทุกสิ่ง เพราะว่าคุณเป็นที่รักยิ่ง ทำไม ก็เพราะด้วยทางเลือกเสรี เราอยากได้ความรักของคุณกลับมาที่เรา ทำไม ก็เพื่อให้คุณรับพลังงานนั้น ของความรักภายในตนเองแล้วเปลี่ยนแปลงตัวคุณเอง ทำไม ก็เพื่อให้คุณมีอายุยืนยาวขึ้น ทำไม ก็เพื่อให้คุณรักษาความเจ็บป่วยของร่างกายคุณเองได้ ทำไม ก็เพื่อให้คุณมีเมตตาต่อผู้อื่น นั่นคือทั้งหมดของ ทำไม
ทุกคนที่นั่งฟังที่นี่และที่กำลังฟังเสียงของเรา เป็นที่รับรู้อย่างใกล้ชิดโดยพระเจ้า มีสายใยของจิตสำนึกที่ไปจากคุณสู่พระผู้สร้าง มันมีอยู่เสมอมา ถ้าคุณไม่เชื่อในเรื่องนี้แต่อย่างใด มันก็ยังมีอยู่ ไม่สำคัญว่าคุณเชื่ออย่างไร ฟิสิกส์ของสิ่งนี้คงที่เสมอ แน่นอนและตลอดกาล สิ่งเดียวที่เปลี่ยนแปลงได้ก็คือความเชื่อของคุณ
คุณอยู่ในการยกระดับครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ นั่นหมายความว่าในตอนนี้ มีโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ที่คุณจะได้เห็นความจริงมากกว่าที่เคยมีมา และความจริงก็คือ ทำไม เพราะว่าคุณเป็นที่รักเหนือการหยั่งวัดใดๆ ในฐานะการสร้างสรรค์ที่มีชิ้นส่วนของพระเจ้า มีมือที่กำลังเอื้อมไปหาคุณ มันอยู่ในตัวคุณ มือของพระผู้สร้าง ที่กำลังพูดว่า หยั่งรู้พลังงานนี้ มีบางสิ่งที่คุณพลาดไปหรือเปล่า หรือคุณกลัวความรักของพระเจ้า คุณกลัวมันหรือเปล่า นี่อาจเป็นเวลาที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้น เราจะกลับมาอีก

And so it is.

DNA-Consciousness  :

Greetings, dear ones, I am Kryon of Magnetic Service.  คู่หูของเราขยับออกไป นี่คือสิ่งที่เราทำครั้งแล้วครั้งเล่า หมายความว่าจิตสำนึกของเขาได้ย้ายออกไป นี่เป็นสิ่งที่เขาฝึกฝนมาครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อให้สิ่งที่คุณฟังมีความบริสุทธิ์ บริสุทธิ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ในกระบวนการที่เรียกว่าการสื่อความ
เราอยากพูดเกี่ยวกับความเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น มันเป็นความเป็นหนึ่งเดียวกันภายในร่างกายของคุณ ความเป็นหนึ่งเดียวกันที่เราพูดถึงมาแล้วหลายครั้ง เราพูดเกี่ยวกับจิตสำนึกอย่างคงเส้นคงวา เราพยายามให้คำจำกัดความแก่มัน ว่ามันเป็นกายภาพที่คุณสามารถเห็นและวัดมันได้ มีความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างจิตสำนึกและ DNA ของคุณ และคุณต้องวางมันไว้กับสิ่งที่เราเรียกว่าส่วนประกอบสามประการ เราพูดเกี่ยวกับส่วนประกอบสามประการว่าเป็นวิธีการคิดของมนุษย์ ส่วนประกอบสามประการก็คือหัวใจ ต่อมไพนีล และสมอง
