วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2559

Sat - Apr 2, 2016 - Berkeley Springs, West Virginia – “Melding with Real Physics”



Berkeley Springs, West Virginia – “Melding with Real Physics” 

Saturday - April 2, 2016

Mini Channeling  :

Greetings, dear ones, I am Kryon of Magnetic Service.  ที่นี่มีการหยั่งรู้ กลุ่มที่พูดกันว่ามันเกิดขึ้นจริงๆหรือไม่ใช่ โลกวิญญาณเคารพมนุษย์ การดำรงอยู่ของทุกสิ่งมักจะเป็นแบบมนุษย์มอบให้กับมนุษย์ การคิดค้นทั้งหมดมาจากมนุษย์ ข่าวสารทางวิญญาณทั้งหมดมาจากมนุษย์ หนังสือต่างๆที่เขียนขึ้นซึ่งเป็นคำสอน มาจากมนุษย์ สิ่งที่คุณบอกว่าเป็นคำพูดของพระเจ้า มาจากมนุษย์ และกระบวนการที่คุณเห็นในตอนนี้เป็นเรื่องยากสำหรับบางคน
เราเคยได้ยินคำถามนี้มาก่อน นายลีอยู่ที่ไหน ตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีกระบวนการที่เขาได้เรียนรู้ เขาอยู่ที่นี่ เขาขยับออกไปข้างๆ อย่างสะอาดหมดจด ไม่ใช่แค่นั้น เขาไม่ได้เป็นคนพูด แต่เขาอนุญาตให้บางสิ่งผ่านเข้ามา ที่รักไม่ได้มีกรณีอย่างนี้เสมอไป เราบอกเขามาก่อนว่า ถ้าเขาทำถูกต้อง มันจะพ้องกันกับการยกระดับ ผู้คนจะได้ยินเสียงและข้อมูลและพวกเขารู้ว่ามันจริง
ความเป็นจริงในวันนี้ก็คือการยกระดับขึ้นอยู่กับคุณในหนทางที่ยิ่งใหญ่ คนทุกคนบนโลกนี้มีความเป็นเฉพาะตัว การดำรงอยู่ของมันมีผลกระทบต่อคุณแตกต่างกันไป บางคนบอกว่าเป็นการดีที่ได้ฟังสิ่งนี้แต่ฉันแค่รู้สึกสบาย ไม่มีอะไรที่ฉันชี้ไปแล้วแตกต่าง ฉันคาดหวังสิ่งนั้นสิ่งนี้ มีคนอื่นที่มีความคิดที่แตกต่าง มันเกิดขึ้นนอกเวลางาน และพวกเขาตระหนักว่ามีความแตกต่าง อีกกลุ่มหนึ่งบอกว่าฉันไม่เห็นว่าตัวเองแตกต่างตรงไหน แต่คนรอบๆตัวฉันเปลี่ยนไป มันเป็นของเฉพาะตน พวกคุณแต่ละคนเป็นผลผลิตมาจากสิ่งที่คุณเคยเป็นมา
ในกลุ่มนี้เราพูดกับวิญญาณเก่าแก่ เก่าแก่มากๆ คนที่อายุน้อยที่สุดอาจเป็นวิญญาณที่เก่าแก่ที่สุด วิญญาณเก่าแก่คือคนที่มีแก่นแท้ของวิญญาณของเขา วิญญาณของการสร้างสรรค์ ที่อยู่ที่นี่เสมอมา คนที่เคยอยู่บนโลกนี้มาหลายภพชาติครั้งแล้วครั้งเล่า ดังนั้นข้อความนี้จึงกังวานผ่านเข้าไป เราอยากบอกคุณเกี่ยวกับโลกวิญญาณ เพราะว่าเรากำลังจะเปิดเผยบางสิ่งในคืนนี้ และพูดเกี่ยวกับสิ่งใหม่ในคืนนี้ ที่ต้องทำกับความเป็นจริง ที่ต้องทำกับจิตสำนึกที่กำลังเปลี่ยนแปลง ฟิสิกส์ที่กำลังเปลี่ยนแปลง โลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง กระบวนทัศน์ที่กำลังเปลี่ยนแปลง กระบวนทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงจากที่เคยเป็นมาอย่างมาก และหนึ่งในนั้นเราได้เคยอธิบายมาก่อน ตอนนี้เราจะอธิบายอีกครั้งเพื่อให้กระชับมากขึ้น
โลกวิญญาณอยู่ในฟิสิกส์ธรรมดา แหล่งกำเนิดแห่งการสร้างสรรค์ได้สร้างแบบแผนของจักรวาล ของแกแลกซี่ กฎทางฟิสิกส์ คุณมีชีวิตอยู่ในฟิสิกส์ที่จำกัด ดังนั้นทุกสิ่งที่ก้าวล้ำกว่ากล่องที่คุณมา คุณอยู่ คุณถูกสอนมา ดูเหมือนประหลาดสำหรับคุณ รวมถึงผู้ชายที่เก้าอี้คนนี้ด้วย แต่พวกคุณทุกคนมีกลไกอย่างหนึ่ง ที่อยู่นอกกล่อง มันคือการเชื่อมโยงกับโลกวิญญาณของวิญญาณของคุณเอง
