วันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2560

Calgary, AB Canada



Calgary, AB Canada

Saturday & Sunday - November 25-26, 2017

Mini Channeling  :

Greetings, dear ones, I am Kryon of Magnetic Service.  เรารู้ว่าคุณคือใคร ด้วยการยกมือขึ้น เรารู้ว่ามีพวกคุณกี่คนที่มาเป็นครั้งแรก ในห้องนี้มีความจริง แม้ว่าคุณจะมีอคติเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเป็นไปในชีวิตของคุณ พระเจ้ารู้จักชื่อของคุณ นั่นคือความจริง ในห้องนี้มีความจริง ที่ล้อมรอบสิ่งใดๆที่คุณคิด ความจริงก็คือ เรื่องราวการสร้างสรรค์ที่คุณเก็บไว้ในหัวใจของคุณ จากระบบทางวิญญาณใดก็ตามที่คุณเรียนมา เรื่องราวการสร้างสรรค์ได้ใส่ชิ้นส่วนของพระเจ้าเข้าไปในตัวคุณ นั่นคือความจริงพื้นฐาน
สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันนี้มองดู ที่ไม่มีนักวิทยาศาสตร์คนใดได้เห็นหรือรับรู้จนถึงตอนนี้ นั่นก็คือจำนวนโครโมโซมที่แตกต่างจากสัตว์อื่น มันดูเหมือนแตกต่างเพราะว่ามันมี 23 คู่ แทนที่จะเป็น 24 คู่ นั่นคือส่วนของการสร้างสรรค์หรือเปล่า ใช่ มีนักวิทยาศาสตร์บางคนมองย้อนกลับไป ใช้การทดสอบทางเทคนิคขั้นสูง พวกเขาพูดว่า คุณรู้หรือเปล่า นั่นเป็นเรื่องใหม่
มันดูคล้ายกับว่ามนุษย์ในปัจจุบันนี้ไม่ได้มาจากสิ่งใดๆบนโลก ถ้านับตามจำนวนโครโมโซม และเราเคยบอกคุณมาก่อนว่า ยังมีมากกว่านั้น วันนี้ คุณอยู่ในพลังงานใหม่ คุณถูกสร้างมาเพื่อมัน ด้วยทางเลือกเสรี คุณได้ผ่านจุดตัดสิน มันนำคุณไปสู่สถานที่ใหม่ คนที่คุณพบ คนรอบตัวที่ไม่ได้อยู่ในห้องนี้ ที่ไม่ได้ฟังข้อความแบบนี้ จะไม่มีหลักการของสิ่งนี้ เว้นแต่ว่าทุกสิ่งกำลังเปลี่ยนแปลงไป
การเปลี่ยนแปลงไม่ได้เกิดขึ้นแค่เพียงจิตสำนึก ไกอาก็เปลี่ยนแปลงด้วย มันเกิดขึ้นในภูมิอากาศ ในผู้นำ ในสิ่งต่างๆที่กำลังเกิดขึ้น ที่คุณไม่ได้คาดหวังบนโลก ไพ่โจ๊กเกอร์ที่อยู่ที่นี่ สิ่งต่างๆที่บางคนกลัว บางคนพูดว่ามันเป็นเรื่องของเวลา การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในมหาชน มนุษย์ทั้งหมดจะพูดว่าพระเจ้าเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย มากกว่าพระเจ้าเข้ามาเกี่ยวข้องเพราะว่าพระเจ้าอยู่ในตัวคุณ นั่นหมายความว่าคุณเกี่ยวข้องด้วย
เรารู้ว่าใครอยู่ที่นี่ คนใหม่ที่มาที่นี่เป็นครั้งแรก เราอยากให้คุณรู้สึกถึงพลังงานที่พัฒนาขึ้นในห้องนี้ คุณจะเห็นได้ว่าคุณมีตัวกรองของสิ่งนั้น และตัวกรองนั้นเรียกว่าอคติ คุณอาจเป็นไลท์เวิร์คเกอร์ คุณอาจเป็นคนที่พูดว่า ฉันเชื่อในข้อความเหล่านี้ มันฟังดูดี เพียงแต่คุณไม่ได้ก้าวหน้าไปไหน ถ้าเราบอกคุณว่าในตอนนี้ ในหนทางที่คุณไม่เข้าใจ ที่นี่มีอะไรมากมาย ที่นี่ รอบตัวคุณ
เป็นไปได้หรือไม่ที่ห้องนี้สามารถมาเยือนได้ โดยผู้ที่คุณไม่สามารถมองเห็นได้จากอีกด้านหนึ่งของม่านพราง นั่นเป็นการยืดขยาย การยืดขยายความเชื่อของมนุษย์ ยกเว้นคนที่รู้สึกถึงพวกเขาได้ และคนที่ไม่มีอคติที่พูดว่ามันเป็นไปได้หรือมันเป็นเรื่องโง่เขลากันแน่ วันหนึ่ง เป็นไปได้และเรื่องโง่ๆจะถูกโยนออกจากหน้าต่าง ด้วยการค้นพบในภายใน
คุณจะเห็นว่าม่านพรางแสดงถึงผนังหลากมิติ ที่เบื้องหลังมันคุณไม่สามารถรับรู้อะไรได้ คุณไม่สามารถเจาะได้ เมื่อคุณเริ่มเข้าใจมิติในหนทางที่คุณจะเข้าใจ วิทยาศาสตร์จะไปกับคุณ ช่วยเหลือคุณ โลกจะมาถึงการตัดสินใจเหมือนๆกัน บทสรุปแบบเดียวกันไปด้วยกัน เหมือนที่มันทำเมื่อศตวรรษก่อน ที่ตัดสินใจแทบจะเป็นไปไม่ได้ว่ามีพระเจ้าเพียงหนึ่งเดียว คุณเริ่มต้นจากมีพระเจ้ามากมาย
ตอนนี้ คุณอยู่ในการเห็นพ้องกันของโลกว่ามีพระเจ้าหนึ่งเดียว แนวคิดนี้ใช้เวลานานเท่าใด ตอนนี้ คุณรู้อีกอย่างหนึ่ง เวลาที่จะรู้ว่าพระเจ้าหนึ่งเดียวเป็นความจริง พระเจ้าหนึ่งเดียวสร้างทุกสิ่งที่คุณเห็น การศึกษาทางฟิสิกส์ก็คือการศึกษาสิ่งที่พระเจ้าสร้างขึ้น มันจะโน้มน้าววิธีการมองสิ่งต่างๆของคุณ นั่นคือความจริงพื้นฐาน ความจริงที่คุณยังไม่รู้ เว้นแต่ว่าคุณจะรู้สึกถึงมัน
ตอนนี้ ในห้องนี้ เราไม่สามารถบอกคุณได้ว่าพวกเขามีจำนวนเท่าใดเพราะว่าไม่สามารถนับได้ เมื่อคุณเข้าสู่ภาวะหลากมิติผ่านความเป็นเส้นตรง คุณมีพลังงาน คุณไม่ได้มีวัตถุ คุณไม่สามารถนับพลังงานได้ มันแค่เป็น คุณสามารถวัดมันได้ มาวัดค่ากัน มันมหึมามาก พวกคุณบางคนรู้สึกได้ถึงความมหึมาของมัน เมื่อคุณนั่งอยู่ที่นี่ บางคนไม่รู้สึกอะไรเลย
นี่ไม่ใช่การตัดสิน มันเป็นแค่ข้อเท็จจริง คุณอนุญาตอะไรในทางเลือกเสรีของคุณ สิ่งนั้นจะกลายเป็นตัวคุณ มีคนที่นี่กลัวที่จะเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น ที่รัก คุณมีสิ่งที่เหมือนกับผู้ชายที่เก้าอี้คนนี้ แต่นี่คือวิถีของเขา ใครอยู่ที่นี่หลังจากเขาสื่อความ นั่นคือความแข็งแรงของมัน เพื่อให้คุณเชื่อในสิ่งที่บอกคุณไป และวิธีที่คุณรู้สึกเกี่ยวกับตัวคุณ