ส่วนประกอบทั้งสามประการจะล้มเหลว เมื่อคุณเริ่มพูดเกี่ยวกับอารมณ์ธรรมดาของความรักความเมตตา มนุษย์ทุกคนทุกวัยมีประสบการณ์ของความรักความเมตตา ต่อพ่อแม่ ต่อลูก ต่อพี่น้อง ต่อมนุษย์คนอื่น และคุณรู้ว่าคุณสมบัติที่เรียกว่าความรักความเมตตา เป็นประสบการณ์ทั่วทั้งร่างกาย ไม่ใช่แค่สมอง ที่จริงแล้วมันทำให้สมองของคุณใช้การไม่ได้เล็กน้อย มันคือหัวใจของคุณ หรือสิ่งที่คุณเรียกว่าหัวใจ หรือมันมากกว่านั้น มันมีผลกระทบต่อการหายใจ การกินของคุณ เมื่อคุณหลั่งน้ำตาโดยไม่มีเหตุผลเพราะว่าคุณมีความสุข ร่างกายทั้งร่างกายมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยไม่ใช่หรือ
เรากลับมาที่การแสดงออกของความรัก บางคนบอกว่ามันก็เป็นแค่อารมณ์ นั่นคือสิ่งที่มนุษย์มี ถูกควบคุมอย่างสมบูรณ์โดยสมอง แต่คนที่มีประสบการณ์ที่รู้ดีกว่า ถ้าคุณก้าวไปสู่ขั้นต่อไป ความรักสำหรับพระผู้สร้าง ความเป็นหุ้นส่วนกับโลกวิญญาณ ความเป็นหนึ่งเดียวกันที่คุณมี มีบางสิ่งในตอนนี้ที่รวมทุกๆประสบการณ์ของคุณเข้าไปในความรักความเมตตา นี่คืออภิปรัชญาที่คุณพูดถึง มันอยู่เหนืออารมณ์ เนื่องจากมันเริ่มสร้างสิ่งต่างๆเอง ความรู้สึกสงบในที่ๆไม่ควรมี อาจเป็นความรู้สึกดีที่เข้าใจยาก
จิตสำนึกส่วนไหนที่ทำอย่างนี้ เราอยากบอกคุณว่าจิตสำนึกวนเวียนอยู่รอบๆมัน มันยากสำหรับคนที่มีจิตสำนึกระดับต่ำที่จะรู้สึกถึงความรักความเมตตาอย่างเต็มที่กับพระเจ้า มีความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างรูปแบบ ฟิสิกส์ของจิตสำนึกและความรัก เราบอกคุณอย่างนี้เพราะว่าคุณเพิ่งได้รับการอธิบายเกี่ยวกับ DNA DNA ทำงานกับทุกอย่างที่คุณคิดว่าควบคุมร่างกายของคุณ ถ้า DNA เป็นพิมพ์เขียวของทุกสิ่งที่คุณมี คุณไม่สามารถแยกมันออกจากความคิด ความรัก หลักเหตุผล หรือความรู้ได้ มันถูกออกแบบมาอย่างนั้น
เป็นไปได้หรือไม่ที่ DNA ยังเกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณทำและคิดว่าสามารถทำได้ วิทยาศาสตร์จะบอกคุณว่าไม่มีหลักฐานในเรื่องนี้ DNA ถูกผลักใสไปเป็นกลไก มันสร้างยีนส์ มันเป็นคู่มือชีวิต ถ้าหากว่ามันมีมากกว่านั้น อย่างมาก ถ้าหาก DNA ตอบสนองต่อจิตสำนึก ถ้าหากมีสะพานเชื่อมต่อระหว่างความคิดของคุณกับสุขภาพของคุณ ผู้รักษาในห้องนี้ทุกคนรู้สิ่งนี้ คุณไม่สามารถแยกสมองออกจากสารเคมีในร่างกายได้ หรือแยกส่วนประกอบสามประการออกจากอายุขัยของคุณ มีประกายแสงของสิ่งที่เราได้อธิบายไป ประกายแสงคือหนทางในการพิจารณาสิ่งต่างๆ