คุณสามารถเรียกมันได้ว่าตัวตนที่สูงกว่า คุณจะเรียกมันว่าอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ จากจุดเริ่มต้นของมนุษยชาติ จากจุดเริ่มต้นของเวลา เมื่อมนุษย์ชาติเริ่มเรียนรู้ที่จะออกจากกล่อง พวกเขารู้สึกถึงการเชื่อมต่อ มีคำที่ใช้เรียกพระเจ้ามากมาย บางคนโดยเฉพาะคนโบราณตระหนักว่าพระเจ้าไม่ได้อยู่เบื้องบน พระเจ้าอยู่ที่นี่ การกระทำในภายในไม่ใช่ภายนอก การรวมกันของภายในและภายนอกกลายเป็นการบรรจบกัน การเชื่อมต่อ การพัวพัน ที่ให้บางสิ่งที่คุณไม่เคยมีมาก่อนแก่คุณ แต่ด้วยทางเลือกเสรี คุณต้องเปิดประตูเพื่อรับมัน นั่นเป็นเรื่องธรรมดา
โลกวิญญาณและวิธีการทำงานของมัน มีการรับรู้ คำถาม บางครั้งประตูก็เปิดขึ้น เมื่อคุณตระหนักว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของคุณไม่ใช่ภายนอก ประตูเปิดขึ้น จากนั้นบางสิ่งก็เริ่มเกิดขึ้น คุณเชื่อมต่อกับฟิสิกส์อย่างเต็มที่ แทนที่จะเป็นฟิสิกส์ที่จำกัด คุณเริ่มมีสิ่งนี้ในชีวิตของคุณซึ่งจะเปลี่ยนแปลงความสอดคล้องกันอย่างบังเอิญของคุณ(Synchronicity) ความโชคดี ความสัมพันธ์ ความเป็นคุณ อายุของคุณ
เราอยากพูดกับคุณในคืนนี้เกี่ยวกับ ทำไมคุณคิดว่ามันได้ผล เราอยากให้คุณในขั้นตอนของมัน คุณอาจไม่ชอบมัน มันเป็นทางเทคนิคมากเกินไป แต่มันมีเหตุผล มนุษย์ที่รัก ทั้งหมดที่เราสอนแก่คุณในทางวิญญาณมีเหตุผลทางวิญญาณ พระเจ้าไม่ได้เป็นทาสของนาฬิกาเหมือนคุณ คุณมีอดีต มีประตูที่จะผ่าน คุณมีสิ่งที่เรียกว่าในชั่วขณะแบบเดียวกับเข็มวินาที แล้วคุณก็เดินผ่านประตูไปกับเข็มวินาที คุณมีอนาคตที่ไม่รู้ศักยภาพ ประตูที่คุณผ่านเข้าไป ประตูไม่เคยเป็นประตูเดียวกันสำหรับคุณ เป็นคนละประตูกันเสมอมา เพราะว่ามันอยู่ในเส้นตรง
เข็มนาฬิกาในนาฬิกาของคุณเดินไปแบบเส้นตรง แต่แหล่งกำเนิดแห่งการสร้างสรรค์ไม่มีกาลเวลา คุณอาจเรียนรู้ว่าสิ่งที่ดีที่สุดอยู่ในขณะนี้ บางคนอาจสงสัยว่า แล้วขณะที่ไม่อยู่ใช่ขณะนี้ล่ะ ขณะนี้เป็นการรวมกันของอดีต ปัจจุบัน และอนาคต มันเป็นวงกลม และเพราะว่ามันเป็นวงกลม ที่รัก ในจิตสำนึกหลากมิติ วิญญาณเชื่อมต่อกับอีกด้านหนึ่งของม่านพราง คุณสามารถรู้สึกได้ว่าอะไรกำลังมาเพราะมันอยู่ในวงกลม เมื่อคุณมีความเป็นหลากมิติมากขึ้น ความเป็นจริงที่เคยเป็นแบบตามลำดับเริ่มยกระดับ
ผู้คนจะมองมาที่คุณแล้วถามว่า คุณทำได้อย่างไร คุณทำสิ่งนี้และสิ่งนั้นให้สำเร็จได้อย่างไร คำตอบเดียวที่คุณอาจมีก็คือ ฉันเชื่อมต่อกับแหล่งกำเนิดแล้วได้รับในสิ่งที่ฉันต้องการ ถ้านั่นคือคำตอบของคุณ เราอยากบอกคุณว่า มันเป็นคำตอบที่ถูกต้อง คุณต้องอธิบายการทำงานของเครื่องยนต์ให้ได้เพื่อสตาร์ทเครื่องหรือเปล่า คำตอบก็คือ ไม่ต้อง คุณสตาร์ทเครื่องแล้วคุณก็ขับรถออกไป เราจะบอกคุณว่า ในการยกระดับนี้ กับกระบวนทัศน์ใหม่นี้ นี่เป็นเวลาปล่อยวางคำถาม คำถามประเภท “ถ้าหากว่า” พยายามอย่างหนักเพื่อหน่วงเหนี่ยวคุณ ความรู้ที่ว่า ฉันต้องเข้าใจมัน มันไม่มีเหตุผล ฉันก้าวหน้าต่อไปไม่ได้ถ้าฉันไม่เข้าใจมัน
ตอนนี้ ทำไมคุณจึงไม่เชื่อมโยงแล้วก็ไป ความเข้าใจจะมาในเวลาของมัน มันเป็นอย่างนั้นเสมอ แต่ในการยกระดับนี้ วิญญาณเก่าแก่จะถูกร้องขอให้ขยับออกไป จับมือแห่งการหยั่งรู้ของพระผู้สร้าง แล้วทำสิ่งที่คุณไม่เข้าใจ มันเป็นความกล้าหาญเพราะว่ามันไม่ได้อยู่ในพลังงานของการเอาตัวรอด มันเป็นกระบวนทัศน์ใหม่ที่อยู่นอกกล่องของการเอาตัวรอด กระบวนทัศน์ที่จะได้เห็นมนุษย์ทุกคนไม่มีสงครามในที่สุด แนวคิดของการฆ่ากันเป็นความป่าเถื่อน ประวัติศาสตร์จะแสดงให้เห็นสิ่งนี้ และการยกระดับได้เริ่มขึ้นแล้วในตอนนี้