ถ้าคุณเชื่อสิ่งนี้ คุณไม่ฉลาด คุณต่ำต้อยกว่านักบุญ นั่นคือสิ่งที่คุณถูกสอนมา นั่นคือการรับรู้ของคุณในอดีต ไม่มีการตัดสินใดๆในเรื่องนี้ มันแค่เป็น ที่รัก นี่คือภาพของวิถีของมนุษย์ ความงดงามของภาพก็คือมนุษย์กำลังเริ่มพิจารณาภาพ พวกเขาพูดกับตัวเอง ฉันกำลังปลดทิ้งสิ่งที่ฉันถูกสอนมา สิ่งที่ฉันเชื่อ แค่ครู่หนึ่ง
ฉันจะให้ตัวเองเปิดออกสู่ศักยภาพและความเป็นไปได้ว่า ฉันไม่ได้รู้ทุกสิ่ง ความคิดอะไรกันนี่ ในการนั้น มีบางสิ่งที่คุณไม่ได้คาดหวังเข้ามา คล้ายกับที่ทำกับคู่หูของเรา คุณจะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องตลก ไม่ใช่นางฟ้าที่มุมห้อง แต่คุณจะรู้สึกถึงความรักของพระเจ้าหลั่งรดเข้ามาในชีวิตของคุณ คุณรู้ว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว คุณได้รับการเอาใจใส่ คุณรู้ว่าเรารู้จักชื่อคุณ
มันจะให้การรับรู้ที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงว่าคุณคือใคร มีอะไรข้างนอกนั้น เกิดอะไรขึ้น ที่ทำให้คุณเป็นวิญญาณเก่าแก่ ทำไมคุณจึงมาอยู่ในห้องนี้ นั่นคือสิ่งที่มันทำ ความสุขท่วมท้นเข้ามาได้ สาระของความรักจะเปลี่ยนแปลง จากนั้นคุณจะสามารถพิจารณาตัวเองได้ครู่หนึ่ง แล้วก็พูดว่า นี่แตกต่างจากที่ฉันคิด
ตอนจบการสื่อความ คุณเอากำแพงกลับมาได้ เมื่อคุณประมวลผล คุณสามารถวิเคราะห์ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับคุณ ไม่มีสิ่งที่เป็นลบ แต่คุณอาจรู้ว่าคุณอยู่ในกล่อง กล่องคือกล่องที่คุณถูกสอนให้อยู่ในนั้น กล่องที่ถูกฝึกฝน กล่องที่เรียกว่าวัฒนธรรมที่คุณใช้ชีวิตในปัจจุบันนี้ มนุษย์กำลังเริ่มออกจากกล่องอย่างช้าๆ หยั่งลงไปในความเชื่อของพวกเขา อาจมีอะไรมากกว่านั้น มากกว่าที่คุณคิด เพราะแสงสว่างกำลังเริ่มเกิดขึ้นในสถานที่ๆคุณไม่เคยคิด
เราบอกคุณเกี่ยวกับกองทัพมืดที่เป็นของคุณในเวลานี้ มันพัฒนาขึ้นตามกำหนดการ มันต่อสู้ตามกำหนดการ ทำสิ่งที่น่ากลัวตามกำหนดการ เราบอกคุณว่ามันจะอยู่ได้ไม่นานนัก มันจะถูกบดขยี้ และมันจะพยายามในสิ่งใหม่ คุณจะได้เห็นว่ามันคืออะไรในเร็วๆนี้ มันรู้ว่าความกลัวตามแบบแผนไม่ได้ผล กองทัพไม่ได้ผล แม้แต่กองทัพที่มามีพรหมแดนหรือไม่มีภาษาร่วมกัน มันจะพยายามอย่างอื่นเพราะว่าความมืดจะไม่ล่าถอยไปง่ายๆ
นี่คือส่วนหนึ่งของปัจจุบันที่คุณมีชีวิตอยู่ วิญญาณเก่าแก่ทั้งหลาย มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ที่คุณเกิดมาและมีชีวิตได้เห็นมันในตอนนี้ สำรวจมัน สร้างการตัดสินใจของคุณเอง คุณเป็นส่วนหนึ่งของมัน มันลึกซึ้ง งดงาม มีความสุข มันเป็นการเริ่มต้นใหม่และการบรรลุในเวลาเดียวกัน มันเป็นเวลาในประวัติศาสตร์ที่คนโบราณบอกคุณ แม้แต่พวกเราที่อีกด้านหนึ่งของม่านพรางก็ไม่รู้
มันจะเกิดขึ้นหรือเปล่า เพราะว่าคุณรับผิดชอบความเป็นจริงที่คุณเลือก นี่คือสิ่งที่เราอยากให้คุณรู้ ตอนนี้ คุณรู้สึกถึงมันได้หรือเปล่า เพราะว่าพวกเขาอยู่ที่นี่ พวกเขานำมาให้คุณ ความรัก ความเมตตา ความงดงาม คำสัญญา การรักษา ถ้าคุณยอมให้มัน มันจะเป็นส่วนหนึ่งของคุณในโครงสร้างเซลของคุณ ถ้าคุณมาเพื่อการรักษา นี่เป็นเวลาที่ดี
การรักษามักจะมาเมื่อคุณไม่ได้คาดหวัง มันจะเริ่มอย่างช้าๆ และมันจะไม่ใช่สัปดาห์หรือสองสัปดาห์ ก่อนที่คุณจะรู้ว่ามีบางสิ่งเกิดขึ้น มันอาจเป็นการรักษาความเศร้า มันอาจเป็นการรักษาของสารเคมีของสุขภาพ มันอาจเป็นการรักษาของจุดมุ่งหมายหรือทัศนคติหรือการรับรู้ และมันจะกลายเป็นการหายใจด้วยอากาศบริสุทธิ์ คุณจะมีอายุยืนยาวขึ้นเนื่องจากมัน คุณจะไม่กลัวอีกต่อไป เพราะคุณเห็นสิ่งต่างๆในแสงสว่างที่แตกต่างออกไป ในที่สุดคุณจะรู้ว่าคุณมีแสงสว่างที่แตกต่างออกไป นั่นคือประโยชน์ของการรักษา
มันเกิดขึ้นเมื่อคุณลดกำแพง ให้ผู้ที่อยู่ที่นี่ รอบตัวคุณ เข้ามา จับมือคุณ ทำงานกับคุณ เราจะพูดอีกครั้งว่า คุณจะมีอายุยืนยาวขึ้นถ้าคุณลดกำแพง ความชราของคุณจะช้าลงถ้าคุณลดกำแพง ตัวแปรทั้งหลายที่คุณถูกสอนมาเกิดขึ้นไม่ได้ คุณจะไม่รู้มันจนกระทั่งคนรอบตัวคุณพูดกับคุณว่า เกิดอะไรขึ้นกับคุณ ทำไมคุณจึงแตกต่าง ทำไมคุณจึงมีความสุข ความสำราญ ทำไมคุณจึงดูดี
ที่นี่ เราพูดความจริง ความจริงที่แพทย์ทุกคนรู้ คนไข้จะมีอายุยืนยาวขึ้นถ้าพวกเขามีทัศนคติที่สมดุลเกี่ยวกับชีวิต มันไม่ใช่ความลับ ตอนนี้ คุณได้ขยายมัน ผ่านมัน จากสิ่งที่รู้ไปสู่สิ่งที่ไม่รู้ คุณมีอายุยืนยาวอยู่ข้างหน้า ออกจากที่นี่ด้วยความแตกต่างจากตอนมา เราจะกลับมาอีก

And so it is.