DNA มีอยู่ในทุกที่ โมเลกุลหลายพันล้านโมเลกุลทั่วทั้งร่างกายของคุณ เราอยากให้คุณคิดถึงบางสิ่ง ถ้าหากมีผู้เล่นอื่นที่เท่าเทียมกันในสิ่งอื่นที่คุณคิดว่าสำคัญ สนามพลังที่มันสร้างขึ้นมา ที่เรียกว่าเมอร์คาบาห์ มีรูปแบบที่ศักดิ์สิทธิ์และงดงาม มีคนที่ศึกษาเรื่องนี้ พวกเขารู้ว่าเมื่อคุณเข้าใจรูปแบบ กระบวนการคิดของคุณสามารถเปลี่ยนแปลงได้ มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน ความเป็นหนึ่งเดียวกันที่งดงามระหว่าง DNA และส่วนประกอบสามประการ หัวใจ ต่อมไพนีล และสมอง และให้เราบอกคุณว่าความเป็นหนึ่งเดียวกันคืออะไร มันทำอะไร
ที่รัก คุณกำลังเริ่มสร้างสะพาน และสะพานนั้นก็คือจิตสำนึกของมนุษย์ ฟิสิกส์ และร่างกาย และคุณยังไม่สามารถรวมมันเข้าด้วยกันอย่างเต็มที่ ถ้าเราบอกคุณว่าจิตสำนึกสามารถพูดกับ DNA ได้ และ DNA ที่ตื่นตัวของคุณก็คือวิธีที่ร่างกายมีปฏิกิริยาต่อสิ่งต่างๆ คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับการหายป่วยในทันทีทันใด คุณรู้หรือเปล่าว่ามันคืออะไร มันคือการร่วมมือกันอย่างเต็มที่ระหว่าง DNA และจิตสำนึก
วันนี้เป็นวันของการรักษา จะอธิบายคุณสมบัติของการรักษา คุณจะได้เห็นการสาธิตสิ่งนี้ การรักษาอาจมีรูปแบบ และคุณไม่สามารถแยกมันออกจากความรักความเมตตาได้ ถ้าหากบางครั้งจิตสำนึกสามารถโน้มน้าวใจคุณได้ ให้คุณรักตัวเอง ไม่ใช่แบบหลงตัวเอง แต่เป็นแบบนับถือตนเอง ถ้าหากคุณนำความรักความเมตตาที่คุณมีให้กับคนอื่นหรือลูกของคุณ นำมันกลับไปภายในตนเอง ปฏิกิริยาจะเป็นอย่างไร เราจะบอกคุณว่ามันจะเป็นอย่างไร มันคือการหายป่วยในทันทีทันใด ร่างกายจะเริ่มชำระล้างตัวเอง สิ่งที่ไม่เหมาะสมจะหายไป เพราะว่ามันได้สัมผัสกับจิตสำนึกของความเมตตาของมนุษย์ มันได้สัมผัสกับอีกด้านหนึ่งของม่านพราง เราบอกอีกครั้งว่า คุณเชื่อมต่อกับอีกด้านหนึ่งของม่านพราง
นี่เป็นเวลาที่จะใช้การเชื่อมต่อนั้น มันคือชิ้นส่วนที่หายไป มันจะช่วยเหลือคุณด้วยจิตสำนึก DNA ของคุณรู้สึกถึงมัน มองเห็นมัน คุณจะไม่มีปัญหาในเรื่องการรักตนเองมากนัก เมื่อคุณสามารถรักพระเจ้าได้ ผู้ที่สร้างตัวคุณ ความรักคือความลับในการรักษา ผู้รักษาทุกคนรู้สิ่งนี้ ผู้รักษาไม่ได้ทำการรักษา พวกเขาสร้างสมดุล พวกเขาพยายามทำให้มนุษย์สมดุลเพื่อให้พวกเขาสามารถรักตัวเองได้ พวกเขามายืนแล้วก็มีความสงบกับทุกสิ่งรอบตัวคุณ
เรารู้ว่าใครอยู่ที่นี่ เรารู้ว่าใครกำลังฟัง เรารู้ว่าคุณกำลังมีปัญหาอะไร เรารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนี้ และบางอย่างก็เกินกว่าความเศร้าโศก บางอย่างได้สร้างความกลัว ความคับข้องใจ ถ้าหากคุณสามารถอยู่กับสิ่งเหล่านี้ในเวลาเดียวกันกับการมีความสงบไปตลอดทาง ถ้าหากคุณสามารถหายใจได้ลึกๆ แล้วแยกสิ่งเหล่านี้ออกไป ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกถึงความรักให้กับตนเอง