พวกคุณทุกคนมีส่วนร่วมไม่ต้องคำนึงว่าคุณคิดอย่างนั้นหรือเปล่า ขึ้นอยู่กับพลังงานของบันทึกอดีตชาติของคุณ เรากำลังพูดถึงหมอเวทย์มนต์ของที่นี่ ผู้ชายทุกคนในห้องนี้เคยให้กำเนิด ผู้หญิงทุกคนเคยฆ่าคนในสนามรบ คุณรู้สึกถึงสิ่งนี้หรือเปล่า ทั้งหมดอยู่ในที่ของมัน ถ้าเราถามคุณว่าลึกๆในตัวของคุณในตอนนี้ คุณมีปัญญาเหนือกว่าอายุของคุณหรือเปล่า ทุกคนในห้องนี้จะบอกว่า ใช่ คุณรู้สึกถึงมัน ถ้าคุณถามใครบางคนที่เพิ่งมาเกิดบนโลกนี้ พวกเขาจะไม่มี ถ้าคุณสัมภาษณ์คนๆนั้นแล้วถามว่าคุณมีปัญญาเหนืออายุหรือเปล่า พวกเขาจะมองมาที่คุณแล้วตอบว่า ฉันไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่องอะไร
มันไม่ใช่การหยั่งรู้ มันแค่คิดได้ คุณคิดได้มานานแล้ว นั่นคือเหตุผลที่คุณมานั่งฟังที่นี่ นี่เป็นเรื่องจริงสำหรับคุณหรือเปล่า เราอยากบอกคุณตอนนี้ ทำในสิ่งที่ไม่เป็นแบบตามลำดับ อย่าลุกขึ้นไปบอกเพื่อนบ้านว่าคุณจะเขียนหนังสือ หรือเข้าประชุมบ่อยครั้ง เราอยากให้คุณนั่งคนเดียวแล้วเชื่อมต่อ บางทีโลกวิญญาณจะพูดสิ่งนี้กับคุณ ทั้งหมดที่คุณต้องทำก็คือเพิ่มแสงสว่างในที่ๆคุณยืนอยู่ ในที่ทำงาน ที่บ้าน เดินทางจาก A ไป B แผ่กระจายแสงสว่างบนโลก นั่นก็เพียงพอแล้ว นั่นไม่ใช่แบบตามลำดับ ไม่ใช่ทำแต่เป็น มันเป็นเวลาที่คุณจะเข้าใจ เราจะกลับมาอีกด้วยสาระมากกว่านี้ อีกมาก

And so it is.
Melding with Real Physics  :

Greetings, dear ones, I am Kryon of Magnetic Service.  ในการสื่อความ 2-3 ครั้งหลังสุดนี้ เราได้พูดถึงเกี่ยวกับบางสิ่งที่เป็นจิตสำนึกแต่เป็นฟิสิกส์แก่คุณ แต่มันต้องทำกับภาวะหลากมิติของคุณ โครงสร้างเซลของคุณ จิตสำนึกของคุณ และวิธีที่คุณจะย้ายกระบวนทัศน์จากกระบวนทัศน์หนึ่งไปสู่กระบวนทัศน์อื่น วันนี้เราอยากขยายสิ่งนี้ การสื่อความนี้ไม่ได้เกี่ยวกับฟิสิกส์ มันเกี่ยวกับจิตสำนึก เกี่ยวกับคุณ เกี่ยวกับสิ่งที่กำลังมา อีกครั้งที่ตอนนี้เราอยากขอร้องให้คุณปรับค่าความเป็นจริงของคุณในห้องนี้เสียใหม่
นี่คือข้อความจากโลกวิญญาณ เป็นข้อความของความกรุณา ข้อความที่งดงามจากแหล่งกำเนิดแห่งการสร้างสรรค์ที่รักคุณ คุณอาจพูดได้ว่าแหล่งกำเนิดแห่งการสร้างสรรค์มีจิตสำนึกที่สูงกว่าสิ่งใดๆที่คุณสามารถหยั่งวัดได้ ไม่มีที่ว่างให้กับความมืด ความรักเป็นราชาของอารมณ์สำหรับคุณ มันเป็นความกรุณาของพระเจ้าด้วยเช่นกัน ไม่มีพลังงานอื่นใดที่เหนือกว่านี้ มันแพร่หลายไปทั่วฟิสิกส์ ทั่วจักรวาล
วันหนึ่ง วิทยาศาสตร์จะคาดหวังความกรุณาที่ย้อนกลับมาจากการทดลอง การหยั่งรู้จะแสดงให้พวกเขาเห็นว่าต้องทำอะไรบ้างและไม่มีข้อสงสัยเลยว่าผลการทดลองจะเป็นอย่างไร พวกเขารู้สึกถึงความกรุณาก่อนที่จะทำการทดลองเสียอีก วิธีการทางวิทยาศาสตร์ทดสอบคุณสมบัติของบางสิ่งที่พวกเขารู้อยู่แล้ว ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสงสัย ทั้งหมดเป็นส่วนที่กำลังมา
เราได้ให้การสื่อความในอดีตโดยเฉพาะ 3 ครั้งหลังสุดนี้ แต่มันถูกขัดจังหวะด้วยการแปลภาษา ดังนั้นเราจึงอยากพูดบางอย่างของมันซ้ำอีกครั้ง โดยไม่ถูกขัดจังหวะจากการแปลภาษาและพูดในกรอบของภาษาและคำที่มีความเหมาะสมกว่า เราอยากพูดถึงนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งอีกครั้ง เขาคือไอน์สไตน์
ไอน์สไตน์ถกเถียงกับนักควอนตัมฟิสิกส์ในปีหลังๆ ไอน์สไตน์ไม่เชื่อในศักยภาพ ไอน์สไตน์เชื่อในเชิงประจักษ์มากกว่า และเรากำลังจะบอกคุณว่าผู้ชายคนนี้คือนักควอนตัมฟิสิกส์คนแรก และเราทำสิ่งนี้ด้วยการพูดว่าสิ่งที่เขาทำก็คือ แสดงให้คุณเห็นบางอย่างที่คุณคิดว่ามีความเสถียรอย่างสมบูรณ์ในเชิงประจักษ์และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้