Love – Revisited  :

Greetings, dear ones, I am Kryon of Magnetic Service.  เราอยากพูดต่อจากการสื่อความก่อนนี้ คุณอยู่ในห้องที่มีอะไรข้างในมากกว่าที่คุณคิด มันเต็มไปด้วยรูปธรรมลึกลับ เราบอกคุณด้วยว่าวันหนึ่ง เมื่อสิ่งประดิษฐ์อนุญาตให้คุณเห็นสิ่งที่ไม่ได้คาดหวัง วิทยาศาสตร์จะต้องเขียนคำจำกัดความของชีวิตเสียใหม่ ถ้าคุณเริ่มเข้าใจว่าในภาวะหลากมิติมีปฏิกิริยา ปฏิกิริยาที่ตัดสินได้แค่เพียงปัญญา ไม่ใช่คำอื่นบนโลกนี้ในตอนนี้
คุณจะตระหนักได้ว่าในบางระดับ คุณไม่ได้โดดเดี่ยวจริงๆ ที่นี่อะไรมากกว่าที่คุณคิด สิ่งประดิษฐ์ที่เราพูดถึงจะเป็นสิ่งประดิษฐ์ทางฟิสิกส์ ที่อนุญาตให้คุณเห็นสิ่งที่เป็นควอนตัม จากนั้นก็จะนำไปสู่สิ่งอื่น สิ่งประดิษฐ์และการค้นพบมากขึ้น ที่รัก นั่นเป็นหนทางของมัน เพราะว่านี่คือการวิวัฒนาการของความรู้ สิ่งต่างๆที่อยู่กับคุณ ที่คุณรู้ในตอนนี้ว่าจริง
เราอยากอธิบายบางสิ่งที่ใกล้เรามาก เราเคยบอกคุณมาก่อนว่าครายออนไม่ใช่รูปธรรม รูปธรรมเป็นคำที่ใช้กับกลุ่มพลังงาน มันพูดกับคุณในวิธีตามปกติ และมีข้อความเดียวกันกับอีกด้านหนึ่งของม่านพราง ยากมากที่มนุษย์จะเข้าใจ แม้แต่พวกคุณที่พูดว่าคุณเข้าใจ มันก็ยังเป็นสิ่งที่ไม่ได้อยู่ในความเป็นจริงของคุณอยู่ดี คุณสร้างสมมุติฐานเกี่ยวกับมัน
เราพูดผ่านคู่หูของเราเพราะว่านั่นคือหนทางที่โลกวิญญาณพูดกับมนุษย์ มันเป็นอย่างนี้เสมอมา คำสอนทั้งหมดก็ในหนทางนี้ ทั้งหมดเขียนขึ้นโดยมนุษย์ ทั้งหมดแสดงโดยมนุษย์ เพื่อให้คุณเข้าใจ มันเป็นการรวมกันในความเป็นหุ้นส่วน ความเป็นหุ้นส่วนก็คือพระเจ้าภายใน ดังนั้น คุณอาจพูดได้ว่าฉันเป็นส่วนหนึ่งของคุณ คุณอาจรู้สึกถึงมัน สะท้อนกับมัน รับรู้มัน นั่นคือเหตุผลที่คุณยอมรับในหนทางที่คุณทำ
เราอยากพูดบางสิ่ง เราอยากแปลความ คำพูดในคำสอนจากคัมภีร์ไบเบิล ส่วนของไบเบิลใหม่ ไม่ใช่ไบเบิลเก่า ในปริศนา พวกคุณบางคนอาจรับรู้มัน บางคนไม่รู้ มันเป็นการแปลความอย่างสมบูรณ์ มันเป็นอย่างนี้ ฉันอาจมีชื่อเสียง ฉันอาจเป็นพระราชา ฉันอาจมีอำนาจในประเทศ ฉันอาจเคยเป็นฟาโรห์ แต่ถ้าฉันไม่มีความรัก ฉันก็เป็นได้แค่คนส่งเสียงในสายลม จะไม่มีการบันทึกอะไรหลังจากฉันตายไป
คำสอนนี้พูดถึงพลังอำนาจของความรัก มันพูดถึงในหนทางที่คุณไม่ได้คาดหวัง หนทางมีเวลาของมัน แต่คนที่เขียนมันรู้สึกถึงมันจริงๆในตัวตนของเขา ความรักของพระเจ้าในหนทางที่มีแต่ความศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ไม่มีอะไรที่เขาสร้างมันขึ้นมาในฐานะของมนุษย์ คุณอาจพูดได้ว่าเขาถูกเผาเพื่อพระเจ้า เขารักในสิ่งที่เขารู้สึก และเขาเป็นหนึ่งเดียวกับทุกสิ่ง เขารู้ว่าเขาคือใคร แต่เขารู้เกี่ยวกับความรักจริงๆ
การรับรู้ความรักของคุณเป็นอย่างไร เราอยากทบทวนบางสิ่งที่เราเคยพูดมาก่อนเพื่อการอธิบายนี้ ความรักเป็นสิ่งที่ไม่เข้าใจ ในภาษาของคุณ คุณมีคำๆเดียวสำหรับสิ่งนี้(Love) ไม่เข้าใจเพราะมันเป็นหลายสิ่งมากมาย เพราะว่าคุณมักจะมีบรรยากาศมากมาย ตัวแปรมากมาย ในบางภาษามีคำถึง 13 คำที่ใช้สำหรับความรัก เพราะว่าความรักเป็นได้หลายสิ่งมากมาย
เป็นความรักที่คุณมีต่อลูกก็ได้ ต่อพ่อแม่ ต่อคู่ชีวิต ความรักที่คุณมีกับเพื่อน ความรักต่อสัตว์เลี้ยง ความรักที่มีต่อไกอา โลก ต้นไม้ เราได้ให้ความรักมากมายหลายแบบแก่คุณ และยังมีความรักแบบไม่เป็นทางการด้วย ฉันรักสิ่งนี้เมื่อมันเกิดขึ้น ฉันรักฤดูใบไม้ผลิ ฉันรักชีวิต มีสิ่งแตกต่างกันมากมายของการใช้คำว่าความรัก ดังนั้น ในการอภิปรายที่กำลังจะมีนี้ เราจะพยายามให้คำจำกัดความมัน
แรกสุด ส่วนใหญ่ให้คำจำกัดความไม่ได้ คุณรู้หรือเปล่าว่าความรักเป็นรูปแบบของจิตสำนึก มันไม่ใช่อารมณ์ มันเป็นรูปแบบของจิตสำนึก ไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไร คุณสามารถวัดค่าผลกระทบของความรักได้ มันยิ่งใหญ่มาก คุณสามารถวัดค่าผลกระทบของความโกรธได้ และมันยิ่งใหญ่ ในสิ่งที่มันทำกับสารเคมี แต่ความรักมีผลกระทบไม่ใช่แค่เพียงสารเคมี
ความรักมีผลกระทบต่อ DNA ทุก DNA ความรักในแต่ละเซล จะไม่ไปจุดชนวนปฏิกิริยาของฮอร์โมน หรือสารเคมีบางอย่าง ที่จะสร้างบางสิ่งในร่างกายของคุณ มันไม่ได้ทำงานอย่างนั้น มันมีผลกระทบต่อทุกๆเซล แม้แต่ DNA มันไม่เข้าใจ ไม่มีคำจำกัดความ ไม่มีนักชีววิทยาคนใดรู้ว่ามันคืออะไร มันไม่สามารถให้คำจำกัดความได้ เพราะว่ามันเป็นความลึกลับ
ไม่ว่าคุณจะโกรธหรือซึมเศร้าหรือไม่ ความรักก็ยังเป็นของมันอย่างนั้น เพราะว่ามันเกือบอยู่ภายนอกร่างกาย ผู้ชายหรือผู้หญิงที่กำลังอยู่ในความรัก สามารถบ้าได้ชั่วคราว หยุดทานอาหาร ดูฝาผนัง มีความวิตกกังวลอย่างมาก เริ่มจินตนาการ มันคืออะไร มันเป็นสถานะของจิตสำนึกที่เข้าครอบครองโครงสร้างเซลของคุณชั่วขณะ
ต่อมาเมื่อมีวุฒิภาวะมากขึ้น มันจะอยู่ในตัวคุณในหนทางที่งดงาม มันทำให้คุณแข็งแกร่ง ถึงกับทำให้คุณมีอายุยืนยาว มันเข้าไปสู่เซลของร่างกายคุณในหนทางที่ความโกรธทำไม่ได้ ความซึมเศร้าทำไม่ได้ มันไม่ใช่อารมณ์ มันสามารถวัดค่าได้ และเคยวัดค่ามันได้ครั้งแล้วครั้งเล่า และมันก็ยังคงไม่สามารถให้คำจำกัดความได้ ไม่ใช่ความรักที่เรากำลังพูดถึง ความรักที่กาวล้ำกว่าความรักของแม่ที่มีต่อลูก
มันเป็นความรักของพระผู้สร้าง มันคือความรักที่พระผู้สร้างมีให้กับคุณ ไม่สามารถพูดได้เพราะไม่สามารถให้คำจำกัดความได้ ไม่สามารถพูดได้เพราะมันอยู่นอกอาณาจักรความเข้าใจของคุณ และเราจะพูดถึงมันในอีกครู่นี้ มันไม่ใช่ของโลกนี้ คุณรู้สิ่งนั้น มันไม่ใช่ความรักของมนุษย์ที่มีต่อสัตว์ มนุษย์มีต่อต้นไม้ มันเป็นความรักที่แตกต่างอย่างสมบูรณ์เต็มที่