ถ้าหากคุณกำลังมีปัญหาเราจะบอกคุณว่าทำไม เพราะว่าในบางระดับ คุณคิดว่าคุณไม่คู่ควรกับมัน ใครบอกคุณอย่างนั้น มนุษย์คนไหนบอกคุณว่าคุณแยกออกจากความรักพระเจ้า คุณตะโกนออกไปได้ถ้าคุณต้องการ ฉันเป็นชิ้นส่วนหนึ่งของพระเจ้า และฉันมีค่าพอสำหรับมัน แล้วคุณจะรู้สึกได้ว่าสิ่งที่อยู่รอบตัวคุณเห็นด้วย คณะผู้ติดตามกำลังรอที่จะก้าวเข้ามาในชีวิตของคุณ กับทางเลือกเสรีของคุณ สิ่งนี้ควรมีเหตุผลทางวิญญาณ
ถ้าคุณเชื่อว่ามีพระเจ้า และพระเจ้านี้ที่สร้างคุณขึ้นมา มีจิตสำนึกเชื่อมต่อระหว่างพวกคุณ คล้ายกับที่คนส่วนใหญ่เชื่อมากกว่าที่คุณรู้ มีทางด่วนให้คุณเดินทางไป คุณไม่ต้องสร้างมันขึ้นมา คุณแค่เปิดประตู ประตูแห่งการรักตนเอง ประตูแห่งการรักษาตนเองและมีอายุยืนยาวขึ้น นี่คือข้อความที่เราให้แก่คุณมาตลอดหลายปีนี้ มันจะเริ่มชัดเจนขึ้น เพราะว่าสารเคมีใน DNA เป็นควอนตัม เช่นเดียวกับแหล่งกำเนิดแห่งการสร้างสรรค์ คิดถึงสิ่งนี้ มีความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่าง DNA และแหล่งกำเนิดแห่งการสร้างสรรค์
ที่รัก มีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในทุกปริศนาที่คุณได้รับ มันเป็นทางออกของปัญหาชีวิต เราพูดในขณะที่กำลังจะจบ คุณฉายภาพอะไรออกไปสำหรับคนที่คุณรักที่สุด ถ้าหากคุณสามารถวาดภาพที่สมบูรณ์ได้ กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกของคุณ ตอนคุณอยู่ที่นี่ ตอนที่คุณตายไปแล้ว คู่รักของคุณเป็นอย่างไร คุณฉายภาพอย่างไร ถ้าหากคุณสามารถสร้างความเป็นจริงได้อย่างที่ต้องการ ตำตอบก็คือคุณจะสร้างภาพที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อพวกเขา คุณวาดรอยยิ้มลงบนใบหน้าของพวกเขาและจินตนาการถึงการมีอายุยืนยาวอย่างมีความสุข มีความคับข้องใจน้อย และมีความรัก
ดังนั้น เราจึงถามคำถามอีกครั้ง คุณคิดว่าพระผู้สร้างมีอะไรน้อยกว่านั้นไหม คุณคิดว่าพระเจ้ามองภาพของคุณอย่างไร คิดถึงสิ่งนี้ ตอนคุณวาดภาพให้กับลูกของคุณหรือคู่รักของคุณ จากนั้น ขยายมันออกเป็นพันเท่า นั่นคือที่พระเจ้ามองคุณ ที่นี่ คุณอยู่กับทางเลือกเสรี คุณสงสัยว่าพระเจ้าอยู่ที่นี่หรือเปล่า บางทีอาจถึงเวลาแล้ว อย่างน้อยก็ถามคำถาม เป็นไปได้หรือเปล่าที่ฉันไม่ได้อยู่คนเดียว เมื่อคุณเริ่มถาม นั่นคือเวลาที่คุณให้การอนุญาตและเจตนารมณ์ เพื่อให้ชีวิตของคุณใหญ่ขึ้น
มีผู้ชมบางคนที่จำเป็นต้องได้ฟังคำพูดเหล่านี้ ให้การรักษาเริ่มขึ้นได้แล้ว นั่นคือเหตุผลที่คุณมา เรารู้ว่าใครอยู่ที่นี่ หายใจลึกๆ ผ่อนคลาย รู้สึกว่ามันเริ่มขึ้นแล้วในตอนนี้ แล้วออกไปให้แตกต่างจากตอนคุณมา

And so it is.