ดังนั้นในทางฟิสิกส์โดยเฉพาะสิ่งที่คุณใช้ชีวิตอยู่ภายในนั้นและเรียกมันว่าความเป็นจริง มีสิ่งที่ประพฤติตนในหนทางที่แน่นอน มันเปลี่ยนแปลงไม่ได้ มันไม่สามารถทำได้ ถ้ามันเปลี่ยนแปลงมันจะไม่ใช่ความเป็นจริงของคุณ แล้วไอน์สไตน์ก็เข้ามาแล้วแสดงให้คุณเห็นว่าสิ่งที่มีเสถียรภาพที่สุดสิ่งหนึ่งที่คุณเชื่อกันทั้งโลก สามารถเปลี่ยนแปลงได้
ตอนที่ไอน์สไตน์แสดงทฤษฎีสัมพันธภาพของเขา มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับเวลา มันเป็นสิ่งที่เป็นเชิงประจักษ์อย่างมาก มีเสถียรภาพมากสำหรับคุณ คุณสามารถวัดเวลาได้ละเอียดถึงระดับนาโนวินาที คุณตัดเวลาแบบนั้นเพื่อให้มันแม่นยำ จนคุณรู้อย่างแน่นอนว่าส่วนนั้นเวลาเท่าใด เพราะว่ามันไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่มันเปลี่ยนแปลงได้
ไอน์สไตน์แสดงให้เห็นบางสิ่งที่ เราจะแสดงให้คุณเห็นว่ามันเป็นของคุณ เขาสมมุติให้คนๆหนึ่งอยู่บนยานอวกาศ และเดินทางด้วยความเร็วแสง ใช้เวลาเดินทาง 1 ปี แล้วกลับลงมาบนโลก เขาจะมีอายุเพิ่มขึ้น 1 ปี แต่บนโลกจะมีอายุมากกว่านั้น ด้วยการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงมากๆ เขาทำให้เวลาเดินช้าลงอย่างสัมพันธ์กัน จากที่ๆเขามา เขาไม่รู้สิ่งนั้นบนโลกจนกระทั่งพวกเขาได้พบกัน และมันก็ชัดเจน
สิ่งนี้ได้เขียนแนวคิดใหม่ทั้งหมด สิ่งที่คุณคิดว่าไม่เคยเปลี่ยนแปลง เป็นสิ่งที่ผันแปรได้ เราอยากให้คุณเริ่มต้นที่นั่น นั่นคือควอนตัมฟิสิกส์ เพราะมันเขียนสิ่งที่คุณคิดว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เสียใหม่ กลับมาที่ความเร็วสัมพันธ์กับเวลา ใน 3 มิติ ในกระบวนการคิดที่คุณมี แม้แต่ในมิติที่ 4 คุณทำทุกสิ่งให้เป็นแบบตามลำดับ สำหรับคุณมันต้องเป็นอย่างนั้น มันต้องมีเหตุผลสำหรับมนุษย์
ดังนั้นสำหรับคุณ ความเร็วจึงให้คำจำกัดความว่าช่วงเวลาระหว่างจุดสองจุด ถ้าคุณขับรถเร็วช่วงเวลาระหว่างจุดสองจุดจะสั้นกว่า บนเครื่องบินช่วงเวลาจะสั้นกว่า ถ้าคุณไปเร็วกว่าช่วงเวลาจะสั้นกว่า ทุกครั้งที่พูดถึงความเร็ว มันอยู่ในเส้นตรง ตอนนี้เราจะให้หลักเหตุผลส่วนตัวแก่คุณ คุณเดินทางได้เร็วในวงกลมหรือเปล่า ใช่ ไม่ต้องสนใจแรงสู่ศูนย์กลางที่คุณให้คำจำกัดความไม่ถูกต้อง ถ้าคุณเคลื่อนที่เป็นวงกลมแทนที่จะเคลื่อนที่เป็นเส้นตรง คุณยังสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วหรือเปล่า ใช่ ดังนั้นเรามาเคลื่อนที่เร็วมากในวงกลมกัน แทนที่จะเป็นเส้นตรง เราอยากให้คุณคิดถึงภาพนี้ในใจ แล้วเริ่มลดขนาดของวงกลม ลดลง ลดลง ลดลง จนขนาดของวงกลมมีขนาดเท่ากับเซลของคุณ
คุณเคยได้ยินคำพูดที่ว่าความถี่ในระดับสูงมาก่อน ความถี่สำหรับคุณคือการสั่นสะเทือนของการเคลื่อนที่ไปมา มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น มันเป็นวงกลม คุณสั่นสะเทือนเป็นวงกลม และในพลังงานนี้มันกลายเป็นหลากมิติ โครงสร้างเซลของคุณหมุนเร็วขึ้น คุณเริ่มเห็นภาพแล้วหรือยัง เกิดอะไรขึ้น เมื่อโครงสร้างเซลของคุณเริ่มหมุนเร็วขึ้นอย่างมาก มากกว่าคนอื่นอย่างมาก ตามทฤษฎีสัมพันธภาพบริสุทธิ์ ไม่ต้องสนใจขีดจำกัดของความเร็วที่ไอน์สไตน์ว่าไว้ คุณเห็นหรือไม่ว่ามันเป็นไปได้ที่นาฬิกาของคุณจะเดินช้าลง และนาฬิกาของคนรอบๆตัวคุณเดินเร็วกว่าของคุณ ที่รัก ผลของมันก็คือ คุณจะมีอายุยืนยาวขึ้น