เราได้ให้คำจำกัดความมัน สิ่งนั้นคุณสามารถมีประสบการณ์มันได้อย่างลึกซึ้ง เมื่อคุณคิดว่าพระผู้สร้างเป็นหุ้นส่วนของคุณ มันดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้แล้ว นั่นคือสิ่งที่เราอยากอธิบาย มีอะไรมากมายที่เราอยากบอกคุณเกี่ยวกับความรัก ที่รัก มันมาจากพระเจ้า มันมาจากอีกด้านหนึ่งของม่านพราง มันมาจากโลกวิญญาณ มันมาจากพระผู้สร้าง ไม่ว่าจะเรียกชื่อมันว่าอะไร คุณมีมัน เพราะว่าสิ่งนั้นสร้างคุณขึ้นมารวมทั้งทุกสิ่งที่อยู่ที่นี่ สิ่งนั้นอาศัยอยู่ในตัวคุณ มันมาจากอีกด้านหนึ่งของม่านพราง และมันกำลังเปลี่ยนแปลง
พลังงานบนโลกนี้กำลังเริ่มสร้างรูปแบบชนิดใหม่ สนามแม่เหล็กโลกปรับตั้งค่าใหม่ เปิดทางให้กับรูปแบบใหม่ มันสัมพันธ์กับจิตสำนึก มีกุญแจที่คู่หูของเราสอนมาตลอดทั้งวัน สนามแม่เหล็กของโลก สนามพลังที่คุณอยู่ในนั้น มีจุดมุ่งหมายของชีวิตอยู่ภายในตัวมัน คุณจำเป็นต้องมีมันเพื่อมีชีวิตอยู่ สนามแม่เหล็กนั้นสัมพันธ์กับสิ่งที่คุณคิด จิตสำนึก
ดังนั้น เมื่อจิตสำนึกมีความสัมพันธ์กับฟิสิกส์ของแม่เหล็ก และแม่เหล็กก็คือสนามแม่เหล็กของโลกที่พวกคุณทุกคนอยู่ในนั้น ดังนั้น คุณจึงสามารถมีผลกระทบต่อมนุษย์ทั้งโลกได้ ของจิตสำนึก ด้วยสิ่งที่คุณเริ่มต้นและสิ่งที่คุณรู้สึก และกุญแจก็คือความรัก ความรักจากอีกด้านหนึ่งของม่านพรางที่มากับคุณ พร้อมกับตัวตนที่สูงกว่าภายในตัวคุณ ผ่านต่อมไพนีลในตัวคุณ นั่นคือความรักที่เราพูดถึง
มันมาจากอีกด้านหนึ่งของม่านพราง ตอนนี้คุณรู้แล้ว นั่นคือเหตุผลที่มันดูเหมือนมาจากโลกอื่น นั่นคือเหตุผลที่มันดูเหมือนไม่ใช่อารมณ์ ข้อพิสูจน์ในเรื่องนี้ชัดเจนมาก ด้วยความรัก คุณมีการฉลอง ความสุข และเสียงหัวเราะ เราเคยบอกคุณว่าเสียงหัวเราะ เป็นหนึ่งในสิ่งที่ส่งผ่านม่านพรางได้อย่างอิสระ เมื่อคุณมาที่โลกนี้
เด็กภายในที่คุณมี เมื่อคุณจำได้ว่าคุณเคยเป็นใคร เมื่อคุณหัวเราะ มีความสุขกับตนเอง มีความศักดิ์สิทธิ์มาก มันเป็นความรู้สึกที่ศักดิ์สิทธิ์ มากกว่าอารมณ์ มันเป็นกระบวนทัศน์ศักดิ์สิทธิ์ที่คุณมี เราอยากแสดงให้คุณเห็นบางสิ่ง เสียงหัวเราะและความสุขเป็นสิ่งเสพติดและสามารถติดต่อกันได้ คล้ายกับคุณติดโรคที่มากับอากาศ สิ่งนี้ได้รับการพิสูจน์ครั้งแล้วครั้งเล่าในทางวิทยาศาสตร์
ถ้าคุณมีคนจำนวนหนึ่งบนรถไฟ เมื่อคนหนึ่งเริ่มหัวเราะ หลังจากผ่านไประยะเวลาหนึ่ง มันจะติดต่อกัน และถ้าคุณยังหัวเราะต่อไป คนบนรถไฟทั้งขบวนจะหัวเราะ และพวกเขาไม่รู้ว่าทำไม มันไม่ใช่อารมณ์ มันคือพลังงาน และมันเป็นพลังงานที่ศักดิ์สิทธิ์งดงาม เสียงหัวเราะเป็นสิ่งที่มาแบบฟรีๆ เมื่อคุณกำจัดความกลัวออกจากหนทาง รวมถึงสิ่งอื่นๆที่ขวางทาง ที่สร้างความมืด
มันเกินกว่าสิ่งอื่นๆที่มนุษย์ทำที่คล้ายอย่างนั้น เมื่อคนหนึ่งหาวคนอื่นก็หาวด้วย มันไม่ได้เป็นแบบนั้น มันงดงาม ไม่ใช่อารมณ์ และคุณรู้มัน ตอนนี้ เราจะถามคุณ ความกลัวเป็นแบบนี้หรือเปล่า ความซึมเศร้าเป็นแบบนี้หรือเปล่า คุณแทบรอไม่ไหวที่จะได้อยู่กับคนซึมเศร้าหรือเปล่า ไม่ เมื่อมีใครโกรธ คุณสามารถรู้สึกถึงมันได้เพราะว่ามันเป็นอารมณ์ คล้ายกับมีสนามพลังของมัน คุณอยากจะหนีไปห่างๆในทันทีที่เป็นไปได้ คนสองคนโต้เถียงกัน คุณเดินออกไป คุณรู้สึกได้ถึงความใช้การไม่ได้นี้ และคุณรู้สึกไม่สบาย
เมื่อมีกลุ่มคนหัวเราะ คุณอยากเข้าร่วม อยากรู้ว่าทำไม คุณอยากหัวเราะไปกับพวกเขา คุณอยากมีความสุขกับพวกเขา ที่รัก สิ่งนี้มาจากอีกด้านหนึ่งของม่านพราง นี่คือแสงสว่าง คุณไม่สามารถจัดหมวดหมู่มันได้เหมือนกับสิ่งที่มนุษย์ทำตามปกติ สิ่งที่เป็นอารมณ์ มันมาจากอีกด้านหนึ่งของม่านพราง และมันมีพลังงานที่คุณไม่สามารถให้คำจำกัดความกับมันได้
คุณรู้สึกกับสิ่งนั้นอย่างไร เราจะบอกคุณว่าทำไม ความรักเป็นควอนตัม คำๆนี้ใช้มากเกินไป เราให้คำนี้แก่คุณเพราะว่าคุณใช้คำนี้ ไม่ถูกต้องนัก ให้เราบอกความจริง ความรักเป็นหลากมิติ มันมีอยู่ในทุกมิติ คุณบางคนที่ไม่อยากรู้ว่าคุณอยู่ที่นี่ มันเกิดขึ้นในพื้นที่ๆไม่ได้เป็นแบบเส้นตรง ยากมากที่จะให้คำจำกัดความ
มันอยู่นอกคำจำกัดความ ความน่าจะเป็น ความเป็นไปได้ของความเข้าใจใดๆของมนุษย์ ณ เวลานี้ มันอยู่เหนือกว่าความเป็นตัวคุณหรือสิ่งที่คุณสามารถรับรู้ได้อย่างมาก เราแทบไม่สามารถให้คำตอบแก่คุณได้ว่ามันคืออะไร มันมาจากที่ไหน ทำไม มันคล้ายอย่างนี้ เราจะให้ตัวอย่างของความเป็นหลากมิติอย่างอิสระ เพื่อให้คุณเข้าใจในสิ่งที่คุณไม่รู้ หรือสิ่งที่คุณไม่สามารถคำนวณนับได้ หรือสิ่งที่คุณยังไม่มีคำตอบ เพราะว่ามันอยู่เหนือความรู้ของคุณ
นี่คือคำถาม คำถามที่มีเหตุผล เส้นเชือกยาวเท่าไหร่ คุณจะตอบกลับมาว่า ฉันไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ เราต้องรู้เกี่ยวกับเส้นเชือกมากกว่านี้ ไม่ คุณไม่ต้อง เราถามคุณว่าเส้นเชือกยาวเท่าไหร่ เพื่อที่จะทำอย่างนั้นคุณต้องรู้มากขึ้นเกี่ยวกับเส้นเชือก จุดเริ่มต้น จุดปลาย เมืองถึงเมือง ห้องถึงห้อง หรือโต๊ะถึงโต๊ะ จากนั้นเราจึงจะสามารถบอกความยาวได้ เราจะบอกคุณว่า ไม่มีข้อยกเว้น เราอยากให้คุณตอบ เส้นเชือกยาวเท่าไหร่ คุณจะบอกว่า ฉันไม่รู้ ฉันไม่สามารถบอกคุณได้
ถ้าเราเอาเชือกมาผูกกัน ตอนนี้มันเป็นวงกลม เส้นเชือกยาวเท่าไหร่ คุณจะตอบว่าตอนนี้ เรามีปัญหา เพราะว่าเส้นเชือกยาวไม่รู้จบ เส้นเชือกยาวไม่รู้จบ แต่มันเป็นเส้นเชือกเส้นเดียวกับเส้นสั้นๆ เราจะไปไม่รู้จบกับเส้นเชือกวงเล็กๆบนโต๊ะได้อย่างไร คุณจะอธิบายขนาดไม่รู้จบของเส้นเชือกได้อย่างไร ในเมื่อมันเป็นสิ่งที่เป็นวงกลมอยู่บนโต๊ะ คุณจะพูดว่าไปให้พ้นๆ อย่าถามคำถามไร้สาระแบบนี้อีก