Mini Channeling  2  :

Greetings, dear ones, I am Kryon of Magnetic Service.  เราอยากส่งข้อความเกี่ยวกับแสงสว่าง ในหนทางที่เราไม่เคยพูดมาก่อน นี่เป็นเวลาที่จะมองให้ลึกกว่าเดิมอีกเล็กน้อย ในเรื่องหนทางที่สิ่งเหล่านี้ทำงาน คู่หูของเราขยับออกไป กี่ปีมาแล้วที่คุณได้ยินว่าคุณทำงานกับแสงสว่าง บางครั้งก็เรียกคุณว่าไลท์เวิร์คเกอร์ หลายครั้งที่เราใช้การอุปมาเกี่ยวกับแสงสว่าง แสงสว่างและความมืด เราบอกคุณครั้งแล้วครั้งเล่าว่าแสงสว่างเป็นฝ่ายกระทำ ความมืดเป็นฝ่ายถูกกระทำ แม้ว่าจะมีความมืดมากมายมหาศาล ทั้งหมดที่ต้องการก็คือแสงสว่างเพียงเล็กน้อย ความมืดก็ไม่สามารถดำรงอยู่ได้
แต่ตอนนี้มีความซับซ้อนมากขึ้น มีพลังงานใหม่บนโลก และแนวคิดทั้งหมดเกี่ยวกับแสงสว่างกำลังเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ข้อมูลนี้แก่คุณ เราจะใช้การอุปมา มันเป็นอุปมาที่เราเริ่มให้ในประเทศอิสราเอล มีเหตุผลที่คู่หูของเราแสดงภาพนี้ เราแบ่งการตื่นรู้ของโลกเป็นสีขาวดำและสีสันเท่าๆกัน และในข้อความส่วนตัวนี้ เราจะทำมันอีกครั้งหนึ่ง เพื่อแสดงให้คุณเห็นว่ามันได้ผลอย่างไร
จินตนาการถึงผู้ชายคนหนึ่ง โลกทั้งโลกของเขาเป็นสีขาวดำ เขารู้สึกสมบูรณ์ดีในสีขาวดำนี้ มันเป็นอุปมาเกี่ยวกับมิติ มิติระดับต่ำ มิติที่สี่ มันคือโลกขาวดำ สิ่งที่เกิดขึ้นจากจุดนี้จะเกิดขึ้นโดยทางเลือกเสรี เขาอนุญาตให้กับแสงสว่าง และมันก็ทำให้เขาตื่นรู้ เราจะบอกว่าการตื่นรู้ได้สร้างสิ่งที่เขาไม่ได้คาดหวัง เขาได้เห็นสีสันเป็นครั้งแรกในชีวิต สิ่งที่จะเกิดขึ้นเป็นลำดับถัดไปก็คือการค้นพบ เขาพบว่ามันหมายความว่าอย่างไร เขาต้องเข้าใจสิ่งที่เขาเห็น สิ่งนี้ไม่ได้เป็นอัตโนมัติ
บางครั้งการตื่นรู้ก็สร้างความกลัว จินตนาการว่าคุณได้เห็นสีสันที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน คุณอาจไม่รู้ว่ามันคืออะไร นี่คือคำถามที่น่าสนใจสำหรับคุณ มันอธิบายมนุษย์จำนวนมาก สีสันมีอยู่ที่นั่นแล้วหรือว่าพวกเขาสร้างมันขึ้นมาด้วยเจตนารมณ์ของการตื่นรู้ พวกคุณทั้งหมดรู้ว่ามันอยู่ที่นั่นอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าถ้าเราบอกเขาอย่างนั้นในโลกขาวดำของเขา เขาจะปฏิเสธมัน เราจะถามทุกคนที่ได้ยินเรา มีอะไรมากกว่าที่คุณคิดว่าคุณรู้หรือเปล่า เป็นไปได้หรือไม่ที่มีสิ่งที่ใหญ่กว่าที่คุณถูกสอนมา