เราเพิ่งให้เหตุผลทางควอนตัมแก่คุณ ที่ว่าวิญญาณที่สั่นสะเทือนด้วยความถี่สูงกว่าจะมีอายุยืนยาวกว่า นั่นเป็นเพราะคุณเปลี่ยนเวลาด้วยจิตสำนึกของคุณ เราทำอย่างนี้เพื่อให้คุณสร้างความสัมพันธ์กับสิ่งที่คุณรู้อยู่แล้ว ดังนั้นมันจึงไม่ใช่แนวคิดขั้นสูงทางอภิปรัชญาที่ไม่มีรากฐาน ไอน์สไตน์แสดงให้คุณเห็นอยู่แล้ว แต่คุณทำมันในระดับเซล
เรากำลังจะให้ข้อมูลบางอย่างที่เราไม่เคยเปิดเผยมาก่อน ที่จะมาสู่โลกและเป็นที่รับรู้กันในเร็วๆนี้ นักประดิษฐ์คิดค้นกำลังเคลื่อนที่เข้าสู่ความเป็นจริงหลากมิติ แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้มัน พวกเขาจะเริ่มใช้หลักการบางอย่างที่เป็นหลากมิติ ตอนนี้ให้เราพูดถึงกระบวนทัศน์ที่คุณคุ้นเคย มันเป็นอย่างนี้ ทุกกลไกที่ทำงานได้จะต้องมีแหล่งพลังงาน น้ำที่ต้มด้วยไฟ จะต้องมีไฟ ความร้อนเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักรไอน้ำหรือเครื่องจักรอื่นๆเพื่อขับเคลื่อนมัน ไฟสร้างแสงสว่าง ไฟสร้างการประมวลผล ไฟสร้างสิ่งนั้นสิ่งนี้ ทั้งหมดล้วนแต่ต้องเผาบางสิ่งบนโลกนี้ น้ำมัน หรือบางสิ่งที่คุณสร้างขึ้นมา ตอนนี้คุณทำมันได้ดีมากๆ ในเรื่องประสิทธิภาพของการใช้ไฟ นี่เป็นการอุปมา
แต่มันก็ยังคงต้องมีแหล่งพลังงาน ดังนั้นกระบวนทัศน์ที่เรากำลังให้คุณที่อยู่ใน 3 มิติ เพื่อให้มีสิ่งที่เรียกว่าพลังงาน คุณต้องมีสิ่งนั้นเพื่อเริ่มมันไม่ว่ามากหรือน้อย นั่นคือกระบวนทัศน์แบบ 3 มิติ มันต้องมาจากบางสิ่งที่อยู่ต่อหน้าคุณ เพื่อพัฒนามันให้เป็นอย่างอื่น แล้วคุณก็เข้าใจมัน เราบอกว่า ดีมาก
แล้วพลังงานควอนตัมเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร พลังงานควอนตัมไม่ได้เป็นแบบเส้นตรง ถ้าเราบอกว่ามันไม่ต้องมีแหล่งพลังงาน เราพูดผิด แต่เราจะบอกคุณว่า มันไม่ได้ต้องการแหล่งพลังงานแบบ 3 มิติ นี่คือความจริงที่นักควอนตัมฟิสิกส์และนักประดิษฐ์จะรู้ เพื่อที่จะได้มีพลังงานควอนตัม เพื่อให้ได้ทำงานกับมัน พัฒนามัน ใช้มัน มันต้องมีแหล่งกำเนิดควอนตัม คุณไม่สามารถสร้างพลังงานควอนตัมได้ หรือสร้างสิ่งใดๆ ใช้มันโดยปราศจากแหล่งพลังงานควอนตัมได้
ให้เราให้คำจำกัดความคำว่าควอนตัม ในปัจจุบันนี้มันหมายถึงภาวะหลากมิติ ไม่ใช่คำจำกัดความมาตรฐานของนักควอนตัมฟิสิกส์ เราให้ความหมายกับมันแตกต่างออกไป มันหมายถึงภาวะหลากมิติ พลังงานหลากมิติแบบใดก็ตามที่พัฒนาขึ้นบนโลกนี้ จะต้องมีแหล่งพลังงานหลากมิติ เรียกได้ว่าต้องมีแรงดึงและแรงผลัก เพราะว่าเมื่อพวกเขาเข้าใจพลวัตของภาวะหลากมิติ มันจะทำงานในแบบดึงและผลัก ในโลกแบบตามลำดับ แหล่งพลังงานหนึ่งจะแค่ผลักมันไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง เพื่อเติมพลังให้กับบางสิ่งแล้วก็ทำบางสิ่ง ไม่มีการดึงและผลัก
พลังงานดึงและผลักที่ใกล้ชิดคุณมากที่สุด ถูกพัฒนาขึ้นด้วยจิตใจแบบหลากมิติ นั่นก็คือไฟฟ้ากระแสสลับ นั่นคือการดึงและผลัก ถ้ามีวิศวกรอยู่ในห้องนี้ คุณรู้ว่าเราพูดถูก คุณเห็นความสัมพันธ์ของเฟสในไฟฟ้ากระแสสลับ มันดึงและผลัก เทสล่ารู้เรื่องนี้แต่ยังไม่ใช่เวลาของมัน พลังงานควอนตัมต้องมีแหล่งพลังงานควอนตัม ถึงตอนนี้ ก่อนที่เราจะก้าวไปสู่ขั้นต่อไป คุณจะรับพลังงานควอนตัมได้จากที่ไหน
คุณรู้หรือเปล่าว่ามีนักชีววิทยาควอนตัม ถ้ามีนักชีววิทยาควอนตัมมาบอกคุณเกี่ยวกับร่างกายของคุณ ถ้าหากคุณเป็นควอนตัม จะมีแหล่งพลังงานควอนตัมอยู่ทั่วโลก หนึ่งในพลังงานที่ใหญ่ที่สุดบนโลกมีอยู่ และกำลังมองมาที่คุณ มันทำงานตลอด 24 ชั่วโมง นั่นคือแรงโน้มถ่วงเป็นควอนตัม แรงแม่เหล็กเป็นควอนตัม แสงสว่างเป็นควอนตัม แหล่งพลังงานควอนตัม และการพัฒนามันทำกับแหล่งพลังงานทั้งสามอย่างนั้น รวมถึงอีกหนึ่งแหล่งพลังงาน ตัวคุณ