นั่นคือความรัก คุณไม่เข้าใจมัน มันกำลังเปลี่ยนแปลงในฟิสิกส์นี้ ความรักเริ่มเปลี่ยนแปลง เพราะว่าคุณสมบัติของความรักก็คือความเมตตา ความสุข และการฉลอง นั่นสร้างแสงสว่าง แสงสว่างกำลังเพิ่มขึ้นบนโลก ส่วนหนึ่งของการเพิ่มขึ้นก็คือผ่านความเข้าใจความรัก ยิ่งคุณมีความเมตตาต่อผู้อื่นมากขึ้นเท่าใด ความรักก็จะแผ่ขยายและสร้างมากขึ้นบนโลกนี้
รอสักครู่ครายออน ฉันไม่เข้าใจที่คุณพูด คุณพูดว่าความรักสร้างขึ้นและแผ่กระจายไปบนโลก นั่นเฉพาะเราสองคนหรือเปล่า ฉันรู้สึกเมตตาต่อคนนี้ คนที่ฉันอาจเคยโกรธในอดีต แต่ตอนนี้ ฉันเห็นพระเจ้าภายในตัวของพวกเขา ฉันมีความเมตตาให้พวกเขา ไม่ใช่ความเศร้า ฉันมีความเมตตาที่พวกเขาอยู่กับฉันบนโลก พวกเราทั้งคู่ต่างก็มีพระเจ้าภายใน นี่คือความเมตตาของฉันที่มีให้พวกเขา แต่มันเพื่อพวกเรา
เรากำลังจะบอกคุณว่า ไม่ใช่ เพราะว่าคุณไม่รู้ในสิ่งที่เรารู้ ถ้าคุณรู้ว่าความรักจริงๆแล้วเป็นอย่างไร คุณจะเข้าใจว่าในความเมตตาที่คุณมีให้คนอื่น คุณเพิ่งสร้างมันมากขึ้น มันจะไปที่ไหน คำตอบก็คือ ใช่ เส้นเชือกยาวเท่าไหร่ ความรักที่สร้างขึ้นมาเปลี่ยนไปเป็นความรัก แสงสว่างนั้นอยู่ในทุกที่ในเวลาเดียวกัน จากอีกฟากหนึ่งของโลกมันอยู่กับคุณ คุณคือพยาน ทันใดนั้น
คนที่คุณไม่เคยแยแส คนที่คุณตัดสิน ทันใดนั้น บางสิ่งสะบัดตัว และคุณก็พูดว่าฉันเห็นความเป็นหนึ่งเดียวกันของพวกเขา พวกเราเป็นหนึ่งเดียวกันบนโลกนี้ พระเจ้ารักทั้งคู่ มันช่างงดงาม คุณมีช่วงเวลาของความเมตตา เราจะบอกคุณว่า แสงสว่างของโลกเพิ่งเพิ่มขึ้น นั่นคือความเป็นหลากมิติ ความเป็นจริงที่คุณไม่เข้าใจ กฎที่คุณไม่รู้ พวกเขาสามารถอยู่ได้ในทุกที่ในเวลาเดียวกัน คล้ายกับพระเจ้า และคุณกำลังสร้างมัน
ความรักกลายเป็นเครื่องมือของการสร้างสรรค์แสงสว่าง ความรักที่คุณมีมาจากอีกด้านหนึ่งของม่านพราง แน่นอนมันเป็นเครื่องมือ แต่ในพลังงานใหม่ แม้ว่าจะมีแสงสว่างแสดงตัวมากกว่าความมืด คุณกำลังเริ่มมีแปลงของการสร้างสรรค์ที่คุณไม่เคยมีมาก่อน ความสอดคล้องกันกับสนามพลังที่คุณไม่เคยมีมาก่อน ความกรุณาที่คุณไม่เคยมีมาก่อน
การบรรจบกันของพลังงานที่คุณไม่เคยมีมาก่อน และแน่นอน การเชื่อมต่อที่คุณไม่เคยมีมาก่อน นี่คือของใหม่ และยังมีมากกว่านี้ มากกว่าอีกมาก เราจะจบด้วยสิ่งนี้ เราอยากบอกคุณบางสิ่งที่อาจทำให้คุณตกใจ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ผู้ที่กำลังฟังในตอนนี้ วันหนึ่ง เมื่อคุณตาย พวกคุณทุกคน บนหนทางของการย้อนกลับเพื่อไปต่อ
ในวงจร วงกลมของแสงสว่างที่คุณเป็น มีภูมิปัญญาที่คุณมาเรียนเป็นครั้งแรก คุณสามารถแบ่งปันได้ในแสงสว่างใหม่ แต่บันทึกอดีตชาติที่วิวัฒนาการ คุณจำได้ว่าคุณคือใคร จนถึงระดับที่คุณจำได้ว่างดงามและล้ำค่า การจำได้จะสร้างความสมดุลแทนที่จะเป็นความไม่สมดุล คุณไม่จำเป็นต้องมีความใช้การไม่ได้อย่างที่มีในวันนี้
โรคที่ไม่ติดคุณเพราะว่าคุณอยู่ในพลังงานใหม่ มันอยู่ไม่ได้ แต่เมื่อคุณตาย จะมีความเป็นเส้นตรงของคนรอบตัวคุณ พวกเขาจะพูดว่าคนที่น่ารักและมีเมตตาจากไปแล้ว มันน่าเศร้ามาก ราวกับว่าความรักและความเมตตา ร่วงหล่นลงสู่พื้นในทันทีทันใด มันไม่อยู่ที่นั่นอีกต่อไป คุณสมมุติว่าผู้มีแสงสว่าง ทุกสิ่งที่พวกเขาเป็น ความเมตตาที่พวกเขามี ความรักที่พวกเขามีต่อทุกคน หยุดลงเมื่อพวกเขาตายไป
คุณไม่รู้ คุณไม่รู้ว่าทุกสิ่งที่พวกเขาทำยังอยู่บนโลก เราจะถามคุณ คุรุที่คุณฉลองกับเขา คุณติดตามชีวิตของเขา ผู้รู้ พระ แม่ชี ผู้ที่อุทิศตนให้กับความรัก เมื่อพวกเขาตาย เกิดอะไรขึ้น ด้วยเหตุผลที่แปลกและไม่รู้ ความรักของพวกเขายังอยู่ คุณรู้สิ่งนี้หรือเปล่า คุณสามารถไปเยือนที่ๆพวกเขาเคยอยู่ได้ หรือที่ๆพวกเขามาพบปะ ทั้งหมดที่คุณรู้สึกก็คือความรัก มันคืออะไร
เราจะบอกคุณว่ามันคือรอยประทับลงบนเส้นแรงพลังงานนี้ บนโลกนี้ ที่ยังอยู่ เหมือนกับที่คุณกำลังสร้างในตอนนี้ ด้วยความรัก ความเมตตา ที่คุณมีต่อผู้อื่น ยิ่งสร้างมันมากขึ้นเท่าใด ยิ่งบริสุทธิ์มากขึ้นเท่าใด มันก็ยิ่งมีวุฒิภาวะ มีความสง่างามมากขึ้นเท่านั้น ความบริสุทธิ์ของมันยังอยู่ที่นี่ วันหนึ่งคุณจะมีงานศพที่งดงาม ปัจจุบันนี้ ไม่มี คุณทำดีที่สุดแล้ว คุณมารวมตัวกัน ฉลองให้กับคนตายแล้วก็ร้องไห้ คุณเศร้ากับความตายของเขา ร่างกายของเขาจากไป
วันหนึ่ง คุณจะก้าวหน้ากว่านั้น คุณฉลองให้กับสิ่งที่เขาสร้างที่ยังอยู่ในความรัก สิ่งที่เขาทำบนโลกที่มีผลกระทบต่อทุกสิ่ง คุณร้องเพลงให้กำลังใจ เพลงที่คุณร้องตอนเป็นเด็ก คุณรู้ว่าเขาจะกลับมาเป็นเด็ก เพราะพวกเขาจะกลับมามีประสบการณ์ต่อจากที่เขาจากไป พวกเขาจะเกิดมาในโลกที่มีความรักมากขึ้นกว่าโลกที่เขาเข้ามาตอนเริ่มต้น
งานศพนั้นจะมีชื่อที่คุณตั้งให้ เรายังไม่รู้ว่ามันจะเป็นอย่างไร การอำลาที่แตกต่างออกไป มันไม่ใช่การอำลาแต่อย่างใด มันเป็นการเปลี่ยนผ่าน มันเป็นการรับรู้ มันเป็นวุฒิภาวะ ที่คุณยังไม่มีในตอนนี้ มากกว่าเป็นการฉลองให้กับชีวิต มันเป็นเหตุการณ์ให้กำลังใจที่พูดว่า ขอบคุณ เมื่อคุณกลับมา พวกเราอาจไม่รู้ว่าคุณคือใคร พวกเราขอบคุณล่วงหน้าสำหรับการกลับมา
คำพูดจะเป็นทำนองนี้ วันหนึ่งสิ่งเหล่านี้ที่เป็นความเศร้าในวันนี้ จะไม่เป็นอย่างนี้ คุณจะรู้ว่าคนที่ตายจากคุณไปยังอยู่ที่นี่ พวกเขามีผลกระทบต่อโลกอย่างดีที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้ พวกเขายังอยู่ในทุกที่ พวกเขาบางคนกลับมาจริงๆ เพื่อที่เขาจะรู้สึกถึงพลังงานได้ในฐานะของเด็ก และจำได้ว่าพวกเขาเคยเป็นใคร และทำกระบวนการของความรักของพระเจ้าต่อไป

And so it is.  