มันเป็นคำถามอย่างแท้จริง คุณรู้ทุกสิ่งหรือเปล่า มนุษย์ส่วนใหญ่จะตอบว่า อาจไม่รู้ทุกสิ่ง จากนั้นเราจะพูดกับคุณว่า ทำไมคุณจึงกลัวที่จะมองกันนัก หลายคนจะตอบว่าฉันไม่ได้กลัวอะไร ฉันดูวิทยาศาสตร์ที่ใหม่ที่สุดทั้งหมด แล้วการยกระดับจิตสำนึกมันเกี่ยวกับอะไร แล้วแนวคิดทางวิญญาณแบบใหม่มันเกี่ยวกับอะไร มักจะมีส่วนของสมองที่พูดว่า ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย ฉันรู้ทุกสิ่งที่ฉันต้องรู้อยู่แล้ว
ดังนั้น ผู้ชายคนนั้นจึงค้นพบสีสันและยอมรับมัน แต่มันไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น คุณจะทำอย่างไรกับสีสัน ในเมื่อคุณไม่เคยเห็นมันมาก่อน คุณเริ่มผสมสี คุณเห็นสิ่งที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน รูปวาดสวยๆเข้ามาในชีวิต ถ้าหากว่ามีอุปมาเกี่ยวกับการได้ยินในโลกขาวดำด้วย มีเสียงในย่านความถี่เดียวที่คุณได้ยินในชีวิต ถ้าหากการค้นพบได้รวมทุกย่านความถี่ คุณสามารถได้ยินเสียงดนตรีจากสวรรค์ มันจะไปเปิดกล่องความเชื่อ จากนี้มันเริ่มดูดี
ที่รัก ในโลกสี่มิติ คุณวางโครงเรื่องเหล่านี้ด้วยตัวคุณเอง สิ่งต่างๆสว่างขึ้น คุณค้นพบ คุณจะเริ่มหรือจะหยุดในเวลาไหนก็ได้ การค้นพบคือการใช้ชีวิตอยู่ในโลกแห่งสีสัน คุณกำลังนั่งเล่นกับสีสัน นี่คือหนทางที่หลายคนคิดว่าเป็นการอยู่กับพระเจ้า พวกเขาบอกว่าถ้าคุณอยากรู้เกี่ยวกับมันมากกว่านี้ คุณต้องตื่นรู้ พระเจ้าต้องการให้คุณทำสิ่งนี้ นี้ นี้ ตลอดทางอาจช่วยเหลือคุณด้วยความทุกข์ทรมานเล็กน้อย ถ้าคุณทำมัน ค่อยๆคลานขึ้นบันใดมาอย่างถูกต้อง พระเจ้าจะมองมาที่คุณ นั่นคือการเข้าถึงแบบสี่มิติ และสิ่งที่เราจะอธิบายแก่คุณในเวลาสั้นๆนี้ เป็นหนึ่งในสิ่งที่ลึกซึ้งที่สุดในพลังงานใหม่
คุณต้องได้ฟังสิ่งนี้ เราเคยพูดถึงมันมาก่อน เราเรียกมันว่าพลังงานขยาย(Inflationary Energy) ยิ่งคุณมองมันมากเท่าใด มันก็ใหญ่มากขึ้นเท่านั้น ยิ่งคุณค้นพบมากเท่าใด ความช่วยเหลือให้ก้าวไปขั้นต่อไปก็มากขึ้นเท่านั้น ในพลังงานใหม่นี้ มีคนที่กำลังฟังสิ่งนี้ ที่จำเป็นต้องรู้ว่าอะไรกำลังดำเนินไป ใครก็ตามที่รู้สึกว่าสูญเสียของขวัญไป ของขวัญในการอ่านจิตใจ ของขวัญในการรักษา ของขวัญของความรัก เราอยากบอกคุณว่าคุณสูญเสียอะไรไป คุณแค่สูญเสียความเป็นขาวดำ เราอยากให้คุณหายใจลึกๆและรู้สิ่งนี้