ถ้าคุณมีร่างกายแบบควอนตัม นั่นหมายความว่าคุณสามารถทำสิ่งที่เป็นควอนตัมได้ แหล่งพลังงานอยู่ภายใน DNA ของคุณ นี่คือสิ่งที่สร้างความสามารถของคุณที่จะสั่นสะเทือนเร็วขึ้นด้วยจิตสำนึก คุณรู้หรือเปล่าว่าถ้าคุณสั่นสะเทือนด้วยความถี่สูงพอ และจิตสำนึกของคุณสูงพอ คุณสามารถรวมกับแหล่งกำเนิดแห่งการสร้างสรรค์ได้ เกิดอะไรขึ้น DNA ของคุณจะเริ่มทำงานด้วยระดับประสิทธิภาพสูงมาก คุณจะผ่านระดับ 44%  55% ไปถึงระดับ 80%-90%
ตอนนี้เราจะอธิบายบางสิ่งที่ขัดแย้งกันอย่างมาก ศาสดาของโลกมีระดับประสิทธิภาพของ DNA ที่ 90% และพวกเขาสามารถควบคุมฟิสิกส์ได้ พวกเขาสามารถเปลี่ยนสิ่งหนึ่งไปเป็นสิ่งอื่นได้ พวกเขาสามารถทำงานกับพลังชีวิตได้ พวกเขาสามารถทำให้วัตถุลอยได้ พวกเขาทำอย่างนั้นได้เพราะว่าพวกเขาเป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งที่อยู่รอบตัวพวกเขา ด้วย DNA ความถี่สูง เครื่องยนต์ควอนตัมมีอยู่แล้วภายในตัวคุณ สิ่งนี้จะอธิบายว่าทำไมพลังงานใหม่นี้และสนามแม่เหล็กจึงเป็นใจให้คุณก้าวหน้าไปได้ไกลกว่าเมื่อก่อน เครื่องยนต์ควอนตัมซึ่งก็คือร่างกายของคุณ จะสร้างความคิดแบบควอนตัม สิ่งประดิษฐ์ที่มีระดับความคิดสูงกว่าเพราะว่าคุณคิดออกจาก 3 มิติ
พวกคุณจำนวนมากจะแตกต่างจากครอบครัว จะมาถึงเวลาที่มนุษย์มองดูคนจำนวนน้อยที่แตกต่างจากคนจำนวนมาก และอีกครั้งที่คุณต้องเผชิญหน้ากับความไม่เห็นด้วยที่คุณใช้เวทมนต์ ไม่ได้เข้าใจว่า สิ่งที่คุณใช้คือความรักของพระเจ้า มันมีอยู่เสมอมา นี่เป็นเพียงแค่หนึ่งในหลายๆสิ่งที่เราอยากแบ่งปันกับคุณ แต่ถ้าเราอยากสรุปข้อความส่วนนี้ มันจะเป็นอย่างนี้ ทุกๆสิ่งที่คุณอยากให้สำเร็จเป็นส่วนตัวภายในตัวคุณ สามารถทำได้ด้วยการใช้เครื่องจักรควอนตัมที่ติดตั้งอยู่แล้ว กำลังรอให้สตาร์ทเครื่องเท่านั้น
จิตสำนึกของความคิด อารมณ์ความรัก ความกรุณา ความเมตตา เป็นตัวเร่งเครื่องยนต์ควอนตัม คุณชอบที่เราพูดสิ่งนี้อีกครั้งไหม คุณสมบัติของความรัก ความกรุณา ความเมตตา เป็นตัวเร่งเครื่องยนต์ควอนตัม นั่นคือสิ่งที่สตาร์ทเครื่องยนต์ ความกลัวจะดับเครื่องยนต์ มันจะสร้างมนุษย์ที่มีความถี่สูงกว่า อย่างที่ไอน์สไตน์พูดไว้ คุณจะอยู่เหนือคุณสมบัติของฟิสิกส์เมื่อคุณรู้มัน เมื่อคุณมีความถี่สูงกว่า คุณรู้หรือเปล่าว่า โรคทั้งหลายมีความถี่ต่ำกว่า คุณรู้หรือเปล่าว่าเมื่อโครงสร้างเซลของคุณมีความถี่สูงขึ้น ความถี่ที่ต่ำกว่าของโรคจะอยู่ไม่ได้
สิ่งที่ก้าวผ่านก็คือฟิสิกส์ ฟิสิกส์ของจิตสำนึก น่าสนใจใช่ไหม สิ่งประดิษฐ์ทั้งหมดที่คุณกำลังจะมีในทศวรรษหน้า สิ่งประดิษฐ์ทางควอนตัมที่กำลังจะเกิดขึ้น สิ่งหนึ่งที่คุณนำมาใช้เป็นอันดับแรกอยู่ภายในตัวคุณ เพราะว่าคุณต้องเริ่มสิ่งนั้นก่อนจะตามมาด้วยสิ่งอื่น เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ออกมาจากความคิดจากจิตสำนึกระดับสูง สิ่งนั้นจะสร้างรอยความทรงจำและรูปแบบของความคิด ที่จะเชื่อมต่อกับแหล่งกำเนิดของจักรวาล ที่ให้ฟิสิกส์ที่สมบูรณ์แบบกับคุณ ไม่ใช่ฟิสิกส์ที่จำกัดที่คุณกำลังมีชีวิตอยู่ในตอนนี้
สิ่งประดิษฐ์อยู่ในตัวคุณ รอการเชื่อมโยงกับแหล่งกำเนิดที่สร้างมันขึ้นมา เราอยากให้บางสิ่งแก่คุณเพื่อนำไปคิด เราอยากวาดภาพ เกี่ยวกับแหล่งพลังควอนตัมที่มีอยู่ทั่วโลก ไอน์สไตน์แสดงให้คุณเห็นว่าคุณสามารถเปลี่ยนเวลาได้ มันเป็นเรื่องธรรมดา มันได้รับการพิสูจน์แล้ว เรากำลังจะบอกบางสิ่งแก่คุณ ในฟิสิกส์ที่แท้จริง ไม่ใช่ในฟิสิกส์แบบจำกัด ไม่ใช่ฟิสิกส์แบบ 3 มิติ ในฟิสิกส์ที่แท้จริงทุกสิ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ มันเป็นระบบที่งดงาม เปลี่ยนแปลงได้อย่างเต็มที่ คุณสามารถเปลี่ยนแปลงได้