The Power of Coherence  :

Greetings, dear ones, I am Kryon of Magnetic Service.  การสื่อความน่าสนใจ มีคนเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ และมีคนที่ฟังทุกคำ ความแตกต่างก็คือความสอดคล้องที่พวกเขารู้สึก ระหว่างข้อมูล ระบบของการสื่อความ และจิตสำนึกของพวกเขาเอง มนุษย์สงสัยสิ่งต่างๆ มนุษย์เป็นผู้ถอดรหัส มนุษย์เป็นผู้ระมัดระวัง ธรรมชาติของมนุษย์สนับสนุนทั้งหมดนี้
ที่รัก วันหนึ่ง บนโลกนี้ การสื่อความหรือสิ่งที่คล้ายแบบนี้จะได้รับการยอมรับด้วยการหยั่งรู้ เหตุผลในเรื่องนี้ก็คือการรู้สึกได้ถึงพลังงาน ไม่ใช่พลังงานประหลาด ไม่ใช่สิ่งที่เหนือธรรมชาติ เมื่อเราพูดถึงพลังงาน มันเป็นการรับรู้ทางความรู้สึก คุณเคยไปดูภาพยนตร์แล้วนั่งติดกับบางคนแล้วย้ายที่หรือเปล่า เพราะคุณรู้สึกว่าเขาไม่สมดุลหรือป่วย เขาไม่ได้บ่งชี้อะไรเลย คุณรู้สึกถึงมัน เพราะสิ่งที่อยู่ในเมอร์คาบาห์ของคุณรู้สึกถึงสิ่งที่อยู่ที่นั่น
นั่นคือสิ่งที่เรากำลังพูดถึง เวลาที่สิ่งที่เราพูดในวันนี้ ในความประหลาด ความใหม่ หรือความลึกลับ จะได้รับการยอมรับเป็นธรรมชาติที่สอง สิ่งนั้นจำเป็นต้องมีมนุษย์ที่รู้สึกได้ถึงมิติที่สูงกว่าพวกเขา และความรู้ที่ว่าสามมิติก็คือการใช้ชีวิต ไปร้านค้า เลี้ยงลูก นั่นเป็นเพียงด้านเดียวของชีวิต ความรู้ที่ว่ามิติอื่นมีอยู่เช่นกันและมนุษย์ทุกคนมีส่วนร่วมในทั้งหมดนั้น เข้าใจไม่เพียงแค่ธรรมชาติที่สอง แต่เป็นสนามแม่เหล็กร่างกายสำหรับคุณ
มันเริ่มแล้วในปัจจุบันนี้ ในการยกระดับนี้ การสอนพื้นฐานสำหรับพวกคุณทุกคนเริ่มต้นแล้ว มันเริ่มต้นอย่างช้าๆ กับคนที่ฟัง กับวิญญาณเก่าแก่ที่อยากตื่นรู้สู่ความใหม่นี้ แนวคิดที่ว่าแสงสว่างกำลังรุกรานที่ๆเคยว่างเปล่า หลักการที่สอนตลอดกาลแต่ได้ครอบครองเป็นครั้งแรก หลักการก็คือความคิดของคุณสร้างความเป็นจริงของคุณ หลักการที่ขัดแย้งกับการสอนของคุณทั้งหมด ทั้งทางวิญญาณและที่แพร่หลาย หลักการที่พูดว่า คุณสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆรอบตัวคุณได้ เพราะว่าคุณรับผิดชอบตัวคุณเอง
วิญญาณเก่าแก่สมบูรณ์แบบในเรื่องนี้ นั่นคือคนที่นั่งต่อหน้าเรา นั่นคือคนที่กำลังฟัง เพราะว่าวิญญาณเก่าแก่เคยผ่านสิ่งนี้มาแล้วในบางระดับ คุณตัดสินใจบางอย่างที่พาคุณมานั่งที่เก้าอี้ ฟังการสื่อความ ขั้นตอนที่หนึ่งและสองนั้น สู่การรับรู้ว่าสิ่งนี้เป็นจริงได้ทำไปแล้ว แต่ที่รัก เรากำลังพูดถึงคนที่ไม่ได้อยู่ที่นี่ ไม่ได้กำลังฟัง ไม่เคยมานั่งฟังในสถานที่แบบนี้
คนที่หัวเราะและตลกกับแนวคิดที่ว่ามนุษย์สามารถให้ข้อมูลจากหลากมิติได้ สถานที่ๆมนุษย์เกือบทุกคนบนโลกนี้รับรู้ อีกด้านหนึ่งของม่านพราง พระเจ้า โลกวิญญาณ รับรู้มัน แต่มันแยกจากคุณ ดังนั้น ความแตกต่างที่แท้จริงระหว่างสิ่งเหล่านั้นและสิ่งที่กำลังมา ในฐานะของการรับรู้ที่ไม่ได้แยกขาดจากคุณ ฟัง ตอนนี้คุณรู้แล้วว่ามันไม่ได้แยกขาด มากแค่ไหน คุณฝึกฝนหรือเปล่า คุณเชื่อหรือเปล่า
มนุษย์ที่เชื่อทางวิญญาณอย่างสูงมีนิสัยการแสดงความนับถือตามกำหนดวัน สัปดาห์ คุณใช้ชีวิตในทิศทางเดียว วันนั้นมีค่าและศักดิ์สิทธิ์ คุณเปลี่ยนเสื้อผ้า เปลี่ยนความคิด การกระทำ การรับรู้สิ่งต่างๆ คุณคุกเข่า ภาวนา น้อมศีรษะ นี่คือแนวทาง นี่คือนิสัย นี่คือกระบวนทัศน์ที่คุณเห็น และเราเห็นในฐานะทางวิญญาณอยู่เสมอ
แม้แต่คนที่ภาวนาทุกวัน และเป็นประจำ หรือทุกชั่วโมง พวกคุณก็ยังแยกตัวเองออกจากพระเจ้า ก่อนภาวนา หลังภาวนา และตอนที่ไม่ได้ภาวนา หลักการของการรวมทุกสิ่งกลายเป็นหลักการที่ใหม่ที่สุดบนโลก รวมสิ่งที่เคยแยกจากกัน การรับรู้ที่ว่าคุณควรภาวนาตลอดเวลา แต่ไม่ใช่การภาวนาอย่างที่คุณคิด แทนที่จะภาวนา คุณรับรู้เพื่อนที่ดีที่สุดของคุณให้เข้ามากับคุณ อยู่กับคุณ
เพื่อที่ดีที่สุดนั้นมาจากอีกด้านหนึ่งของม่านพราง เพื่อนที่รู้จักคุณ เพื่อนที่ช่วยสร้างคุณมา การรวมกันกับหลากมิติ การรับรู้ว่ามีบางสิ่งสูงกว่าคุณ รู้จักคุณ รักคุณ ร่วมงานกับคุณ และมันเป็นส่วนของความเป็นจริงที่เป็นสามมิติและมาจากดวงดาว สิ่งนี้กำลังมา เพราะนี่เป็นสิ่งที่โลกกำลังผ่าน คุณมาถึงการยกระดับเหมือนกับที่เคยมี และเริ่มการฝึกฝนแบบนี้ เริ่มการรับรู้และเข้าใจแบบนี้
เราเคยพูดมาก่อนว่าแสงสว่างกำลังจะชนะ แต่เราไม่ได้พูดถึงสงครามระหว่างความมืดและแสงสว่างมากไปกว่าจิตสำนึกของมนุษย์ คุณกำลังเริ่มรู้ว่าพวกคุณคือใคร ทำอะไรได้บ้าง มนุษย์กำลังเริ่มสมดุลเพียงพอที่จะรู้ว่าฉันสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ด้วยความคิดและการกระทำของฉัน แต่ยังมีมากกว่านั้นอีกมาก มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของสิ่งทีใหญ่กว่า เขาพูดเกี่ยวกับความสอดคล้อง
ความสอดคล้องระหว่างมิติ ความสอดคล้องระหว่างคุณกับพระผู้สร้าง คุณรู้เกี่ยวกับความรัก เราพูดเกี่ยวกับความรักไปเมื่อคืนนี้ เราแยกความรักประเภทต่างๆออกจากกัน เราอยากแสดงให้เห็นความงดงามของความรักที่ยิ่งใหญ่กว่าในจักรวาล ความรักที่พระผู้สร้างมีให้กับตัวคุณเอง ที่รัก นี่เป็นหนึ่งในการขยายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของความรู้
คุณไม่ได้เป็นแค่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเดินอยู่บนโลก คุณไม่ได้โดดเดี่ยว เป็นไปได้อย่างไรที่คนนับพันล้านเชื่อในพระเจ้าหนึ่งเดียว แต่ไม่เชื่อว่าจริงเพียงพอที่จะอยู่ที่นี่ หรือเดินอยู่กับคุณ รู้จักคุณ พระเจ้าหนึ่งเดียวกลายเป็นพ่อที่ตัดสิน พระเจ้าหนึ่งเดียวกลายเป็นสิ่งที่คุณต้องทำให้พึงพอใจ ไม่มีแม้แต่การรับรู้เกี่ยวกับความงดงามของบุคลิกภาพและความเมตตาของพระผู้สร้างที่สร้างคุณ และนำคุณมาไว้ที่ความศักดิ์สิทธิ์ของส่วนหนึ่งของมัน