การปรับตั้งค่าใหม่ที่คุณกำลังจะผ่านจะคืนของขวัญให้แก่คุณ เพียงแต่ว่ามันจะมาในแบบสีสัน มันจะเป็นการขยาย มันจะสร้างตัวมันเอง มันไม่ใช่แค่กลับมาในแบบสีสัน มันกลับมาแบบมีความเคลื่อนไหว ไม่ใช่ตายตัว คุณสามารถมองดูมันสร้างตัวมันเองทุกๆปีในชีวิตที่เหลือของคุณ คุณมีแนวคิดแบบสามมิติที่ตายตัว ของความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับพระเจ้า คุณพูดว่าขอบคุณที่ได้กลับมาในสีสัน นั่นหมายความว่าฉันกำลังมีคุณสมบัติในระดับใหม่ คุณไม่ได้เป็นอย่างนั้น คุณจะมีบันใดให้คลานขึ้นไปตลอดชีวิต มันจะเปลี่ยนแปลง มันจะดีขึ้น
ถ้าคุณไม่ใช่ผู้รักษา คุณแค่มาใช้ชีวิต คุณเคยอยู่ในโลกขาวดำ การค้นพบสีสันสำหรับคุณมันก็เหมือนเดิม มันจะนำไปสู่พลังงานใหม่ที่คุณจะเติบโต เติบโต เติบโต มันเป็นกระบวนการหลากมิติ นั่นหมายความว่าเมื่อคุณเริ่มกระบวนการของการตื่นรู้ คุณจะรู้ว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว สิ่งที่มอบให้กับคุณจะขยายออกไปทุกๆวัน เราจะไม่บอกคุณอย่างนี้ถ้ามันไม่ใช่เรื่องทางวิญญาณ
ที่รัก นี่เป็นวิถีของมัน มันใหม่ โลกวิญญาณจะรับเอาเจตนารมณ์ของคุณไปแล้วขยายมันขณะที่คุณดำเนินไป มันไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน ไม่เคยมีพลังงานที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลา ตื่นรู้มากขึ้น สว่างขึ้น ค้นพบมากขึ้น การค้นพบในภายใน วิธีขยายชีวิตของคุณเอง วิธีรักษาตนเอง นี่คือสิ่งที่กำลังมา และสำหรับวิญญาณเก่าแก่ มันมาแล้วในตอนนี้ บางคนที่กำลังฟังเราในตอนนี้คือคนที่ได้รับประโยชน์ คุณจะกลับไปด้วยความแตกต่างจากตอนคุณมา มันเป็นกระบวนการใหม่ที่ไม่เคยเห็นบนโลกนี้มาก่อน และยังมีอีกมากที่จะบอกคุณเกี่ยวกับ มันได้ผลอย่างไร จะรู้สึกถึงมันได้อย่างไร
เราจะจบด้วยสิ่งนี้ อย่าไปกลัวความรักของพระเจ้า อย่าถามถ้าคุณทำผิด อย่าถามถ้ามันปลอดภัยที่จะลองทำบางอย่าง คำพูดที่ว่าฉันกลัวความรัก มันเป็นเวลาสำหรับกระบวนทัศน์ใหม่ของชีวิต และโลกวิญญาณที่พูดว่า ฉันรู้สึกสบายกับทุกสิ่ง นำมันมาให้ฉัน ฉันมีชีวิตมายาวนานพอแล้วในพลังงานเก่า คุณพร้อมสำหรับมันหรือยัง คุณไม่รู้สึกถึงมันหรอกหรือ คุณพร้อมแล้วหรือยัง ผ่อนคลายแล้วยอมให้มันเข้ามา บางครั้งร่างกายของคุณอาจต่อต้านมัน มันอยู่ในโลกของการเอาตัวรอดมานับภพชาติไม่ถ้วน ตอนนี้เป็นเวลาของผู้รู้ พลังงานใหม่มาแล้ว นั่นคือข้อความ และจะเป็นอย่างนี้เสมอไป

And so it is.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น