เมื่อคุณเรียนรู้เกี่ยวกับมันคืออะไร ใช้อย่างไร แล้วคุณก็พัฒนาสิ่งประดิษฐ์ เครื่องยนต์กลไก คุณจะมีการเปิดเผยอื่นด้วยเช่นกัน เครื่องยนต์กลไกสามารถเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายได้ เราจะละมันไว้ก่อน แต่นี่คือสิ่งที่เราอยากบอกคุณ นักฟิสิกส์บอกคุณเกี่ยวกับสสารว่าอย่างไร พวกเขาบอกคุณว่าส่วนใหญ่จะเป็นช่องว่าง เราจะยกตัวอย่างให้กับคุณ ที่อยู่นอกกล่องของฟิสิกส์แบบจำกัด คุณมีก้อนหิน และก้อนหินมีน้ำหนักประมาณหนึ่ง มันมีน้ำหนักเสมอมา คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นได้ ก้อนหินก็คือก้อนหิน
ถ้าเราบอกคุณว่า คุณสามารถเปลี่ยนแปลงน้ำหนักของก้อนหินได้ ถ้าคุณเข้าไปในก้อนหินในระดับอะตอม ส่วนใหญ่ของมันเป็นช่องว่าง นั่นหมายถึงมีที่ว่างมากมาย เพื่อที่จะเปลี่ยนความหนาแน่นของก้อนหิน แล้วทำไมทองคำและตะกั่วจึงมีน้ำหนักมากกว่าหิน คำตอบคือความหนาแน่น ดังนั้นถ้าคุณสามารถเปลี่ยนความหนาแน่นของก้อนหินในระดับโมเลกุลได้ คุณก็เปลี่ยนความหนาแน่นของมันได้ ตอนนี้ภายในก้อนหินส่วนใหญ่เป็นช่องว่าง คุณมีที่ว่างมากมาย ถ้าคุณรู้วิธีทำมัน เทสล่าทำมาแล้ว เทสล่าจะกลับมา
สิ่งนี้จะเกิดขึ้นกับมนุษย์ เมื่อพลังงานควอนตัมถูกนำมาใช้ คุณสามารถเปลี่ยนแปลงกฎของควอนตัมได้ ถ้าคุณเปลี่ยนแปลงความหนาแน่นของก้อนหิน คุณสามารถทำให้มันไม่มีน้ำหนัก คุณสามารถทำให้มันลอยได้ นั่นคือทั้งหมดที่คุณต้องทำ ที่รัก มันเป็นแค่ฟิสิกส์ที่เปลี่ยนแปลงได้ ที่ภายในกล่องของคุณ คุณคิดว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ คุณคิดว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเวลาได้เช่นกัน ตอนนี้เราอยู่ในมิติที่ 4 มันกำลังจะเกิดขึ้น จินตนาการสักครู่ว่า ถ้าหากคุณสามารถเปลี่ยนแปลงน้ำหนักของสิ่งของได้ และคุณสามารถทำได้อย่างง่ายดายด้วยแหล่งพลังควอนตัม ไม่ต้องใช้แหล่งพลังงานขนาดใหญ่ และแหล่งพลังงานอะไรที่คุณอาจใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงความหนาแน่นของสสาร พลิกไปหน้าใหม่
เรามีบางสิ่งให้คุณทำในตัวอย่างนี้ สมมุติว่าคุณอยู่ตรงหน้าแม่เหล็กที่มีพลังสูงมาก มันเป็นคู่ของขั้วบวกและลบ มันเป็นแม่เหล็กที่พิเศษมาก ยากที่จะแยกมันออกจากกัน เนื่องจากขั้วบวกและลบติดกัน มันจึงดูดกัน มันไม่ได้มีขนาดใหญ่ มันมีขนาดเล็กไม่ถึง 2 นิ้ว ไม่มีแหล่งพลังงาน มันเป็นแค่แม่เหล็ก 2 แท่งที่มีแรงดึงดูดสูงมาก มันมีแรงดึงดูดสูงที่สุดในโลก งานของคุณก็คือแยกมันออกจากกัน แล้วคุณก็เริ่มงาน
คุณจับมันดึงออกจากกันแล้วคุณก็หยุด รู้ดีว่าดึงมันออกจากกันได้ไม่ง่ายนัก คุณจึงยืนในท่าของนักยกน้ำหนัก คุณก้มลงเตรียมกล้ามเนื้อ คุณจับแต่ละแท่งแล้วเริ่มดึง มันยาก มันไม่แยกออกจากกัน มันดูดกันด้วยแรงแม่เหล็กที่แข็งแรงมาก คุณรู้ว่าถ้าหากคุณเลื่อนมันไปในทิศทางหนึ่งมันอาจแยกออกจากกันได้ คุณต้องระวังเพราะมันอาจหนีบมือคุณ ตอนนี้คุณกำลังขยายพลังงาน คุณกำลังใช้พลังงาน คุณขยายจิตสำนึกของคุณ ทำทุกๆทางเพื่อดึงมันออกจากกัน หยุดไว้ก่อนสักครู่