นั่นคือสิ่งที่กำลังมา นั่นคือสิ่งที่กำลังเปลี่ยนแปลง มันจะน่าสนใจมากเมื่อเด็กๆเริ่มรู้ตั้งแต่ยังเล็ก เมื่อพวกเขาเริ่มหัดพูด เกี่ยวกับพวกเขาเคยอยู่ที่ไหน รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับความรักของแม่คนอื่น เขามองหน้าคุณ ความไร้เดียงสาทั้งหมดของเขา กล้าที่จะพูดว่า ฉันรักคุณเท่ากับแม่คนเก่าของฉัน เขาอาจอ้างถึงผู้รู้ของความรักซึ่งก็คือพระผู้สร้าง หรืออาจเป็นแม่ซึ่งเป็นผู้รู้
จะมีคำพูดใหม่ที่เด็กนำมาพูดกับจินตนาการของพวกเขา ที่เริ่มอธิบายว่าพวกเขาเคยเป็นใคร รู้อะไรบ้าง มันต้องทำกับการที่พวกเขารู้สึกสบายมากแค่ไหนกับที่ๆพวกเขาเคยอยู่ มันเป็นการรู้ว่ามีสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าคุณ คุณพ่อ คุณแม่ทั้งหลาย ลูกของคุณรู้มัน ในบางระดับ ระดับไร้เดียงสา ระดับข้อเท็จจริง ในที่สุดสิ่งนั้นจะเปลี่ยนไปเป็นโลกที่รู้มัน และพระเจ้าจะไม่อยู่บนท้องฟ้าแยกขาดจากมนุษย์อีกต่อไป
คุณจะไม่ไปรายงานที่อาคารหนึ่งวันต่อสัปดาห์อีกต่อไป เพื่อแสดงความนับถือต่อบางสิ่งที่คุณไม่เข้าใจแต่คุณกลัว มันจะกลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณแทน สำหรับผู้ที่กำลังฟังในตอนนี้ และคนที่นั่งต่อหน้าเรา คำถามก็คือ ทำไมต้องรอด้วย ทำไมต้องรอ คุณอาจมาการประชุมนี้ พูดว่าฉันเข้าใจสิ่งเหล่านี้ มันเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องเปิดเผย ฉันอยู่ที่นั่น ฉันเข้าใจ มันดี แต่เราจะบอกสิ่งนี้แก่คุณ
ที่รัก เพราะเรารู้ว่าคุณคือใคร ที่กำลังฟัง ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน เรารู้ คุณยังไม่ได้เข้าสู่ขั้นตอนจริงๆ ความสอดคล้องของการรวมกัน ความสอดคล้องระหว่างคุณกับพระผู้สร้างของคุณภายในตัวคุณ ในระดับที่คุณออกจากที่นี่โดยปราศจากความกลัว รู้ภาพรวมที่ใหญ่กว่า ไม่ได้โดดเดี่ยว รู้ว่าคุณเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ รู้ว่าคุณสามารถรักษาตัวเองได้ รู้อย่างแน่นอนว่าคุณจับมือของเพื่อนที่ดีที่สุด มือที่อยู่กับคุณเสมอมาทุกภพชาติตลอดยุคสมัย
มันมาแล้วก็ไปในชีวิตของคุณ ปาฏิหาริย์แสดงออกมาแล้วก็หายไป คุณมองพวกเขาแล้วก็พูดว่ามันดีที่ฉันได้เห็นสิ่งคนอื่นไม่เข้าใจ ปาฏิหาริย์ที่แท้จริงก็คือการรวมกันระหว่างคุณ คุณมีปาฏิหาริย์ตลอดเวลา คุณเริ่มออกจากความมืดในความตกต่ำของชีวิต พวกคุณบางคนยังอยู่ในนั้น แม้ว่าคุณจะมานั่งในห้องนี้ ไม่ได้รู้ว่ามีแสงสว่างปริมาณมากมาย แค่รับมันไป
นี่เป็นข้อมูลภาคปฏิบัติ คุณสามารถทำมันได้ด้วยจิตสำนึกของคุณเอง ความคิด ความเชื่อ และคุณสามารถรับรู้สิ่งที่คุณปรารถนาได้ หมายความว่าคุณสามารถเชื่อในสิ่งที่คุณปรารถนาได้ นั่นคือทางเลือกเสรี และคุณสามารถเชื่อในความกลัวได้ คุณสามารถเชื่อว่าไม่มีอะไรดีขึ้นได้ นั่นคือทางเลือกของคุณ ขณะที่คุณเชื่อในความมืดจะมีแสงสว่างรอบตัวคุณ จะมีพระผู้สร้างที่สร้างคุณที่อยู่ถัดจากคุณ กำลังพูดว่า นั่นเป็นทางเลือกของคุณ นี่คือความลึกซึ้งของทางเลือกเสรีสำหรับมนุษย์
สิ่งนั้นมีความหมายอะไรต่อโลกวิญญาณ มันเป็นข้อเท็จจริงที่มนุษย์แสดงว่าจะผ่านการยกระดับ เพราะว่ามีพวกเขามากขึ้นเริ่มรู้สึกได้ถึงความเป็นหลากมิติที่พวกเขามี เราจะไม่ทำให้คุณเบื่ออีกกับข้อมูลที่เราให้มาหลายครั้ง คุณไม่ใช่อารยะธรรมแรกบนโลกนี้ อารยะธรรมก่อนคุณคิดไม่ออก อารยะธรรมก่อนคุณทำลายตัวเอง และคุณจะมีหลักฐานของมันในที่สุด คุณอยู่ที่นี่มานานกว่าที่คุณคิด และคุณก็มีส่วนร่วมกับอารยะธรรมที่ทำลายตัวเอง เมื่อคุณมาถึงการยกระดับ การครบรอบการหมุนควงของอิควินอกซ์
เมื่อคุณมาถึงมัน มันเป็นจิตสำนึกที่เห็นว่ากำลังมา และก็กลัวมัน อีกครั้งแล้ว ครั้งนี้มันจะไม่ได้ผลเหมือนกับครั้งก่อน ในการสื่อความและทุกสิ่งที่คุณเห็นว่าไร้สาระ เพราะความกลัวและความทรงจำที่คุณเคยทำมาก่อนใหญ่กว่าแสงสว่างที่มากับข่าวดี ตั้งแต่คุณผ่านมันเข้ามา คุณเริ่มเชื่อบ้างหรือเปล่า ว่าโลกนี้สามารถมีบางสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนได้ ความมีวุฒิภาวะ ความเติบโต การวิวัฒนาการของจิตสำนึก และตอนนี้คุณเริ่มได้เห็นสิ่งที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน
กลุ่มคนวัดค่าจิตสำนึก วิทยาศาสตร์สนใจแกะรอยจิตสำนึกและให้คำจำกัดความกับมัน วิทยาศาสตร์จะเริ่มรวมมันเข้ากับฟิสิกส์ บอกว่ามันต้องเล่นกับฟิสิกส์เพราะมันมีผลกระทบต่อฟิสิกส์ นั่นเป็นของใหม่ มันเพิ่งเริ่มต้น แต่คุณเห็นมันแล้ว ในกลุ่มนี้ ในการประชุมนี้ ที่นี่ในวันนี้ คุณได้เห็นมัน วิธีการวัดค่าความสอดคล้องระหว่างบุคคล หรืออาจเป็นความสอดคล้องภายในตัวมนุษย์ พวกเขามีความสุขกับตนเองอย่างไร เราจะบอกคุณว่าสิ่งนั้นกำลังไปที่ไหน พลิกไปอีกหน้าหนึ่ง
ตอนคู่หูของเรายังเด็กมาก เขาได้เข้าร่วมการประชุมที่เขาไม่เคยลืม ครั้งหนึ่งในลอส แองเจลิส โบสถ์พาเขาไปที่นั่น คนหกพันคนในหอประชุมขนาดใหญ่เพื่อดูคนๆหนึ่ง พวกเขาตื่นเต้นกับคนๆนั้นมากเพราะผู้หญิงคนนั้นเป็นที่รู้กันว่าเป็นผู้รักษา แต่ไม่ใช่แค่ผู้รักษา ผู้หญิงคนหนึ่งที่รู้กันว่าสามารถสร้างปาฏิหาริย์ตามกำหนดเวลาได้ รถเข็นคนป่วยเข้าแถวเพื่อเข้าไปหาผู้รักษา
ผู้หญิงคนนั้นแน่ใจมากสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น เธอเชิญหมอในพื้นที่นั้นมาตรวจสอบคนที่ได้รับการรักษา ผู้ชมนั่งเงียบ ในที่สุดก็พร้อมที่จะเริ่ม หลังจากกล่าวข้อความสั้นๆ ที่ดูเหมือนไม่ต่อเนื่องกัน เธอเริ่มกระบวนการทีละคน คนที่ขึ้นบนเวทีถูกเลือกแบบสุ่ม มีคนมากเกินไปที่จะรักษาพร้อมกันทั้งหมด ผู้ชมได้มีประสบการณ์ปาฏิหาริย์
คู่หูของเราพาผู้หญิงพิการคนหนึ่งไปกับรถเขาด้วย โบสถ์รู้เกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้ คู่หูของเราด้วย รู้จักชื่อของเธอ รู้สภาพแวดล้อมของเธอ เห็นเธอกลายเป็นคนพิการมาตลอดหลายปี เธอเป็นคนหนึ่งที่ได้รับเลือก เธอนั่งรถเข็นไปหาผู้หญิงคนนั้น ที่มีอายุพอๆกับเธอ ช่วยสร้างพลังงานที่เกิดขึ้น ผู้ชมหกพันคนเงียบมากจนถึงกับได้ยินเสียงเข็มตกลงพื้น ได้ยินเสียงลมหายใจ สิ่งที่คุณได้ยินจะกระจายไปสู่กลุ่ม
ผู้คนร้องไห้ให้กับความงดงามของสิ่งที่พวกเขาเห็นในสถานที่นั้น กับคนทั้งหมด ผู้หญิงสัมผัสคนพิการ คนที่คู่หูของเราพาขึ้นรถไปด้วย แล้วเธอก็ลุกขึ้นจากรถเข็น เขามีความหวังกับเธอ เธอไม่กลับมาพิการอีก เขาเห็นว่านี่คือปาฏิหาริย์ ความประทับใจของเด็ก พระเจ้ามีจริง แต่กระบวนการมีความลึกลับ ตอนนี้ เราจะเปิดเผยบางสิ่งแก่คุณ มันเรียกว่าความสอดคล้อง
เมื่อคนหกพันคน ทุกคนเชื่อว่าพวกเขาจะได้เห็นปาฏิหาริย์จากคนที่เชื่อว่าเขาสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้ พวกเขาอยู่ที่นั่น ครั้งแล้วครั้งเล่าตลอดทั้งวัน เด็กเดินได้ขณะที่พวกเขาไม่เคยเดินได้มาก่อน ผู้คนได้เห็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน คู่หูของเราไม่เคยพูดถึงมัน เพราะมันมาจากโบสถ์ และเขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโบสถ์เมื่อเข้าเริ่มสื่อความ แต่ตอนนี้เขาเห็นแล้วว่า เขาเป็นส่วนหนึ่งของมนุษย์ที่สร้างมันขึ้นมา
พระเจ้าภายใน คนหกพันคนในความสอดคล้องเต็ม 100% สร้างปาฏิหาริย์ด้วยกัน นั่นคือสิ่งที่คุณเห็น แล้วคุณกำลังทำอะไรในตอนนี้ คุณจะทำอะไรอีก ในเวลาที่มีแสงสว่างปริมาณมาก และคนจำนวนน้อยสามารถทำด้วยกันได้ ปาฏิหาริย์สามารถเกิดขึ้นที่นี่ได้ ปาฏิหาริย์ที่นี่ในวันนี้ คนสามคนที่นี่เป็นอย่างไร  คนทั้งหมดที่นี่เป็นอย่างไร
คุณกลายเป็นสอดคล้องอย่างมากกับความคาดหวัง ของอะไรที่เป็นไปได้ที่ทุกคนออกไปด้วยการรักษา นั่นคือที่ๆกำลังไป วันหนึ่งจะมีการประชุมเพื่อการรักษาอย่างเดียว สำหรับคนที่ค่อนข้างไม่สอดคล้องกับพระเจ้าหลากมิติจะมา แล้วกลุ่มก็สอดคล้อง จะสร้างการรักษา ทั้งหมดทำกับจิตสำนึก ไม่มีสารเคมีเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่มียา ทั้งหมดที่ใช้ก็คือความสอดคล้อง 100% ของคนที่รู้ว่ามันได้ผลอย่างไร
มันใช้คนที่เชื่อหกพันคน อยู่ในความเป็นจริงของสิ่งที่พวกเขาเห็น นั่นคือพวกเขาเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น และพวกเขาทุกคน ให้พวกเขาทั้งหมดนอนหลับ ให้ตึกนั้นรู้ว่าพระเจ้าเป็นของจริง และมีอะไรในที่นี้มากกว่ามนุษย์ นั่นคือชนิดของความเชื่อที่ใช้ คุณรู้มันก่อนไปถึงที่นั่น คุณคาดหวังมัน มันจะไม่เป็นกับผู้รักษาคนเดียว มันจะเกิดขึ้นกับการร่วมกันของความเข้าใจ ในระบบที่คุณยังไม่เห็นในตอนนี้ ระบบของการรักษาที่กลุ่มทำกับกลุ่ม
คุณสามารถทำได้ในระยะไกล มันจะกวาดโลกเมื่อมันเริ่ม มันจะพลิกคว่ำพลิกหงายทุกสิ่งที่คุณถูกสอนมาว่าเป็นพระเจ้า มันจะไปเร่งระบบที่งดงาม มันจะไม่ล้มล้างระบบ มันจะขยายระบบ คุณได้ยินหรือเปล่า สำหรับศาสนาจะชนะด้วยกันทุกฝ่าย เพราะศาสนาทำงานกับความรักของพระเจ้าอยู่แล้ว ทั้งหมดที่พวกเขาจะทำก็คือ ทำงานกับสิ่งที่พวกเขาเชื่ออยู่แล้วและขยายมัน และเห็นว่ามันมีให้กับศาสนาอื่นทุกศาสนา พวกเขาจะหลอมรวมกันในความร่วมมือ จะมีความสอดคล้องของความรัก
ระบบศาสนาต่างๆไม่จำเป็นต้องหลอมรวมกันเป็นศาสนาเดียว พวกเขาแค่เข้าใจว่าแต่ละศาสนารับใช้วัตถุประสงค์เดียวกันบนโลก รู้ถึงความงดงามของพระเจ้า พวกเขาสามารถรักษาความเชื่อส่วนใหญ่ของพวกเขาไว้ได้ พวกเขาแค่จัดระเบียบมันใหม่ในหนทางที่งดงาม มันเป็นการขยาย ไม่ใช่การรื้อทิ้ง ไม่ใช่กำจัด นี่คือความมีวุฒิภาวะและภูมิปัญญาของสิ่งที่กำลังมา ต่างจากที่คุณคิด เนื่องจากสิ่งที่คุณเห็นในวันนี้บนจอภาพ ที่เป็นไปได้ แม้จะเป็นคนเดียว นี่คือที่ๆมันเริ่มต้น
เรื่องราวเป็นความจริง คู่หูของเราไม่ได้คาดหวังว่าจะพูดเรื่องนี้ เมื่อคุณเริ่มมองดูว่าความสอดคล้องจะไปทางไหน เมื่อคุณดูว่าความสอดคล้องจะไปทางไหนและการศึกษาในทางวิทยาศาสตร์ของมัน อะไรเป็นไปได้กับมนุษย์ เรามาอยู่ที่นี่เพื่อบอกคุณว่า อะไรเป็นไปได้กับมนุษย์ เราเคยเห็นมาก่อน โลกอื่นเคยผ่านมาแล้ว และมันจะไม่เร็ว
วันนี้ เราให้คุณแค่การแอบมอง อะไรเป็นไปได้สำหรับจิตสำนึก ต่อไปจะเป็นอย่างไรสำหรับคุณถ้าคุณเลือกด้วยทางเลือกเสรีของหัวใจของแต่ละคนในห้องนี้ ทำไมไม่ใช่ตอนนี้ คุณจะทำอย่างไรกับข้อมูล มันถูกต้อง นั่นคือทางเลือกพื้นฐานที่คุณมี คุณจะกลับบ้าน ทานอาหารให้อร่อย แล้วก็ลืมมันไป หรือคุณจะกลับไปด้วยความแตกต่างจากตอนมา แตกต่างกันมาก
วันหนึ่ง คุณจะชี้มาที่การประชุมนี้แล้วพูดว่า นี่คือตอนที่ฉันรู้มัน นี่คือตอนที่มันมีเหตุผล นี่คือตอนที่ฉันจับมือกับพระเจ้าภายใน ที่ฉันไม่เข้าใจว่ามีอยู่ ถ้านี่คือคุณ คุณจะจำมันได้ตลอดชีวิต มันเป็นวันที่ดีสำหรับความสอดคล้อง

And so it is.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น