เราอยากให้ภาพนี้ตั้งมั่นอยู่ในจิตใจของคุณ คุณทำทุกอย่างที่คุณสามารถทำได้ ในที่สุดแม่เหล็กก็แยกออกจากกันด้วยพลังมนุษย์ของคุณ แต่เราอยากให้คุณหยุดภาพนั้นไว้ก่อน เพราะว่านี่คือความแตกต่างระหว่างพลังงานแบบ 3 มิติ กับพลังควอนตัม มนุษย์เป็นเครื่องจักร 3 มิติ ในตัวอย่างนี้ มนุษย์พยายามทำทุกอย่างด้วยพลังเพื่อดึงบางสิ่งออกจากกัน ถ้าคุณทำมันนานพอคุณจะเหนื่อย ถ้าคุณทำมันนานพอคุณต้องการพลังงาน คุณต้องการกินอาหาร เพื่อรักษาชีวิตเพื่อให้ใช้กล้ามเนื้อต่อไปได้ คุณจะสามารถดึงแม่เหล็กต่อไปได้ ถ้าคุณกำลังมีอันตรายถึงตาย คุณต้องดึงมันออกจากกันให้ได้ คุณจะเพิ่มความวิตกกังวลเข้าไปด้วย จากนั้นคุณต้องกินมากขึ้น
ตอนนี้กลับมาแล้วดูว่าแม่เหล็กกำลังทำอะไร ไม่ได้ทำอะไรเลย แรงชนิดไหนกันที่ทำงานตลอดเวลา แม่เหล็กมีแรงดึงดูดมากถึงขนาดที่คุณต้องพยายามดึงมันออกจากกัน และมันไม่ได้ทำอะไร มันแค่อยู่เฉยๆ ยาวนานจนคุณเหนื่อย มันก็ยังอยู่อย่างนั้น ยาวนานจนคุณตาย มันก็ยังอยู่อย่างนั้น มันยังคงมีพลังมากไม่เคยสิ้นสุด ไม่เคยจางลง มันคงอยู่ตลอดกาล
คุณจะอธิบายสิ่งนี้อย่างไร มันเป็นพลังแบบไหน ที่ไม่ต้องใช้พลังงาน ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า มีเพียงอำนาจแม่เหล็กเท่านั้น เราเพิ่งให้กุญแจสำหรับทำวัตถุให้ไร้น้ำหนักแก่คุณ มันจะมาจากแหล่งพลังควอนตัม พลังพลังควอนตัมจะเป็นอำนาจแม่เหล็ก แม่เหล็กได้รับพลังจากแหล่งพลังควอนตัมที่ดูเหมือนไม่ได้มีอยู่บนโลก มันอยู่ในทุกที่ มันเป็นส่วนหนึ่งของอีเธอร์ของพายุสุริยะ มันเป็นส่วนของอีธัลของช่องว่างระหว่างอะตอม
อำนาจแม่เหล็กและพลังอำนาจของมันมาจากแหล่งพลังที่คุณไม่สามารถอธิบายได้เพราะว่ามันไม่ได้เป็นแบบตามลำดับ มีนักฟิสิกส์กี่คนที่มองดูพลังอำนาจของแม่เหล็กแล้วก็ส่ายหัว คุณรู้วิธีใช้งานมันแต่คุณไม่รู้ว่าแหล่งพลังงานของมันมาจากไหน คุณรู้พลังงาน 3 มิติทั้งหมด ที่ต้องเติมเชื้อเพลิงเพื่อดึงมันออกจากกัน มันอยู่ในที่ของมันตลอดกาล มันไม่ได้สนใจ มันไม่เคยเหนื่อย ยินดีต้อนรับสู่อนาคต พลังงานมีอยู่มากมาย ที่ไม่ใช้แหล่งพลังแบบ 3 มิติ และนี่คือเขตแดนใหม่ เมื่อคุณสามารถทำสิ่งนี้ได้และไม่เอามันไปทำอาวุธ นั่นคือจิตสำนึกระดับสูง มันกำลังมา
พอแล้วสำหรับวันนี้ เพื่อให้ตัวอย่างแก่คุณว่าจิตสำนึกระดับสูงสามารถทำอะไรได้บ้าง คุณกำลังมุ่งหน้าไปทางไหน เพราะว่ามีการเชื่อมต่อจากแหล่งกำเนิดแห่งการสร้างสรรค์ ที่จะเปิดขึ้นและให้ความเมตตาแก่คุณ สิ่งที่คุณคู่ควร สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถให้ได้อย่างสมบูรณ์ขณะที่โลกในปัจจุบันอยู่ในสถานะของความไม่สมดุล สิ่งเหล่านี้จะชัดเจนและความไม่สมดุลจะลดน้อยลง คุณจะรู้สึกถึงมันได้ รู้มันได้ วันหนึ่ง จะมีการฆ่ากันน้อยมากบนโลกนี้ และมีความเข้าใจมากขึ้นบนโลกนี้ เมื่อคุณเห็นสิ่งนั้น มันจะเปิดพรหมแดนใหม่ของฟิสิกส์ เหมือนกับแม่เหล็กที่คงอยู่ตลอดกาล มันจะสร้างอาหาร น้ำ พลังงานให้แก่คุณ แม้แต่ความคิดของคุณ เพียงพอแล้ว
คุณเป็นแถวหน้าของทั้งหมดนี้ ดาวเคราะห์ดวงแล้วดวงเล่าเคยผ่านเหตุการณ์นี้ มันกำลังมา คุณอาจสงสัยว่าครายออน มันจะเกิดขึ้นในชีวิตของฉันหรือเปล่า เราจะตอบว่า แน่นอน คุณอาจดูแตกต่างจากนี้เล็กน้อย แต่คุณจะมีชีวิต คุณจะอยู่ที่นี่เพื่อดูมันทั้งหมด เพราะว่าคุณเป็นวิญญาณเก่าแก่ คุณต้องจ่ายเพื่อมาที่นี่ ชีวิตแล้วชีวิตเล่าที่คุณทำงานกับแสงสว่าง ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่แสงสว่างจะตอบแทนคุณ

And so it is.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น